2 พ.ค. นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้พา น.ส.มล (นามสมมุติ) อายุ 24 ปี มารดา ของ ด.ญ.หวาน (นามสมมุติ) อายุ 2 ปี 4 เดือน เข้าพบกับ พ.ต.อ.ยศ วิทิตปภาธำรง ผกก.สน.เทียนทะเล เพื่อขอให้ช่วยเร่งรัดติดตามตัว นายเอ ผู้ต้องหาก่อเหตุทุบตีทำร้ายลูกเลี้ยงเลือดคลั่งในสมองจนเสียชีวิต หลังจากนั้นนายเอ ยังเคยขู่ฆ่าหากเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนทำให้ นส.มล ต้องหลบหนีไปอยู่บ้านญาติ เนื่องจากหวั่นเกรงว่าจะไม่ปลอดภัยหากผู้ต้องหายังไม่ถูกจับกุม
จากการสอบสวน น.ส.มล ให้การว่า ตนเองมีลูกสาวคนเดียว คือ น้องหวาน เป็นลูกติดจากสามีเก่า ได้มาอยู่กินกับนายเอ อาชีพรับจ้างเลี้ยงกุ้ง ที่บ้านฝ่ายชายย่านบางขุนเทียน ได้ 4 เดือนเศษ นายเอ มีลูกติด 1 คน เป็น ด.ช.อายุ 14 ปี ระยะหลัง นายเอ เปลี่ยนแปลงไป เสพยาเสพติด มีอารมณ์ฉุนเฉียว หงุดหงิดง่าย เมื่อไม่พอใจก็ลงมือทำร้ายร่างกายตน และมักจะดุด่า ทุบตีลูกสาวตนเป็นประจำ เวลาที่ตนเข้าไปช่วยลูกก็จะถูกทำร้ายไปด้วย
ก่อนเกิดเหตุ เมื่อช่วงเที่ยงวันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมา น้องหวาน ได้นำกระป๋องแป้งมาเทเล่นในครัวตามประสาเด็ก เมื่อนายเอเห็นเข้าถึงกับโกรธจัด ตะคอกดุด่า พร้อมกับคว้าไม้ไผ่ลำใหญ่เท่าด้ามไม้กวาดทุบตีตามร่างกาย ลูกสาวก็ร้องไห้ยกมือไหว้ขอโทษ แต่นายเอก็ยังไม่หยุด จนแม่สามีทนดูไม่ไหวเข้าไปห้ามปราม แต่กลับยิ่งทำให้นายเอทุบตีลูกหนักยิ่งกว่าเดิม ตนเองไม่กล้าเข้าไปห้ามได้แต่เพียงพูดจาหว่านล้อมให้สามีใจเย็นลง แต่ก็ยังไม่วายหันไปหยิบด้ามเสียมเหล็กมาฟาดตนเองอีก หลังจากที่ทำร้ายตนแล้วก็หันไปตีลูกซ้ำอีกเป็นรอบที่ 2 ก่อนจะเดินหนีไป ตนจึงพาลูกเข้าไปนอนในห้อง ไม่นานนายเอก็ได้ถือไม่ไผ่อันเดิมเข้ามาในห้องและตีลูกสาวที่นอนอยู่บนที่ นอนตามลำตัวอีก เมื่อตีจนพอใจจึงหยุด และล้มตัวลงนอนหลับไป ตนเห็นลูกนอนตัวสั่น ร้องไห้สะอึกสะอื้น พูดว่า "หนูกลัวแล้ว จะไม่ทำอีกแล้ว" วนไปวนมากระทั่งเงียบเสียง ก็คิดว่าลูกคงเพลียจนหลับ ผ่านไปประมาณชั่วโมงเศษ ลูกชายของนายเอได้เข้ามาดูน้องเพื่อจะทายาให้ เมื่อจับตัวน้องหวาน ก็พบว่าไม่หายใจแล้ว ตนถึงกับทำอะไรไม่ถูก
จากนั้นนายเอ ได้พูดจาข่มขู่ไม่ให้บอกเรื่องนี้กับใครและบอกว่าจะนำศพน้องหวานไปฝังที่ ข้างบ้าน แต่ตนรับไม่ได้จึงขอให้พี่สาวนายเอ ซึ่งเป็นเจ้าบ้านไปแจ้งตาย เพื่อนำศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี แต่เมื่อไปแจ้งลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจ เจ้าหน้าที่ได้สอบถามถึงสาเหตุการเสียชีวิตของน้องหวาน ด้านพี่สาวนายเอ พูดจามีพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงส่งศพไปชันสูตรที่โรงพยาบาลศิริราช และตนเองก็พูดอะไรไม่ได้เนื่องจากยังอาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว และถูกนายเอประกบตัวตลอดเวลาไม่ให้ไปไหน เมื่อมีโอกาสตนจึงรีบหนีไปอาศัยที่บ้านญาติก่อนเข้าแจ้งความให้รายละเอียด กับตำรวจและจัดงานศพให้ลูกมีพิธีเผาศพไปเมื่อวันที่ 26 เม.ย. หลังตนเองหนีออก จากบ้านนายเอไหวตัวทันรีบหลบหนีไปทันที
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับแล้ว แต่ตนเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย เพราะนานเอ มาก็ยังวนเวียนมาข่มขู่ จึงตัดสินใจเข้าร้องทุกข์ต่อนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิฯ เพื่อขอให้ช่วยติดตามคดีนำตัวคนผิดมารับโทษ ด้านเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบประวัติพบว่านายเอ ผู้ต้องหา ยังมีคดีลักทรัพย์ติดตัวอีก 1 คดี ขณะได้ให้ชุดสืบสวนกระจายกำลังหาเบาะแสและคาดว่าจะได้ตัวคนร้ายต่อไปในเร็ววันนี้
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
