ลูกชายโหดไม่อยากให้แม่ป่วยทรมาน เตะสลบก่อนฆ่าฟันคอขาด
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอาชญากรรม ลูกชายโหดไม่อยากให้แม่ป่วยทรมาน เตะสลบก่อนฆ่าฟันคอขาด
รวบชายใจโหด ไม่อยากให้แม่ป่วยทรมาน เตะตีสลบก่อนฆ่าฟันคอขาดสยอง
วันที่ 21 มีนาคม เมื่อเวลา 12.00 น. พ.ต.ท.ภัทรศักดิ์ กาหลัง รอง ผกก.สอบสวน สภ.บางระจัน อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี ว่ามีชายต้องสงสัยนอนอยู่บนยอดเขาสมอคอนใต้หุ่นหนุมาน ต.ท่าโขลง อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี ใส่เสื้อแขนยาวลายสก๊อตสีเขียว กางเกงยีนส์สีน้ำเงิน ตาเหม่อลอย ก่อนบอกกับชาวบ้านว่าได้ก่อเหตุฆ่ามารดาของตนเอง และมีดของกลางนั้นทิ้งอยู่ที่ตีนเขาสมอคอน ชาวบ้านจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าวุ้ง และได้ประสานไปยัง สภ.บางระจันมารับตัวไป และเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ไปตรวจสอบที่บ้านที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงบ้านที่เกิดเหตุบริเวณชั้น 2 ของบ้านพบศพหญิงวัย 71 ปี เจ้าของบ้านและเป็นมารดาของชายผู้ก่อเหตุ นอนคว่ำหน้าบนที่นอน ใส่เสื้อสีแดง ผ้าถุงสีน้ำเงิน คอขาด และศีรษะที่ถูกตัดขาดวางอยู่ห่างไปเล็กน้อย เลือดกระจายไปทั่วบริเวณที่นอน เป็นที่น่าสยดสยองยิ่งนัก
ต่อมาเมื่อเวลา 16.00 น. พล.ต.ต.ประภากรณ์ ริ้วทอง ผบก.ภ.จว.สิงห์บุรี
พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสายสืบ สภ.บางระจัน จึงเดินทางไปรับตัวผู้ต้องหาที่ สภ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี และนำตัวกลับมาสอบสวนที่ สภ.บางระจัน จากการสอบสวนผู้ก่อเหตุให้การรับสารภาพว่า อยู่กับแม่เพียงสองคนที่บ้านหลังดังกล่าวมานาน ช่วงหลังแม่มีโรคประจำตัวป่วยออดๆ แอดๆ ตนดูแลแม่ไม่อยากให้แม่ทรมานจึงคิดตัดสินใจที่จะฆ่าแม่มาหลายวันแล้ว จนได้สบโอกาสเมื่อคืนเวลาประมาณ 20.00 น. ด้วยการเตะตีแม่จนสลบและได้หยิบมีดดายหญ้ายาวประมาณ 2 ฟุต ฟันไปที่คอจนศีรษะขาดและวางศีรษะไว้ใกล้ศพ และได้หยิบสมุดเงินฝากธนาคาร เงินสดจำนวน 36,860 บาท โฉนดที่ดิน พร้อมเสื้อผ้าใส่กระเป๋าสะพายสีดำ จากนั้นได้ขี่จักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีขาว-น้ำตาลหนีไปที่วัดเขาสมอคอนและได้ทิ้งของกลางไว้ที่ตีนเขา ก่อนขึ้นไปจนมีชาวบ้านมาพบดังกล่าว
จากการสอบสวนญาติผู้เสียชีวิตที่อยู่ใกล้บ้าน ต่างไม่อยากเชื่อว่าผู้ก่อเหตุจะกล้าลงมือได้เพราะดูเป็นคนที่รักแม่ดี ดูแลแม่เพียงลำพังมาตลอด แต่โดยอุปนิสัยเป็นคนเงียบๆ ขรึมๆ ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร เหล้าไม่กิน บุหรี่ไม่สูบ จึงไม่ทราบเหตุจูงใจที่จะก่อเหตุดังกล่าวได้
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไปตรวจสารเสพติด ตรวจดีเอ็นเอว่าตรงกับที่เกิดเหตุหรือไม่ และจะพาไปตรวจสุขภาพจิตเพื่อประกอบสำนวนคดีต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก matichon