ย้อนรอย5คดีดัง!!ลูกคนรวย-ไฮโซ ซิ่งรถชนคนตาย!!

ย้อนรอย5คดีดัง!!ลูกคนรวย-ไฮโซ ซิ่งรถชนคนตาย!!


จากกรณีเรื่องราวสุดสะเทือนใจกับ คดีของ นายเจนภพ ทายาทพันล้าน ซิ่งเบนซ์ชน 2 นิสิตป.โท เสียชีวิต ซึ่งกำลังเป็นที่สนใจของประชาชนเป็นอย่างมาก เพราะกลัวว่าเรื่องจะเงียบไปเหมือนที่เคยเกิดขึ้นในบ้านเรา ซึ่งครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเร่งสืบสวนหาพยานหลักฐานมาลงโทษเอาผิดให้ได้ เราเลยจะขอพาย้อนไปดูคดีดังๆที่เหล่าลูกคนรวยขับรถชนคนตายที่โดนสังคมวิพากษ์อย่างหนักหลายชีวิตที่ต้องสูญเสีย ส่วนใหญ่รับโทษแค่รอลงอาญา ขณะที่บางรายยื้อคดียาวหลายปีจนเรื่องเงียบหาย และถูกลืมไปในที่สุด


1.นายวรายุทธ อยู่วิทยา ลูกชาย นายเฉลิม อยู่วิทยา เจ้าของเครื่องดื่มกระทิงแดงซิ่งรถหรูเฟอร์รารี่ ชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ผบ.หมู่ งานป. สน.ทองหล่อ เสียชีวิตระหว่างการปฏิบัติงาน จากนั้นถูกสังคมกดดันจึงได้มีการได้นำตัว นายสุเวศ หอมอุบล พ่อบ้านของตระกูลอยู่วิทยา เข้ามอบตัวแทนนายวรายุทธจนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก

ต่อมา นายวรายุทธจึงได้เข้ามอบตัว จึงมีการแจ้ง 2 ข้อหาคือขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และทำให้ทรัพย์สินเสียหาย และข้อหาไม่หยุดรถให้ความช่วยเหลือผู้ถูกชน และอัยการพิจารณาฟ้องฐานขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด อีก 1 ข้อหา และหลังจากนั้นอัยการได้เลื่อนสั่งคดีหลายครั้ง แต่ก็ยังติดตามตัวนายวรายุทธไม่ได้ จนมีข่าวออกมาว่านายวรายุทธได้เดินทางออกนอกประเทศไปแล้วและจนตอนนี้นี้เรื่องคดีความนี้ก็ได้เงียบหายไปในที่สุด



ย้อนรอย5คดีดัง!!ลูกคนรวย-ไฮโซ ซิ่งรถชนคนตาย!!



2. นายพีรพล ทักษิณทวีทรัพย์ อายุ 19 ปี ทายาทนักธุรกิจชื่อดัง ซิ่งปอร์เช่ป้ายแดงพุ่งชน น.ส.คำใบ อินทิลาด อายุ 17 สัญชาติลาวจนร่างขาดสองท่อน บนถนนย่านนนทบุรีต่อมาได้เดินเจ้าตัวให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้วิ่งข้ามถนน รถของตนวิ่งมาด้วยความเร็ว 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ไม่ทันสังเกตุเห็นจึงเบรกไม่ทัน ทำให้ชนร่างหญิงสาวกระทบกระจกหน้าแตกจนทำให้กระจกและขอบหลังคาตัดร่างขาด 2 ท่อน

เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาขับรถชนแล้วหลบหนีและได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวโดยไม่ต้องมีการประกันตัวเนื่องจากผู้ต้องหาเข้ามอบตัว และมีการชดใช้ค่าเสียให้กับญาติผู้เสียชีวิต เป็นจำนวนเงิน 50,000 บาท พร้อมเงินสินไหมทดแทน 2 แสนบาท และมอบเงินช่วยเหลือให้อีกจำนวนหนึ่ง ในคดีนี้ญาติของผู้ตายจึงไม่เอาความ


ย้อนรอย5คดีดัง!!ลูกคนรวย-ไฮโซ ซิ่งรถชนคนตาย!!



3. นายกัณฑ์พิทักษ์ ปัจฉิมสวัสดิ์ หรือ หมูแฮม ขับรถเบนซ์และถูกรถปรับอากาศร่วมบริการสาย 513 ขับปาดให้รถหยุดบริเวณหน้าป้อมตำรวจจราจรที่ปากซอยสุขุมวิท 26 ก่อนจะมีปากเสียงกันจากนั้น นายกัณฑ์พิทักษ์ ใช้ก้อนหินทุบใบหน้าคนขับรถเมล์จนแตก ก่อนกลับเข้าไปนั่งในรถแล้วขับพุ่งชนผู้โดยสารที่ยืนบนทางเท้าได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ซึ่งครอบครัวพยายามต่อสู้ว่าบุตรชายมีอาการชักเกร็งตั้งแต่เด็ก เคยเข้ารับการรักษาจากสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ และเป็นโรคอารมณ์แปรปรวน มีลักษณะหุนหันพลันแล่น ที่มีผลต่อการควบคุมพฤติกรรมที่ไม่สามารถบังคับตนเองได้ เป็นอาการทางจิต ต้องได้รับยาอย่างต่อเนื่อง

ทางศาลพิจารณาเห็นว่า ไม่น่าเชื่อว่ามีสติฟั่นเฟือน และมีอาการเกร็งขณะเกิดเหตุศาลตัดสินให้จำคุก 15 ปี 2 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ในปี 2552 ต่อมาจำเลยรับสารภาพลดโทษลง 1 ใน 3 เหลือจำคุก 10 ปี 1 เดือนพร้อมชดใช้ค่าเสียหายให้ผู้ได้รับบาดเจ็บ2 ราย เป็นเงิน 8 แสนบาท และ 1 แสนบาทและให้ชดใช้ค่าเสียหายแก่ผู้เสียชีวิตรายละ 2 ล้านบาท แต่ทางครอบครัวได้วางประกัน 5 ล้านบาท จนตอนนี้นี้ยังอยู่ระหว่างยื่นอุทธรณ์คดี


ย้อนรอย5คดีดัง!!ลูกคนรวย-ไฮโซ ซิ่งรถชนคนตาย!!



