ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (บช.ภ.1) พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา และ พ.ต.อ.สุรินทร์ ทับพันบุปผา หัวหน้าคณะทำงานชุดคลี่คลายคดีอุบัติเหตุที่มีนายเจนภพ วีรพร อายุ 37 ปี ผู้ก่อเหตุขับรถยนต์ยี่ห้อเมอร์เซเดส เบนซ์ ทะเบียน ษง 3333 กรุงเทพมหานคร พุ่งชนท้ายรถยนต์ของ 2 นักศึกษาปริญญาโท มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จนถูกไฟคลอกเสียชีวิตบนถนนพหลโยธิน กิโลเมตรที่ 53 บริเวณทางแยกต่างระดับบางปะอินเมื่อวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา ร่วมกันแถลงความคืบหน้าคดี
พล.ต.ท.ชัยวัฒน์กล่าวว่า วันนี้ได้เชิญญาติและทีมทนายความของผู้เสียชีวิตทั้งสองคนมาพูดทำความเข้าใจ เพื่อให้เกิดความมั่นใจในการดำเนินคดี และเกิดความยุติธรรมทั้ง 2 ฝ่าย แต่ไม่มีญาติและทีมทนายความของผู้ต้องหามาร่วมด้วย หลังจากมีการเปลี่ยนชุดพนักงานสอบสวนทั้งหมด ในส่วนของคดีขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน อาทิ พยานบุคคล พยานวัตถุ พยานเอกสาร และหลักฐานจากนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อให้เกิดความรัดกุม ต้องมีผู้เชี่ยวชาญทุกฝ่ายร่วมด้วย
พล.ต.ท.ชัยวัฒน์กล่าวต่อว่า ส่วนผลตรวจเลือดของนายเจนภพ เพื่อพิสูจน์ปริมาณแอลกอฮอล์และสารเสพติด ขณะนี้ยังไม่ทราบต้องรอผลตรวจพิสูจน์จากโรงพยาบาลสมิติเวชส่งมายังเจ้าหน้าที่เสียก่อน ขณะที่นายเจนภพรับสารภาพข้อกล่าวหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต ส่วนอีก 2 ข้อกล่าวหา ฐานขับรถขณะหย่อนความสามารถ หรือขับรถขณะเมาสุราหรือของมึนเมาอย่างอื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงาน ที่เจ้าหน้าที่ได้มีการแจ้งเพิ่มเติม นายเจนภพยังคงให้การปฏิเสธ
พล.ต.ท.ชัยวัฒน์กล่าวต่อว่า ทางญาติของผู้เสียชีวิตทั้งสองฝ่ายที่เดินทางมาในวันนี้ หลังจากมีการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ต่างรู้สึกสบายใจขึ้นและมีความมั่นใจในคณะทำงานสอบสวนชุดใหม่ ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวในสังคมออนไลน์ระบุว่า ผู้ต้องหาจะชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 15 ล้านบาทต่อครอบครัวนั้น ยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อประสานมาแต่อย่างใด หลังจากนี้ขอให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม
ล่าสุดมีรายงานข่าวแจ้งว่า กองพิสูจน์หลักฐานได้ทำการคำนวณความเร็วรถเบนซ์คันซิ่งชนจากคลิป และการสอบพยาน พบว่าขณะพุ่งชนรถฟอร์ดเฟียสต้านั้น ใช้ความเร็ว 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง