หนุ่มคลั่งหนักเมายาบ้า พาลูกชายวัย 8 ขวบขี่จยย. ตามง้ออดีตภรรยาที่เลิกราไปมีสามีใหม่ แต่ไม่สำเร็จ ใช้มีดพร้าจี้คอลูกชาย 8 ขวบ หวังขู่บังคับให้กลับไปอยู่กินด้วยกัน แต่ลูกดิ้นตกใจจนคมมีดบาดคอเลือดสาด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตั้งจุดสกัด กระทั่งพบ นายนำโชค อายุ 29 ปี ขี่รถ จยย.พ่วงข้าง โดยมี ด.ช.เหน่ง อายุ 8 ขวบ นั่งมาด้วยในรถ สภาพมีเลือดสดๆไหลออกจากตรงลำคอ เปรอะเปื้อนร่างกาย เจ้าหน้าที่จึงได้พยายามเข้าจับกุม แต่ นายนำโชค ได้จอดรถและคว้ามีดพร้าวิ่งหนีในป่าในละเมาะริมถนน ตำรวจจึงรีบเข้าช่วยเหลือ ด.ช.เหน่ง นำส่ง รพ.ปากพนัง ซึ่งในเบื้องต้นพบว่า ลำคอถูกเชือดด้วยของมีคมเป็นแผลฉกรรจ์ แต่แผลไม่ลึกถึงหลอดลม ก่อนจะทำการปิดล้อมจับกุม นายนำโชค ที่วิ่งหนีเจ้าหน้าที่จนหมดแรง ไปนอนแผ่อยู่กลางป่าชายเลน
สอบสวน นายนำโชค รับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ได้อยู่กินกับ น.ส.รัตนา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี จนมีบุตรด้วยกัน 1 คนคือ ด.ช.เหน่ง แต่ต่อมาตนมีเรื่องทะเลาะกับ น.ส.รัตนา จนถึงขั้นเลิกรากันไป ทำให้ น.ส.รัตนา ไปมีสามีใหม่ ปล่อยให้ตนรับภาระเลี้ยงดู ด.ช.เหน่ง บุตรชายคนเดียว และ ด.ช.เหน่ง มักจะบ่นคิดถึงผู้เป็นแม่เป็นประจำ ก่อนเกิดเหตุตนจึงได้เสพยาบ้าเข้าไป 1 เม็ด ก่อนชวน ด.ช.เหน่ง ขี่รถ จยย.พ่วงข้าง ออกไปตามหา น.ส.รัตนา เพื่องอนง้อขอให้กลับไปอยู่กินฉันสามีภรรยา และช่วยกันช่วยเลี้ยงดูบุตรชาย แต่เมื่อพบ น.ส.รัตนา กลับยืนยันว่าจะไม่ยอมกลับไปอยู่กับตน จึงเกิดการโต้เถียงกันขึ้นอย่างรุนแรง จนตนบันดาลโทสะใช้มีดพร้าที่นำมาด้วยจี้คอบุตรชาย เพื่อต่อรองให้ น.ส.รัตนา เลิกกับสามีใหม่ และกลับไปอยู่กินกับตนเอง แต่บุตรชายเกิดตกใจและพยายามดิ้นรน จนคมมีดพร้าบาดเข้าที่คอหอยเลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมาก ทำให้ตนได้สติ จากนั้นจึงรีบนำบุตรชายขึ้นรถ จยย.พ่วงข้าง เพื่อจะนำตัวส่ง รพ. ปากพนัง กระทั่งมาถูกสกัดจับกุมดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา กระทำความรุนแรงในครอบครัว ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่ร่างกาย ขับรถในขณะมีสารเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ในร่างกาย และ เสพยาเสพยาบ้า