ตำนานคดีเพชรซาอุฯ เกรียงไกร เตชะโม่ง ลาบวชชั่วชีวิต

กำลังเตรียมพิธีเรียกขวัญนาคและเครื่องพิธีอุปสมบท นายเกรียงไกร เตชะโม่ง ซึ่งเป็นชาวบ้านในหมู่บ้านและยังเป็นผู้เป็นตำนานในคดีเพชรซาอุ เนื่องจากเป็นผู้โจรกรรมเครื่องเพชรของกษัตริย์ไฟซาล แห่งซาอุดีอาระเบีย จนกลายเป็นตำนานในคดีเพชรซาอุ และเป็นคดีโด่งดังเมื่อ 25 ปีที่แล้ว โดยในขณะนั้นนายเกรียงไกรถูกแจ้งข้อหาลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน และถูกศาลพิพากษาระวางโทษจำคุก 1 – 7 ปี แต่ได้ให้การรับสารภาพ ศาลจึงลดโทษ 5 ปี กระทั่งนายเกรียงไกร ได้รับอิสรภาพมานานกว่า 20 ปีแล้ว

บรรยากาศที่บ้านของนายเกรียงไกร มีเฉพาะญาติพี่น้อง และชาวบ้านที่อยู่บ้านใกล้เรือนเคียงที่ทราบข่าวต่างพากันมาช่วยตระเตรียมสิ่งของและพิธี โดยหน้าบ้านมีชาวบ้านทั้งชาย หญิงกำลังทำอาหารเพื่อเลี้ยงคนที่มาร่วมงาน ส่วนนายเกรียงไกรไม่อยู่บ้าน แต่อาศัยอยู่บ้านข้างเคียง เพื่อท่องจำบทสวดขออุปสมบทในวันพรุ่งนี้

ประกอบอาชีพการเกษตร โดยมีภรรยาและลูกชาย 1 คน ซึ่งชีวิตที่ผ่านมานั้นไม่ได้ร่ำรวย มีฐานะเหมือนชาวบ้านทั่วไป โดยรายได้หลักมาจากการทำงานรับจ้าง และประกอบอาชีพการเกษตรที่ทำอยู่ แต่ในการใช้ชีวิตนั้น นายเกรียงไกร ได้เคยบอกกับญาติพี่น้องและคนในครอบครัวว่า ชีวิตไม่มีความสุขมาก เหมืองเรื่องราวต่าง ๆ ยังคงหลอกหลอนอยู่ตลอดเวลา จึงคิดว่าเพราะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเพชรซาอุ ภาพเรื่องราวต่าง ๆ ยังคงอยู่ในชีวิตจิตใจไม่รู้ลืม ถึงแม้จะผ่านเวลานานมากแล้วก็ตาม ดังนั้นจึงตัดสินใจบอกกับคนในครอบครัวและญาติพี่น้องว่าจะขอลาบวชไปตลอดชีวิต เพื่อเป็นการล้างอาถรรพณ์และสร้างบุญ เพื่ออุทิศสวนบุญและขออโหสิกรรมไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีนี้ที่ล่วงลับไปแล้วหลายคน รวมถึงเจ้ากรรมนายเวรต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่ผ่านมา

ขณะที่ชาวบ้านยังเล่าปากต่อปากว่า การบวชในครั้งนี้ เชื่อว่าน่าจะมาจากผลของการขโมยเพชรซาอุมาจนทำให้ชีวิตของนายเกรียงไกรและครอบครัวไม่มีความสุข เป็นอาถรรพ์ที่ไปขโมยเพชรสำคัญประจำราชวงศ์ซาอุ รวมถึงจากแรงอาฆาตและเจ้ากรรมนายเวร รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องที่เสียชีวิตไป ยังคงวนเวียนติดตามตลอด ทำให้ล่าสุดเมื่อช่วงต้นปี 2559 นี้ นายเกรียงไกรได้ประสบอุบัติเหตุขับรถไปชนกับรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ที่ อ.เถิน  จ.ลำปาง จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนที่จะยังมีชีวิตรอดมาจนถึงทุกวันนี้ และนายเกรียงไกร ก็อยากที่จะมีชีวิตรอดอยู่ต่อไป จึงได้ตัดสินใจบวชเนื่องจากสำนึกผิดในสิ่งที่ผ่านมา ทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้น ทั้งต่อครอบครัวและประเทศไทย

ด้านนายเกรียงไกร เมื่อพบกับผู้สื่อข่าวถึงกับรู้สึกตกใจว่าทราบข่าวได้อย่างไร และได้ขออย่าถ่ายภาพ พร้อมกับไม่เอ่ยถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น เพราะอยากให้เรื่องราวในอดีตนั้นได้จบไป ไม่อยากเล่าหรือนึกถึง เพราะทุกวันนี้ก็ใช่ว่าจะมีความสุข