4. น.ส.แพรวา ทายาทนามสกุลดัง ซิ่งซีวิคเฉี่ยวชนรถตู้โดยสารเสียหลักหมุนไปชนขอบกั้นบนทางด่วนยกระดับโทลล์เวย์ บริเวณมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์จนพลิกคว่ำจนมีผู้เสียชีวิต 9 ศพ บาดเจ็บอีกหลายราย เมื่อวันที่ 31 ส.ค. 55 ศาลเยาวชนฯ ได้มีคำพิพากษาให้จำคุก 3 ปี ฐานขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย คำให้การในชั้นพิจารณาเป็นประโยชน์ ลดโทษให้จำคุกเป็นเวลา 2 ปี โดยให้รอลงอาญากำหนด 3 ปี และให้คุมประพฤติกรรมจำเลยโดยให้รายงานตัวทุก ๆ 3 เดือนทำงานบริการสังคมเป็นเวลา 48 ชั่วโมง ห้ามจำเลยขับรถยนต์จนกว่าจะมีอายุครบ 25 ปี ต่อมาศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2557 เช่นเดียวกับศาลชั้นต้น แต่ให้เพิ่มระยะเวลาการรอลงอาญาเป็น 4 ปี

และให้บำเพ็ญประโยชน์ 48 ชั่วโมงต่อปี ในช่วงเวลารอลงอาญา 4 ปี แต่ในตอนนี้ทั้งนี้ช่วง 3 ปีแรกหลังศาลต้นมีคำพิพากษาผู้ถูกคุมประพฤติไม่ทำงานบริการสังคมเลยโดยขอผัดผ่อนอ้างว่าอยู่ระหว่างศึกษาต่อ ซึ่งปีนี้ถือเป็นปีสุดท้ายที่ต้องถูกคุมประพฤติ กรมคุมประพฤติจึงต้องเข้มงวด เพราะใกล้ครบกำหนด อย่างไรก็ตามหากคดีนี้ศาลอุทธรณ์ไม่ขยายระยะเวลาคุมประพฤติเพิ่มเป็น 4 ปีก็จะพ้นกำหนดการคุมประพฤติไปแล้วตั้งแต่ 31 ส.ค.58 แต่เมื่อขยายเวลาจึงจะครบกำหนดในวันที่ 31 ส.ค.59 นี้ในระหว่างนี้ทุกอย่างต้องหยุดชะงักเพื่อรอฟังการไต่สวนของศาล


ย้อนรอย5คดีดัง!!ลูกคนรวย-ไฮโซ ซิ่งรถชนคนตาย!!



และสุดท้าย ที่กำลังเป็นประเด็นอย่างมาในตอนนี้นั้นก็คือ 

5. นายเจนภพ วีรพร ทายาทนักธุรกิจกลุ่ม เลนโซ่กรุ๊ป เจ้าของธุรกิจเคมีภัณฑ์ เครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ อุบัติเหตุครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2559 ที่ผ่านมาซิ่งเบนซ์พุ่งชนรถยนต์ฟอร์ด เป็นเหตุให้ นายกฤษณะ ถาวร และนางสาวธันฐภัทร ฮ้อแสงชัย 2 นิสิตปริญญาโท ถูกไฟคลอกเสียชีวิต2 ราย ล่าสุดทางตำรวจได้แจ้งข้อหาขับรถโดยประมาท ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ขัดขวางการปฎิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน และขับรถยนต์ในลักษณะมึนเมาพร้อมคุมตัวฝากขังศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา 12 วัน แต่ผู้ต้องหาได้ยื่นหลักทรัพย์ขอประกันตัวจากศาลเป็นเงิน 2 แสนบาท ศาลจึงพิจารณาให้ประกันตัวเพื่อให้ผู้ต้องหาได้กลับไปพักรักษาตัวต่อที่โรง พยาบาลทั้งนี้อยู่ใน 4 เงื่อนไข คือ ห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ห้ามขับขี่รถทุกประเภท ให้ยึดใบอนุญาตใบขับขี่ และต้องมารายงานตัวต่อศาลทุกครั้งเมื่อมีหมายศาล

ล่าสุด พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เปิดเผยความคืบหน้าสำหรับคดีนี้ว่า สำหรับผลตรวจเลือดหาสารเสพติดนั้น ตำรวจมีการประสานไปที่โรงพยาบาลสมิติเวช เพื่อขอผลการตรวจไปยังโรงพยาบาลแล้ว แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับผลแต่อย่างใด อีกทั้งในส่วนของข้อหาขับรถโดยประมาทในขณะเมาสุราเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งผู้ต้องหาให้การปฎิเสธและข้อสู้คดีในชั้นศาล แต่ในข้อหาอื่นๆ นั้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ซึ่งขอเวลาให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดให้รัดกุมเพื่อดำเนินคดี ยืนยันว่าไม่มีความหนักใจในการทำคดีรวมถึงไม่มีใครกดดันในคดีนี้ด้วย


ย้อนรอย5คดีดัง!!ลูกคนรวย-ไฮโซ ซิ่งรถชนคนตาย!!


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์