ที่เกิดพบกองเลือดจำนวนมาก ส่วนผู้บาดเจ็บคือ นายสันติพงษ์ งอกไข่น้ำ อายุ 37 ปี ลูกชายคนโตของนางหนูลิ้ม ถูกนำส่งโรงพยาบาลโรงพยาบาลพล แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองยาวแบบไทยประดิษฐ์เข้าที่บริเวณใต้รักแร้ข้างซ้าย จำนวน 1 แผล ทะลุด้านหลังใต้สะบักด้านขวา ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายนิรุธ งอกไข่น้ำ อายุ 33 ปี น้องชายแท้ๆของผู้เสียชีวิต หลังเกิดเหตุได้วิ่งหลบหนีไป ก่อนจะถูกตำรวจติดตามจับกุมตัวได้
จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ตายและผู้ต้องหาเป็นพี่น้องกัน ก่อนเกิดเหตุที่บ้านหลังดังกล่าว ได้จัดศพนางหนูลิ้ม ซึ่งเป็นแม่ของทั้งคู่ แต่ปรากฎว่าผู้ตายมาช่วยจัดงานศพแม่ให้ทุกอย่าง ส่วนผู้ต้องหาไม่ทราบว่าหายไปไหน กระทั่งวันจะเผาศพแม่ ผู้ต้องหาได้มาขอบวชจูงหน้าศพให้กับนางหนูลิ้มผู้เป็นแม่ เมื่อเสร็จพิธีฌาปนกิจศพแม่ ผู้ต้องหาได้สึกจากพระจูงหน้าศพแม่ตัวเอง และได้มานั่งโต๊ะคุยกับพี่ชาย พร้อมพ่อและญาติอีกหลายคน เพื่อที่จะมีการจัดงานบุญอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับนางหนูลิ้ม
แต่ระหว่างการพูดคุย ปรากฎว่าน้องชายกับพี่ชายเกิดทะเลาะกัน โดยพี่ชายได้ต่อว่าน้องเวลาจัดงานศพแม่ไม่รู้ไปไหน ตอนบวชหน้าศพแม่ถึงมาให้เห็นหน้า แล้วจะเข้ามาเจรจาจัดงานบุญให้แม่ทำไม ทำให้น้องชายซึ่งมีอาการเมายาบ้า โกรธมาก จึงไปเอาปืนลูกซองยาวแบบไทยประดิษฐ์ของพ่อที่วางไว้อยู่ในห้องนอนของพ่อ พร้อมกับบรรจุลูกปืนเบอร์ 12 อยู่ในปืนด้วยมายิงใส่พี่ชาย 1 นัด ล้มฟุบ กลางงานศพแม่แล้วหลบหนี ท่ามกลางความตกตะลึงของญาติพี่น้อง และพ่อของตนเอง กระทั่งผู้ต้องหาทราบว่าพี่ชายเสียชีวิต จึงสำนึกผิดตัดสินใจมากราบเท้าขอขมาพ่อ และกราบขอขมาร่างแม่ เนื่องจากเกรงว่าแม่จะนอนตายตาไม่หลับ ก่อนจะเข้ามอบตัว