จับหนุ่มฆ่าอดีตปลัดอ้างแค้นถูกลวนลาม

30 กรกฎาคม 2550 00:00 น.
 
รวบแล้วมือแทง 20 แผลอดีตปลัดอำเภอตายคาโรงแรม หลังหนีกบกานอยู่นครสวรรค์ สารภาพถูกเหยื่อพูดจาหลอกล่อเรื่องทำงาน ก่อนถูกพาเข้าโรงแรม เผยโดนบังคับขอร่วมเพศทางประตูหลัง จึงเกิดความแค้นกระหน่ำแทงไม่ยั้ง

ความคืบหน้าคดีคนร้ายก่อเหตุใช้มีดจ้วงแทง นายพีระ วชิรวรรณวงศ์ อายุ 48 ปี อดีตปลัดอำเภอบางบัวทอง จ.นนทบุรี 20 แผล เสียชีวิตอย่างโหดเหี้ยม ภายในห้องพักโรงแรมมิตรอารีย์ ซอยอารีย์ กทม. ก่อนชิงทรัพย์สิน พร้อมนำรถเก๋งยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ทะเบียน 8 ษ 3615 กรุงเทพมหานคร ของผู้ตายขับหลบหนี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ล่าสุดตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายดังกล่าวได้แล้ว หลังพบว่าไปกบดานอยู่ใน จ.นครสวรรค์

 เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 29 กรกฎาคม พ.ต.อ.มาโนช จรดล รอง ผบก.ภ.จว.นครสวรรค์ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ประนม มั่นเมือง ผกก.สภ.อ.เมืองนครสวรรค์ และ พ.ต.ท.เกียรติศักดิ์ ขอนพุดซา รอง ผกก.ป.สภ.อ.เมืองนครสวรรค์ นำกำลังเข้าจับกุม นายกิตติภพ หรือสัญชัย อยู่สุข อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20/1 หมู่ 9 ต.ต้นโพธิ์ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี พร้อมรถเก๋งยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ทะเบียน 8 ษ 3615 กรุงเทพมหานคร ได้ที่สี่แยกหน้าค่ายจิรประวัติ ต.นครสวรรค์ออก อ.เมือง จ.นครสวรรค์ 

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากตำรวจ สน.บางซื่อ ได้ประสานมายังตำรวจ สภ.อ.เมืองนครสวรรค์ ว่า นายกิตติภพ ผู้ต้องหาฆ่าชิงทรัพย์จากซอยอารีย์ ท้องที่ สน.บางซื่อ กทม. ได้ขับรถเก๋งของกลางของผู้ตายมากบดานอยู่ใน จ.นครสวรรค์ นอกจากนี้ ยังพบข้อมูลการใช้บัตรเครดิตของผู้ตายในพื้นที่ดังกล่าว 3 ครั้ง จึงระดมกำลังตรวจค้นติดตาม พบว่า รถต้องสงสัยวิ่งอยู่ในเขตตลาดปากน้ำโพ จึงตั้งด่านสกัด กระทั่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาดังกล่าวไว้ได้ 

 จากการตรวจค้นพบบัตรเครดิต 4 ใบ เป็นของธนาคารกสิกรไทย 2 ใบ ธนาคารไทยพาณิชย์ 1 ใบ และบัตรแพลตินั่ม อเมริกันเอ็กซ์เพรส 1 ใบ ระบุชื่อ นายพีระ วชิรวรรณวงศ์ อดีตปลัดอำเภอบางบัวทอง จ.นนทบุรี จากการตรวจค้นภายในรถเก๋ง พบเครื่องสำอาง 1 ถุง หลังการจับกุมตำรวจได้นำนายกิตติภพพร้อมของกลางรถยนต์และบัตรเครดิต ส่งมอบให้ตำรวจ สน.บางซื่อ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 ต่อมาเวลา 19.30 น.วันเดียวกัน ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.อดิศร นนทรีย์ ผบช.น. พล.ต.อ.อำนวย นิ่มมะโน ผบก.น.2 พ.ต.อ.ประนม มั่นเมือง ผกก.สภ.อ.เมืองนครสวรรค์ ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.บางซื่อ และตำรวจสืบสวน สภ.อ.เมืองนครสวรรค์ ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุม ซึ่งนายกิตติภพรับสารภาพว่า รู้จักผู้ตายได้ไม่นาน โดยเจอกันที่สวนรถไฟขณะผู้ตายออกกำลังกาย ก่อนหน้านี้ทำงานรับจ้างจัดสวนร่วมกับพี่ชายและเคยทำงานอยู่บริษัทเคศีพร๊อพเปอร์ตี้ แต่ได้ลาออกมาก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ เมื่อพูดคุยจนเกิดความไว้วางใจ จึงหารือว่าจะออกจากงาน จะไปสมัครงานที่บริษัท แต่ผู้ตายให้ความเห็นว่า เป็นพนักงานบริษัทไม่ก้าวหน้า จึงแนะนำให้ทำธุรกิจส่วนตัว พร้อมบอกจะแนะนำเพื่อนชื่อ "มด" ให้รู้จัก เพื่อให้ข้อมูล กระทั่งผู้ตายออกกำลังกายเสร็จจึงชักชวนไปกินข้าว จากนั้นก็ให้พูดคุยสอบถามข้อมูลเรื่องทำงาน พร้อมตกลงว่าจะไปพบเพื่อนชื่อมด 

