จับพ่อแท้ๆข่มขืนลูกตั้งแต่ ป.1-ม.1 อ้างโดนใส่ความห้ามคบผู้ชาย!!

จับพ่อแท้ๆข่มขืนลูกตั้งแต่ ป.1-ม.1 อ้างโดนใส่ความห้ามคบผู้ชาย!!


23 เม.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกันจับกุมตัว นายบุญธง (สงวนนามสกุล) อายุ 49 ปี ขณะที่อยู่ในห้องนอน พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาว่ากระทำผิดฐาน "ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปีโดยเป็นการกระทำแก่ทายาทหรือผู้สืบสันดานและบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้" เบื้องต้น ผู้ต้องหาตามหมายจับขอปฎิเสธทุกข้อกล่าวหาและร้องขอทนายความ พนักงานสอบสวนจึงได้จัดหาทนายความมาให้ตามสิทธิ์

พ.ต.ต.ณัฐพงศ์ เปิดเผยว่า ก่อนการจับกุมตามหมายจับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับการแจ้งจาก ลุง ของ ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี ว่า เมื่อวันที่ 12 เม.ย. ที่ผ่านมา ด.ญ.เอ ถูกพ่อไล่ออกจากบ้านมาอาศัยอยู่กับลุง ซึ่งหลังจากนั้นเมื่อมาอาศัยอยู่ที่บ้านลุงได้ 4-5 วัน ลุงจะพาไปส่งบ้านแต่ ด.ญ.เอ ไม่ยอมกลับบ้านจึงได้คาดคั้นจน ด.ญ.เอ เล่าให้ฟังว่า เคยถูกพ่อแท้ๆ ข่มขืน หลังทราบเรื่อง จึงนำเรื่องปรึกษากับญาติๆ และตัดสินใจมาแจ้งความกับพนักงานสอบสวน ทางพนักงานสอบสวนจึงได้ประสานสหวิชาชีพประกอบไปด้วย อัยการ นักจิตวิทยาและผู้ที่เกี่ยวข้องสอบสวน ด.ญ.เอ ที่สำนักงานอัยการจังหวัดเชียงราย

จนได้ความว่าเมื่อตอนเรียนอยู่ชั้น ป.1 (ประมาณ 7 ปีผ่านมา) ด.ญ.เอ ถูกพ่อข่มขืน 1 ครั้ง ตอนนั้นตนยังเด็กมาก แต่ไม่กล้าเล่าให้ใครฟังเพราะกลัวและอาย หลังเหตุการณ์ถูกข่มขืนครั้งแรกแล้ว ตลอดมาหลายปีผู้ต้องหาพยายามจะล่วงเกินตนเองอีกแต่ก็หาทางหลบหลีกเรื่อยมาจนมาเมื่อคืนวันที่ 11 เม.ย. ขณะที่นั่งดูทีวีอยู่พียงลำพังผู้ต้องหาได้เมาเหล้าเข้าบ้านมาและพยายามลวนลาม อนาจารตนเองอีกแต่ตนไม่ยอมและวิ่งหนีจึงถูกดุด่า ว่า ขี้เกียจและถูกไล่ออกจากบ้าน

รุ่งเช้า ด.ญ.เอ จึงออกบ้านไปอาศัยอยู่กับลุงและเมื่อลุงจะส่งตัวกลับไปอยู่บ้าน จึงเล่าความจริงให้ฟังเพราะตนเกรงว่าหากกลับไปอยู่บ้าน ก็กลัวว่าจะถูกกระทำเช่นเดิมอีก หลังจากนั้นจึงได้ส่งตัว ด.ญ.เอ ให้แพทย์ทำการตรวจร่างกาย จนได้ผลการตรวจ จึงรวบรวมหลักฐานพร้อมกับคำให้การของผู้เสียหายยื่นต่อศาลจนศาลจังหวัดเชียงรายออกหมายจับมาดำเนินการกับผู้ต้องหา

ผู้ต้องหาให้การปฎิเสธว่า ไม่ได้ข่มขืน ด.ญ.เอ พร้อมกับอ้างว่าลูกสาวโกรธตนเองที่ห้ามปรามไม่ให้ไปคบหากับเพื่อนผู้ชาย เนื่องจากแม่ของ ด.ญ.เอ เป็นใบ้ไม่สามารถสั่งสอนลูกได้ ก็เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหาก็ต้องไปต่อสู้ตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์