วันนี้ (3 ก.ค.59 )ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่เลขที่ 23 ม.3 บ้านบุ่งค้า ต.พระธาตุ อ.เชียงขวัญ จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นบ้านของนางจันศรี โทวรร อายุ 57 ปี แม่และญาติ ของ น.ส. จุฬารัตน์ ครูอัตราจ้าง โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในอำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ที่ถูกคนร้ายเชือดที่ลำคอทำให้เสียชีวิตบนที่นอนในห้องเช่าของตัวเอง
โดยบรรยากาศที่บ้านของญาติผู้เสียชีวิตได้เตรียมสถานที่จัดงานศพไว้ที่วัดบ้านค้า ที่เป็นวัดประจำหมู่บ้าน โดยจะมีการตั้งศพบำเพ็ญกุศล 4 วัน และจะฌาปนกิจในวันที่ 6 ก.ค.นิ้
นางจันศรี แม่ผู้เสียชีวิต กล่าาว่า
สำหรับผู้เสียชีวิตคนคนสุดท้อง คนโตเป็นชาย อายุ 32 ปี เป็นครู กศน.,คนที่ 2 เป็นหญิง เป็นข้าราชการครู อายุ 29 ปี และผู้ตาย คนสุดท้องอายุ 26 ปี จบ ป.ตรี วิทยาศาสตร์ และจบแล้วไปเป็นครูโรงเรียนเอกชน เข้าปีที่ 3 แล้วได้เงินเดือน 15,000 บ เขียดส่งมาบ้านบ้างและส่งตัวเองเรียนต่อด้วย คิดไม่ถึงว่าจะเกิดเหตุร้ายเช่นนี้กับลูกคนสุดท้องที่เป็นคนเรียบร้อย ซึ่งทุกคนยังรับไม่ได้กับเรื่องนี้ ตนอยากฝากไปยังผู้รับผิดชอบการร่างกฎหมาย ให้พิจารณาเรื่องนี้ เพราะคนไม่ดี พ้นโทษออกมาก็จะมาก่อเหตุทำร้ายคนดีอีก ตนอยากให้การตายของลูกสาว เป็นรายสุดท้าย ที่เกิดเหตุแบบนี้ อยากให้มีการออกกฎหมายที่เด็ดขาดกว่านี้ ใครก่อเหตุเช่นนี้ ต้องกำหนดกฎหมายลงโทษให้ตายตกตามกันไป เพื่อที่จะไม่ให้ติดคุกพ้นโทษออกมา แล้วก็มาก่อเหตุอีก และจากที่ทราบ คือคนร้ายคนนี้เคยต้องโทษติดคุก แต่เมื่อพ้นโทษแล้วยังมาก่อเหตุอีก
ในขณะที่นางวงเดือน โพธิ์นาม ญาติคนหนึ่งกล่าวว่า อยากให้ใช้กฎหมายเข้มข้น อยากให้ฆ่าทิ้ง หรือประหารเลย เพราะคนร้ายรายนี้ออกจากคุกมาแล้วยังไม่สำนึก ออกจากคุกมาก็อาจจะมาทำแบบนี้อีกได้ อยากให้ลงโทษด้วยการเอาไปประหารชีวิต หรือไม่ก็เอาไปเผานั่งยางแบบที่อุดรธานี