 "ผู้ตายบอกว่าให้ไปด้วยกันก่อน อย่าเพิ่งรีบกลับ ตอนแรกปฏิเสธไม่ไปด้วย เขาทักท้วงว่า เขาช่วยเหลือแล้วไม่ตอบแทนอะไรบ้างหรือ ผมจึงยอมไปเพราะความเกรงใจ แต่จู่ๆ เขาก็พาเข้าโรงแรมมิตรอารี บอกว่าจะมาคุยธุระต่อ พอเข้ามาถึงห้องเขาก็ลวนลามทางเพศ ผมก็ขัดขืน แต่เขาอ้างในเรื่องงาน และบอกให้ทำข้างหลังให้ ผมก็บอกว่าทำไม่ได้ แต่เขาก็พยายามเข้ามาลวนลาม จึงรู้สึกรังเกียจและถีบเข้าไปที่ท้อง 1 ทีจนเขากระเด็นไป จากนั้นผมก็หยิบมีดพกในกระเป๋าแทงเข้าไปขณะที่เขายืนโซเซ กระทั่งมีการต่อสู้กัน ด้วยความโกรธแค้นจึงใช้มีดกระหน่ำแทงอย่างไม่ยั้งจนเขาแน่นิ่งไป" นายกิตติภพ กล่าว

 นายกิตติภพ กล่าวว่า หลังก่อเหตุก็ถือมีดไปล้างคราบเลือดในห้องน้ำ แล้วเอาผ้าเช็ดตัวมาโยนปิดศพไว้บนเตียง จากนั้นก็หยิบกระเป๋าสตางค์ พร้อมขับรถของผู้ตายหลบหนีออกไป ก่อนที่จะไปรับแฟนสาวในย่านใกล้เคียง และมุ่งหน้าไปทางภาคเหนือ กระทั่งถูกตำรวจจับกุมได้ก่อนที่ จ.นครสวรรค์ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ได้นำบัตรเครดิตของผู้ตายซื้อเครื่องสำอาง เพื่อให้แฟนนำไปขายเอาเงินมาใช้จ่ายระหว่างหลบหนี

 ด้าน พล.ต.ท.อดิศร กล่าวว่า คดีที่เกิดขึ้นเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ โดยหลังเกิดเหตุได้สั่งการให้ พล.ต.ต.อำนวย เร่งสืบสวนจับกุมคนร้ายให้ได้ พร้อมกำชับให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับทันที จากนั้นก็สืบสวนเส้นทางการหลบหนี กระทั่งทราบว่า ผู้ต้องหาขับรถมุ่งหน้าไปทางภาคเหนือ จึงประสานตำรวจ ภ.จว.นครสวรรค์ ติดตามจับกุมมาได้ ทั้งนี้ อยากให้คดีนี้เป็นอุทาหรณ์สอนในวัยรุ่นว่าอย่าไว้ใจผู้อื่น เพราะเหตุการณ์แบบนี้มักเกิดขึ้นบ่อยครั้งในสังคม อย่าเชื่อคนง่าย โดยเฉพาะพวกที่ชอบเพศเดียวกันมักใช้ความรุนแรง 

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเสร็จสิ้นการแถลงข่าว พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ปิยะพงศ์ ผลวาณิชย์ ผกก.สน.บางซื่อ และพนักงานสอบสวน ได้นำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพภายในห้องเกิดเหตุทุกขั้นตอนอย่างละเอียด ท่ามกลางบรรดาพนักงานและประชาชนในย่านนั้นที่รู้ข่าว ต่างพากันมามุงดูจำนวนมาก รวมถึงแขกที่เข้าพักในโรงแรมทั้งชาวไทยและต่างชาติ ต่างชะโงกมาดูที่บริเวณชั้น 2 ซึ่งระหว่างการทำแผนผู้ต้องหามีสีหน้าเรียบเฉย และอธิบายการกระทำของตัวเองอย่างละเอียด พร้อมยอมรับว่าฆ่าเพราะความโกรธที่ถูกบีบบังคับ