นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้พาผู้เสียหายจากการฉีดฟิลเลอร์เดินทางมาที่สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อ ชี้ตัวนางสมสกุล มูลนาค อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่33/2559 ลงวันที่5 ก.พ. ในข้อหากระทำโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส ,ประกอบวิชาชีพเวชกรรม โดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนและรับอนุญาต ประกอบกิจการ และดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต หลังจากเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ไว้ตั้งแต่ปี 2558 แต่ไม่ได้รับการติดต่อใดๆ จนกระทั่งผู้เสียหายมาร้องเรียนต่อชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ทางชมรมจึงได้ประสานกัยเจ้าหน้าที่สน.ทุ่งสองห้อง จนทราบว่าผู้ต้องหามีหมายจับ แต่เจ้าหน้าที่อ้างว่าจะต้องมีรางวัลนำจับ ซึ่งตนได้บันทึกคลิปเสียงการสนทนาไว้ทั้งหมด จานั้นจจึงได้ประสานไปยังรองผกก.ปราบปราม จนสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ ซึ่งเรื่องที่เจ้าหน้าที่อ้างว่าต้องมีรางวัลนำจับนั้นขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว
พ.ต.ท.สุบรรณ์ อธิเศรษฐ์ รองผู้กำกับ(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีตามขั้นตอน และเมื่อศาลออกหมายจับก็สามารถติดตามจับผู้ต้องหาได้แล้ว โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ และก่อนหน้านี้ตำรวจได้นำสำนวนส่งอัยการไปแล้ว จากนี้จะนำตัวผู้ต้องหาส่งฟ้องต่อศาลแขวงพระนครเหนือต่อไป
ขณะที่ กรณีคลิปเสียงที่มีการเรียกรางวัลนำจับ จะต้องตรวจสอบต่อไป โด ยืนยันจะพิจารณาคดีด้วยความตรงไปตรงมาและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ด้านผู้เสียหายกล่าวว่า ที่ผ่านมาได้ฉีดฟิลเลอร์กับผู้ต้องหา 4-5 ครั้งครั้งละ 3 เข็ม เสียค่าใช้จ่าย เข็มละ 3,000 บาท หลังจากที่ฉีดเข็มที่ 5 ก็รู้สึกว่า ตาขวาพร่า เวียนหัว หน้ามืดและ อาเจียน แต่ผู้ต้องหาระบุว่าเป็นเพียงอาการของยาชาไหลเข้าดวงตา ให้นอนพัก 3-4 ชม. ก็หาย จึงชะล่าใจ ไม่ไปพบแพทย์ จนกระทั่งวันรุ่งขึ้นยังไม่หายดี จึงไปพบแพทย์โรงพยาบาล โดยแพทย์ระบุว่า มีสารเหลวไม่ทราบชนิดอุดตันเส้นเลือดดวงตา ทำให้ดวงตามองไม่ชัดเจน ซึ่งปัจจุบันดวงตาไม่สามารถกลับมามองเห็นได้ทำให้เดือดร้อนเป็นอย่างมาก
ที่มา : posttoday.com