หนุ่มแช็ตลวงสาว 15 ก่อนโดนกักขังข่มขืนนาน 6 วัน

เมื่อเวลา 00.35 น. วันที่ 20 พ.ค. นางแสงเดือน (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี พร้อมด้วยสามี และญาติๆ เข้าขอความช่วยเหลือจาก พ.ต.ท.ชาญณรงค์ มากพิสุทธิ์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองอุดรธานี กรณี น.ส.พร นามสมมติ อายุ 15 ปี เศษๆ ลูกสาว ที่กำลังศึกษาอยู่ชั้น ม.4 โรงเรียนมีชื่อแห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น ได้หายตัวไปจากบ้านป่าสัง ต.ห้วยโจด อ.กระนวน จ.ขอนแก่น

โดย นางแสงเดือน แจ้งว่า เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 14 พ.ค. น.ส.พร ลูกสาวได้ออกจากบ้านขึ้นรถโดยสารจากหน้าหมู่บ้านไป แล้วไม่กลับมาบ้านอีกเลยมีเพียงโทรศัพท์มือถือและเงินติดตัวไม่กี่บาท เสื้อผ้าก็ไม่มีติดตัวไปด้วย จึงคิดว่าเดินทางไปหาเพื่อน แต่เมื่อไม่กลับบ้านจึงไปตามหาตามบ้านเพื่อน ก็ทราบว่า ลูกสาวจะเดินทางไปอุดรฯ และเมื่อตรวจสอบในเฟสบุ๊กของเพื่อนๆก็ทราบว่า ลูกสาวกำลังติดต่อกับนายตุ้ย หรือนายศรีศักดิ์ หนุ่มวัย 32 ปี อยู่ที่อุดรธานี จึงมั่นใจว่าลูกสาวถูกหลอก เพราะไม่เคยมีเพื่อนผู้ชายมาก่อน และไม่เคยหนีออกจากบ้าน

นางแสงเดือน ให้การต่ออีกว่า เมื่อทราบว่าลูกสาวถูกหนุ่มที่แช็ตเฟสบุ๊กล่อลวงไป จึงได้เดินทางไปแจ้งความไว้กับ พ.ต.ท.ปราโมทย์ ชาวี รองผู้กำกับการสอบสวน สภ.กระนวน จ.ขอนแก่น เพื่อให้ช่วยตามหาตัว ลูกสาว โดยระบุว่า เดินทางไปที่ จ.อุดรธานี ตามที่มีหลักฐานการแช็ตคุยกับเพื่อนๆ จากนั้นจึงได้เช่ารถกระบะของเพื่อนบ้านเพื่อออกตามหาลูกสาวโดยมีเพียงภาพถ่ายที่โชว์ในเฟสบุ๊ก ของลูกสาว และนายตุ้ย ศรีศักดิ์ ที่คาดว่าเป็นคนล่อลวงลูกสาว

จากนั้น พ.ต.ท.ชาญณรงค์ มากพิสุทธิ์ จึงได้พร้อมด้วย พ.ต.ต.อาทิตย์ จันทา สว.สส.ฯ ,ร.ต.ท.สุโธ โมรา ,ร.ต.ท.ทรงเกียรติ ขันธ์เขต ,ร.ต.ท.ไกรวัลย์ พิทักษ์วาปี ,ด.ต.ชุติพนธ์ วิลาวัลย์บุปผา และกำลังจำนวนหนึ่งนำภาพถ่ายนายตุ้ย ศรีศักดิ์ ไปตรวจสอบตามทะเบียนประวัติจนทราบว่ามีหน้าตาคล้ายนายตุ้ย ที่ทำงานในคณะเชิดมังกร และเอ็งกอ ประจำศาลเจ้าปู่-ย่า ติดสวนสาธารณะวังมัจฉา หนองบัว ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี จึงได้ทำการตรวจค้นประวัติจนทราบว่าชื่อนายศรีศักดิ์ หรือตุ้ย เจริญกิจ อายุ 32 ปี ทำการสืบสวนหาตัวและพบนายศรีศักดิ์ หรือตุ้ย นั่งอยู่ที่หน้าป้อมยามตำรวจ เขตงานนิตโย ปากทางเข้าศาลเจ้าปู่-ย่า จึงเอาหลักฐานในเฟสบุ๊กให้ดูและยอมรับว่าเป็นเดียวกันในเฟสบุ๊ก จึงได้คุมตัวไปสอบสวน

