โดยที่เกิดเหตุเป็นเส้นทางขึ้นพระนครคีรี ซึ่งเป็นลักษณะทางเดินขึ้นเชิงเขาที่ไม่ได้เปิดใช้งาน ห่างจากด้านหลังวิหารประมาณ 200 เมตร พบศพหญิงสูงประมาณ 160 เซนติเมตร รูปร่างท้วม ผิวสีดำแดง อายุประมาณ 25-30 ปี สภาพศพเริ่มขึ้นอืด สวมเสื้อยืดสีน้ำเงินแขนสั้นนอนหงาย สภาพด้านล่างเปลือยกาย ที่ข้อเท้ามีกางเกงผ้าขายาวสีดำขนาดเอว 34 นิ้วมัดไว้ พลิกศพพบ มือทั้ง 2 ข้างถูกมัดไว้ด้านหลังด้วยเสื้อชั้นในสีน้ำเงินของผู้ตาย แพทย์ชันสูตรพบบาดแผลถูกทุบด้วยของแข็งที่บริเวณหลังศีรษะ ใกล้กันพบก้อนหินขนาดใหญ่เปื้อนเลือดตกอยู่ ใกล้เคียงรองเท้าเตะสีดำ 1 คู่ และกระเป๋าพลาสติกขนาดเล็กภายในมีตั๋วรถไฟขบวนปากช่อง-อยุธยา วันที่ 8 เม.ย.59 1 ฉบับ และตั๋วรถไฟขบวนปากท่อ-นครปฐม วันที่ 17 เม.ย. อีกหนึ่งฉบับ ตะกรุด 1 ดอก แป้ง และสิ่งของอื่นๆ แต่ไม่มีหลักฐานหรือบัตรประจำตัวแต่อย่างใดแพทย์ชันสูตรคาดเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 48 ชั่วโมง
สอบถามนางประเทือง ชาวบ้านผู้พบศพ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนได้เดินขึ้นไปบนเขาวัง เพื่อเก็บดอกลีลาวดี มาตากแห้งขาย แต่เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้เห็นศพดังกล่าวอยู่ริมทาง ด้วยความตกใจจึงได้วิ่งลงมาบอกเพื่อนที่ขายของอยู่ด้านล่าง ก่อนที่จะแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาตรวจสอบ
ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าหญิงคนดังกล่าวอาจเป็นคนพื้นที่อื่น เดินทางโดยรถไฟมาที่ จ. เพชรบุรี และตีตั๋วกลับไว้ล่วงหน้าในวันที่ 17 เมษายน แต่ถูกล่อลวงให้ขึ้นมาบนที่เกิดเหตุซึ่งเป็นที่มืดและเปลี่ยวซึ่งโดยปกติไม่มีผู้สัญจร และถูกทำร้ายจนเสียชีวิต เบื้องต้นสภาพศพขึ้นอืดไม่สามารถระบุได้ว่าถูกลวงมาข่มขืนหรือไม่ ซึ่งจะได้ส่งชันสูตรที่สถาบันนิติเวชหาสาเหตุการตาย ติดตามหาญาติและสืบสวนหาผู้กระทำผิดต่อไป