ปลอมตัวเป็นนักศึกษาวางแผนฆ่าโหด
เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 26 ก.ค. ขณะที่เจ้าหน้าที่สายตรวจ สภ.อ.เมืองสมุทรสงคราม ขับรถยนต์ตราโล่ออกตรวจพื้นที่ เมื่อมาถึงบริเวณหน้าอู่วีระพล เขตเทศบาลเมืองสมุทรสงคราม พบรถแท็กซี่ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติส สีชมพู สภาพใหม่ สังกัดสหกรณ์สหมิตร จำกัด ทะเบียน ทร 179 กรุงเทพมหานคร วิ่งปิดไฟหน้าสวนทางมา ภายในรถมีกลุ่ม วัยรุ่นชายหญิงนั่งมา 4 คน มุ่งหน้าไปทางถนนพระราม 2 ด้วยความเร็วสูงเป็นที่ผิดสังเกต เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงกลับรถไล่ตามไปเพื่อขอตรวจค้น
ตำรวจเห็นรถแท๊กซี่ผิดสังเกตุจึงขับรถตามไป
ปรากฏว่า คนขับรถแท็กซี่คันดังกล่าวรีบเร่งเครื่องหนีมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่สายตรวจวิทยุประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ทล.2 กก.2 ช่วยสกัดจับอีก แรง และให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ต.บางโทรัด ตั้งด่านปิดถนนพระราม 2 ขาเข้ากรุงเทพฯเพื่อสกัดการหลบหนี เมื่อคนขับรถแท็กซี่เห็นรถติดเป็นระยะทางยาว จึงเลี้ยวรถเข้า ไปจอดซุ่มในที่มืดข้างปั๊มน้ำมันเจ็ท ระหว่างหลัก กม.ที่ 46-47 ต.นาขวาง อ.เมืองสมุทรสาคร ซึ่งเป็นพื้นที่ติดกัน และเตรียมตัวจะหลบหนี
แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจตามไปทันและเข้าจับกุมตัวไว้ได้
ทราบชื่อนายวิบูลย์ เพชรหล่อ อายุ 22 ปี อยู่ในสภาพเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวเปื้อนเลือด สวมกางเกงยีนสีน้ำเงิน เมื่อตรวจค้นในรถแท็กซี่ก็ถึงกับผงะ พบกองเลือดสดๆนองอยู่บนเบาะนั่งคนขับและเบาะนั่งด้านซ้าย สอบถามนายวิบูลย์ให้การวกวน จึงรายงานให้ พ.ต.อ.นิติพจน์ พจนาคม ผกก.สภ.อ.เมืองสมุทรสงคราม ทราบ และนำตัวนายวิบูลย์ไปมอบให้พนักงานสอบสวน สภ.อ.เมืองสมุทรสงคราม สอบปากคำขยายผล
หลังสอบเครียดอยู่ราว 1 ชั่วโมง นายวิบูลย์ยอมให้การรับสารภาพ
เพราะจำนนต่อหลักฐานว่า เพิ่งฆ่าชิงทรัพย์โชเฟอร์รถแท็กซี่มาหมาดๆ โดยมีเพื่อนร่วมแก๊งอีก 3 คน คือ นายรังสรรค์ ศิริมณีสาคร อายุ 24 ปี เป็นหัวหน้าแก๊ง นายเอก (นามสมมติ) อายุ 17 ปี และ น.ส.อภิญาพร นวลปลอด อายุ 23 ปี เมียของตน ทั้งนี้ เมื่อช่วงหัวค่ำ นายรังสรรค์วางแผนให้ น.ส.อภิญาพรแต่งกายด้วย เสื้อขาวกระโปรงดำ ทำท่าทางคล้ายนักศึกษาที่เพิ่งเลิกเรียน ไปยืนริมถนนในตัวตลาดเมืองมหาชัย เพื่อดักรอเหยื่อ ส่วนพวกตนที่เป็นผู้ชายอีก 3 คน ก็แต่งกายด้วยชุดเสื้อเชิ้ต ขาวแขนยาว สวมกางเกงยีนเพื่อให้ดูคล้ายนักศึกษาเช่นกัน กระทั่งมีรถแท็กซี่คันดังกล่าวขับผ่านมา น.ส.อภิญาพร โบกให้จอดว่าจ้างให้ไปส่งที่บริเวณดอนหอยหลอด ในราคา 400 บาท คนขับรถแท็กซี่หลงกล รับพวกตนทั้ง 4 คน ขึ้นรถขับไปตามเส้นทางถนนพระราม 2 ขาออก
เมื่อมาถึงเส้นทางถนนวิธานวิถี ผู้ต้องหาก็บังคับให้จอดรถ
ห่างจากสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ประมาณ 50 เมตร ซึ่งเป็นที่เปลี่ยว นายรังสรรค์ชักปืนลูกโม่ .38 ออกมาจี้บังคับให้คนขับรถแท็กซี่หยุดรถ แต่ คนขับขัดขืน นายรังสรรค์จึงล็อกคอจ่อยิงท้ายทอย 2 นัดซ้อน ก่อนล้วงเงินในกระเป๋าเสื้อคนขับ จำนวน 600 บาท เก็บไว้ จากนั้นสั่งให้พวกตนช่วยกันลากคนขับแท็กซี่ไปโยนทิ้งไว้ริมถนน และให้ตนขับรถเพื่อกลับไปยังบ้านเช่าใน ต.มหาชัย อ.เมืองสมุทรสาคร แต่มาพบตำรวจสายตรวจที่หน้าอู่วีระพล เขตเทศบาลเมืองสมุทรสงคราม เมื่อถูกไล่ติดตามจึงเร่งเครื่องหลบหนี แต่ไปได้ราว 1 กม. นายรังสรรค์เห็นท่าจะหนีไม่รอด สั่งให้จอดรถใกล้คลองนาโคก ต.นาโคก อ.เมืองสมุทรสาคร นายรังสรรค์ นายเอก และ น.ส.อภิญาพรลงจากรถเข้าไปซ่อนตัวในป่าแสมริมถนน ให้ตนขับรถล่อตำรวจไปอีกทางแล้วค่อยย้อนมาพบกันอีกที