หลังสอบสวน นายศรีศักดิ์ หรือตุ้ย ยอมรับสารภาพว่า ได้กักขัง น.ส.พร ไว้ที่ห้องพักหมายเลข 2002 ศรีสุข อพาร์ตเมนต์ ถ.ศรีสุข ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ให้นายศรีศักดิ์ พาไปที่ห้องพัก ทันทีที่เปิดประตูก็พบ น.ส.พร นอนอยู่ในห้องในสภาพอิดโรย และโผเข้าสวมกอดพ่อและแม่ ด้วยสีหน้าซีด พร้อมร่ำไห้ ว่าหลงผิดที่เชื่อคนแปลกหน้าจนทำให้ต้องเสียความสาวไปเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จากนั้นจึงได้พา น.ส.พร ออกจากห้องไปพักผ่อนกับพ่อแม่ญาติพี่น้อง เพื่อรอสอบสวนในเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด

เบื้องต้น น.ส.พร ให้การว่า รู้จักกับนายศรีศักดิ์ หรือตุ้ย เจริญกิจ ทางเฟสบุ๊ก ได้ประมาณ ช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา โดยพูดคุยกันทางเฟสบุ๊กประมาณ 1 อาทิตย์ นายศรีศักดิ์ อ้างว่า ทำงานเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง และช่วยงานเป็นอาสาตำรวจ เป็นทีมงานคณะเชิดมังกรทอง คณะเอ็งกอ และยังเป็นอาสากู้ภัย พร้อมจะช่วยเหลือเรื่องการเรียน ทำให้เชื่อว่าจะช่วยแบ่งเบาภาระทางบ้านที่ยากจนได้ วันที่ 14 พ.ค.59 นายศรีศักดิ์ ได้นัดให้มาหาที่อุดรฯ บอกว่าขึ้นรถโดยสารจากบ้านไปลงที่ อ.น้ำพอง แล้วต่อรถโดยสารมาลงที่หน้ามหาวิทยาลัยราชภัฎอุดรธานี แล้วยืนรอที่หน้า ร้าน เวเว่น อีเลฟเว่น กระทั่งนายศรีศักดิ์ ขับรถมารับพาไปกินข้าว แล้วเข้าพักที่ ศรีสุข อพาร์ตเมนต์ ตกดึกมาก็ถูกบังคับข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ และบังคับข่มขู่ให้นอนอยู่แต่ในห้อง ห้ามออกไปไหน โดยนายศรีศักดิ์ จะซื้อกับข้าว ซื้อน้ำมาให้ไว้ในห้องและช่วงเย็นก็จะมาหลับนอนด้วยเป็นเวลาถึง 6 วัน รวมแล้วถูกข่มขืนมากกว่า 10 ครั้ง

หลังสอบสวนเสร็จนายศรีศักดิ์ หรือตุ้ย ก็ให้การยอมรับสารภาพว่า ได้แช็ตชักชวน น.ส.พร ให้เดินทางมาที่อุดรฯ จริงและได้ข่มขืนกระทำชำเราจริง โดยยอมรับผิดในสิ่งที่เกิดขึ้นทุกอย่าง โดยเดินทางมาอยู่กับพี่สาวทำงานรับเหมาก่อสร้างที่อุดรธานี ก่อนจะไปเป็นทหารเกณฑ์ ที่ สัตหีบ จ.ชลบุรี แล้วกลับมาทำงานที่อุดรฯ ช่วยงานพี่สาว ที่ทำงานรับเหมาก่อสร้าง เป็นทีมงานของคณะเชิดมังกรทอง และคณะเอ็งกอ ของศาลเจ้า ปู่-ย่า อุดรธานี นอกจากนี้ยังเคยช่วยงานเป็นอาสาตำรวจ เป็นอาสากู้ภัย ตนเองไม่มีภรรยา ยังเป็นโสดจึงแช็ตคุยจีบสาวไปเรื่อยๆ กระทั่งเจอกับ น.ส.พร

ด้าน พ.ต.ต.อาทิตย์ จันทา สว.สส.ฯ เปิดเผยว่า เบื้องต้นนายศรีศักดิ์ ก็ให้การยอมรับสารภาพว่าได้ติดต่อชักชวน น.ส.พร มาจาก จ.ขอนแก่น จริง และกระทำชำเราเป็นเวลา 6 วัน ในส่วนของคดีที่ สภ.กระนวน ต้องให้พนักงานสอบสวนสอบผู้เสียหายว่ามีความผิดในท้องที่หรือไม่ เบื้องต้นได้บันทึกจับกุมตัวเพื่อส่งมอบให้ พ.ต.ท.สนั่นชัย มอไธสง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ดำเนินคดีในข้อหา "พรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปี แต่ยังไม่เกินสิบแปดปี ไปเสียจากบิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล ไปเพื่อการอนาจาร โดยผู้เยาว์นั้นจะเต็มใจไปด้วยก็ตาม"