เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 23 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีเกิดเพลิงลุกไหม้อาคารหอพักหญิง ภายในโรงเรียนพิทักษ์เกียรติวิทยา ภายใต้การดูแลของมูลนิธิพันธกิจสุขสันต์(องค์กรสาธารณะประโยชน์) เลขที่ 9 ม.11 ต.เวียง อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย เหตุเกิดเมื่อใกล้เที่ยงคืนที่ผ่านมา มีเด็กนักเรียนหญิงเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 17 คน บาดเจ็บอีกจำนวนมาก ช่วงเช้าของวันเดียวกันนี้ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ได้เข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ เพื่อตรวจหาต้นเพลิงและสาเหตุของไฟไหม้ในครั้งนี้ โดยเจ้าหน้าที่ยังไม่สรุปสาเหตุ จากการตรวจสอบคร่าวๆ ทราบว่าเพลิงได้ลุกไหม้จากด้านหลังของอาคาร ยังไม่ชี้ชัดว่าจากชั้นสองหรือชั้นหนึ่ง
เปิดไทม์ไลน์เหตุสลด เพลิงคลอกเด็กตาย17ศพ พ่อ-แม่ร่ำไห้ปิ่มขาดใจ!
ด้าน นายสหฤท พุ่มสุวรรณ เจ้าหน้าที่กู้ภัยสยามรวมใจ(เวียงป่าเป้า) ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ชุดแรก ที่เข้าไปถึงที่เกิดเหตุ เล่าว่า หลังจากรับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ ได้เดินทางมาพร้อมกับเจ้าหน้าที่อาสาสมัครหลายนาย และมีรถดับเพลิงของเทศบาลตำบลเวียงป่าเป้า เมื่อมาถึงเห็นเพลิงลุกไหม้จากด้านหลังอาคารลามขึ้นชั้นสอง มีกลุ่มควันและเปลวไฟพวยพุ่งสูงมาก มีเด็กบางคนพยายามปีนหน้าต่างกระโดดลงมาจากชั้นสอง ตนได้ใช้บันไดพาดขึ้นไปช่วยเหลือ
โดยเพื่อนอาสาสมัครกู้ภัยและเจ้าหน้าที่ดับเพลิง รวมทั้งตำรวจ ที่มาถึงที่เกิดเหตุ ต่างแยกย้ายหาทางช่วยเหลือเด็ก ซึ่งอยู่บนชั้นสองของอาคารหอพัก จุดที่ตนขึ้นบันไดไปนั้น เป็นห้องนอนรวมของเด็กนักเรียน พบว่าเด็กส่วนใหญ่นอนหลับหมดสติเกือบทั้งหมด คาดว่าได้รับควันพิษจากไฟไหม้ ตนได้ช่วยเหลือออกมาได้เพียง 7 คน เพราะควันหนามาก
ส่วนเจ้าหน้าที่อีกฝ่ายก็ต้องใช้วิธีงัดประตู เพื่อให้พนักงานดับเพลิงเข้าไปฉีดน้ำสกัดไฟ หน้าต่างชั้นล่างอาคารเป็นเหล็กดัดทั้งหมด ห้องที่เด็กตกใจตื่น และหนีไฟไหม้ ก็ต้องใช้วิธีโรยตัวด้วยเชือก บ้างก็ใช้ผ้าม่านมัดกับเหล็กหน้าต่างใช้ปีนหนีเอาตัวรอด มีหลายคนยอมเสี่ยงกระโดดลงมาจากชั้นสองเลยก็มี เพราะเด็กมีจำนวนมาก แย่งกันหนีไฟอย่างโกลาหล
สำหรับอาคารหอพักดังกล่าวในคืนที่เกิดเหตุ มีเด็กนักเรียนหญิงนอนพักผ่อนอยู่ภายในเกือบ 40 คน ช่วงที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ ก็เป็นช่วงที่เด็กกำลังหลับสนิท
ด้านกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) ได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกมาเก็บข้อมูลเบื้องต้น เพื่อเตรียมให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ปกครอง ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันเดียวกันนี้ เริ่มมีผู้ปกครองที่ทราบข่าวเดินทางมาติดต่อที่โรงเรียน ทางโรงเรียนจึงต้องใช้ห้องประชุมเป็นสถานที่พักผ่อน และรอรับเอกสารจากบรรดาผู้ปกครอง หลายคนร้องไห้ปานจะขาดใจเมื่อทราบข่าวว่าลูกของตนเสียชีวิตในกองเพลิง ทั้งนี้ บรรดาผู้ปกครองต่างช่วยกันปลอบซึ่งกันและกัน ส่วนใหญ่เป็นชาวชนเผ่าที่มีรายได้น้อย ทำให้บรรยากาศภายในห้องประชุมของโรงเรียนเต็มไปด้วยความโศกเศร้า
นางหมี ผาด่าน อายุ 35 ปี หนึ่งในผู้ปกครองที่ลูกพักอาศัยในหอพักที่เกิดเพลิงไหม้ รีบเดินทางมาที่โรงเรียนพิทักษ์เกียรติวิทยา หลังทราบข่าว โผเข้ากอด ด.ญ.จิตรดา ผาด่าน ลูกสาววัย 9 ขวบ ทั้งน้ำตานองหน้า เมื่อเห็นลูกสาวรอดตาย
นางหมี เล่าว่า พอเพื่อนบ้านแจ้งข่าวว่ามีไฟไหม้ที่โรงเรียน มีเด็กตายหลายคน ก็ไม่เป็นอันทำอะไร รีบออกจากบ้านมาถึงโรงเรียนตอนสายๆ เดินหาลูกของตน ตะโกนร้องเรียกไปทั่ว เห็นคนวิ่งไปมา มีคนร้องไห้มากมาย แต่เมื่อเห็นหน้าลูกสาวของตน ก็ดีใจ แต่ก็เสียใจกับผู้ปกครองที่เสียลูกรักของตนเองไปอย่างกะทันหันเช่นนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศพเด็กทั้ง 17 ศพ เจ้าหน้าที่นิติเวชนำไปเก็บรักษาที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ทางแพทย์นิติเวชจะทำการพิสูจน์อัตลักษณ์ และตรวจ DNA ซึ่งต้องส่งชิ้นเนื้อเยื่อไปตรวจที่โรงพยาบาลมหาราชเชียงใหม่ คาดรู้ผลอีก 2-3 วันข้างหน้า ก่อนส่งมอบศพคืนให้ผู้ปกครองนำไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป ซึ่งส่วนใหญ่ จะนับถือศาสนาคริสต์ ซึ่งเด็กแทบทั้งหมด เป็นเด็กที่มาจากครอบครัวที่ฐานะยากจน พ่อแม่เป็นชาวชนเผ่าที่มีอาชีพเกษตรกรรม ล่าสุดทางโรงเรียนประกาศหยุดเรียนอย่างไม่มีกำหนด ให้ผู้ปกครองมารับบุตร ตั้งแต่ชั้นอนุบาล ถึงชั้น ป.6 กลับบ้าน
ด้านโรงเรียนได้แจ้งรายชื่อนักเรียนที่เสียชีวิต ประกอบด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมได้สรุปผลการแก้ไขปัญหาว่า กรณีผู้เสียชีวิตได้นำศพไว้ที่โรงพยาบาลเวียงป่าเป้า เพื่อรอตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอ โดยทางสำนักงานสาธารณสุข จ.เชียงราย แจ้งว่าจะทราบผลภายใน 2 สัปดาห์ โดยจะตรวจทั้งหมดแม้ว่าจะทราบลักษณะรูปพรรณสันฐานชัดเจนแล้ว 5 รายก็ตาม เพื่อให้มีความชัดเจนแน่นอน ขณะที่คนบาดเจ็บทั้ง 5 คนมีบาดเจ็บสาหัส 2 ราย โดยเป็นเด็กหญิงที่ถูกไฟคลอก 23 % จำนวน 1 ราย ปัจจุบันรักษาตัวในห้องผู้ป่วยวิกฤตหรือไอซียู ส่วนอีกคนหมดสติ ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ แต่แพทย์ระบุว่าทั้งคู่พ้นขีดอันตรายแล้ว ส่วนอีก 3 คนได้รับบาดเจ็บไม่มากนัก ขณะที่ทาง พล.ต.ต.ธนยินทร์ ระบุว่า จนถึงปัจจุบันยังไม่สามารถระบุสาเหตุของการเกิดไฟไหม้ครั้งนี้ โดยรอผลจากตำรวจวิทยาการก่อน
ด้าน น.ส.อณิรา ธินนท์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จ.เชียงราย กล่าวว่า ได้จัดเจ้าหน้าที่ด้านจิตวิทยาพบปะกับผู้ปกครองที่สูญเสียและสอบสวนเรื่องสิทธิ์การได้รับการช่วยเหลือ โดยกรณีของผู้ปกครองที่ลูกหลานประสบเหตุ จะได้รับการช่วยเหลือเบื้องต้นรายละ 2,000 บาท เด็กทั่วไปที่ประสบเหตุได้รับรายละ 3,500 บาท และเด็กที่บาดเจ็บได้รับรายละ 8,500 บาท ช่วงนี้ทาง พม.ได้จัดรถรับส่งผู้ปกครองเด็กที่ต้องไปกลับระหว่างโรงเรียน โรงพยาบาล และภูมิลำเนา รวมทั้งประสานกับโรงเรียนจัดหาที่พักกรณียังต้องอยู่ในพื้นที่เกิดเหตุและจัดหาโรงเรียนกรณีมีผู้ประสงค์จะย้ายโรงเรียนต่อไปด้วย
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า ได้สั่งการให้คณะกรรมการ ภ.5 โดยมี พล.ต.ต.ทรงธรรม และ พล.ต.ต.ธนยินทร์ ดูแลโดยแยกเป็นหลายส่วนงาน ทั้งด้านสืบสวน สอบสวนและช่วยเหลือผู้ประสบเหตุตามคำสั่งของ ผบ.ตร.ที่เน้นย้ำเอาไว้ให้ ขณะเดียวกันได้แจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ตรวจทุกท้องที่ใน ภ.5 เจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆ เกี่ยวข้องกับการประชาสัมพันธ์ ฝ่ายทหาร ให้ช่วยกันประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนแต่ละโรงเรียนให้ระมัดระวังไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยขึ้นอีก