ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เผย ศาลมีคำสั่งห้าม "เจนภพ" คนขับเบนซ์ซิ่งออกนอกประเทศ ยันคดีมีความคืบหน้าไปมาก
จากกรณี นายเจนภพ วีรพร อายุ 37 ปี เจ้าของธุรกิจนำเข้ารถหรู บริษัท ลัคโซติค ออโตโมทีฟ ขับรถเก๋ง ยี่ห้อเบนซ์ สีดำ ทะเบียน ษง 3333 กรุงเทพมหานคร ชนท้ายรถยนต์ฟอร์ด เฟียสต้า จนเกิดไฟลุกไหม้ทั้งคัน ทำให้มีผู้เสียชีวิตถูกไฟคลอกอยู่ภายในรถ 2 ศพ ทราบชื่อภายหลังคือ นายกฤษณะ ถาวร 32 ปี และน.ส.ธันฐภัทร์ ฮ้อแสงชัย อายุ 34 ปี ทั้งสองเป็นนักศึกษาปริญญาโท ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบ พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เกี่ยวกับกรณีที่นายเจนภพ ได้เดินทางออกจากโรงพยาบาล ภายหลังจากอาการบาดเจ็บดีขึ้นแล้วนั้น โดยพล.ต.ต.สุทธิ กล่าวว่า คดีนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยื่นฝากขังผู้ต้องหาต่อศาลไปแล้ว 2 ผัด พร้อมกับคัดค้านการประกันตัว โดยทางศาลได้อนุมัติให้นายเจนภพ สามารถประกันตัวได้ แต่มีข้อแม้ว่าห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ซึ่งการฝากขังครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 29 มี.ค.ที่่ผ่านมา ดังนั้น หากพนักงานสอบสวนยังทำคดีไม่เสร็จ หรือยังต้องสอบปากคำพยานต่างๆ อีก ก็จะมีการยื่นคำร้องขอฝากขังต่อไปอีก
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่นายเจนภพ สามารถออกจากโรงพยาบาล ภายหลังอาการดีขึ้นนั้น ทางตำรวจจะดำเนินการอย่างไรบ้าง เพื่อป้องกันการหลบหนีออกนอกประเทศ พล.ต.ต.สิทธิ กล่าวว่า เรื่องนี้ได้มีการประสานงานไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ว่าห้ามนายเจนภพ ออกนอกประเทศ ซึ่งคำสั่งศาลที่ได้ระบุไว้ ก็ชัดเจนอยู่แล้วว่า ห้ามนายเจนภพ ออกนอกประเทศ
ผู้สื่อข่าวถามว่า สำหรับความคืบหน้าของคดี ขณะนี้มีความคืบหน้าไปมากน้อยแค่ไหน พล.ต.ต.สุทธิ กล่าวว่า จากการตรวจสอบทุกขั้นตอนของพนักงานสอบสวนพบว่า คดีมีความคืบหน้าไปมาก คาดว่าน่าจะสอบพยานอีก 5-6 ปาก ก็จะสามารถสรุปสำนวนได้แล้ว จากนั้นก็จะส่งสำนวนให้อัยการ เพื่อดำเนินการฟ้องต่อไป
พล.ต.ต.สุทธิ กล่าวอีกว่า คดีนี้ทางผู้บังคับบัญชาระดับสูง โดยเฉพาะพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจิดา ผบ.ตร. , พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. , และพล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผบช.ภ.1 ได้กำชับให้ดูแลอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ อยากจะให้ประชาชนได้เชื่อมั่นได้เลยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา และพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย