เนื่องจากแผนการขยายพื้นที่อิทธิพลของกลุ่ม IS ที่แพร่อิทธิพลมายังภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อินโดนีเซีย,มาเลเซีย) ซึ่งอาจเคลื่อนไหวเข้าใกล้ประเทศไทยมากขึ้น จึงกำชับให้ปฏิบัติตามหนังสือ สตม.ลับ ด่วนที่สุด ที่ 0029.122/400 ลงวันที่ 5 ก.พ.59 พร้อมทั้งแจ้งเตือนภาคเอกชนในพื้นที่ให้มีมาตรการในการ รปภ.อย่างเข้มงวด ซึ่งในการประสานการปฏิบัติควรระมัดระวังข้อมูล โดยให้ใช้วิธีการอ้างอิงสถานการณ์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในประเทศอินโดนีเซีย และให้พิจารณาพร้อมปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติโดยเคร่งครัด กรณีมีเหตุสำคัญเร่งด่วน หรือมีข้อมูลข่าวสารสำคัญ ให้มีการตรวจสอบข้อมูลให้ชัดเจน ครบถ้วนสมบูรณ์ โดยให้รายงาน ผบช.สตม. ที่ปรึกษา(มค) รอง ผบช.สตม.(ปป) และ รอง ผบช.สตม.(มค) ทราบในโอกาสแรก และรายงานสถานการณ์เป็นเอกสารมายัง ศปก.สตม. โดยเร็ว
ด้านพล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยกรณีดังกล่าวว่า ยังไม่ทราบเรื่องสหรัฐอเมริกาแจ้งเตือนไทยเกี่ยวกับการก่อการร้ายไอเอส ซึ่งเรื่องดังกล่าวจะต้องขอดำเนินการตรวจสอบก่อน เพราะที่ผ่านมามีข่าวลักษณะนี้ออกมาบ่อย จึงขอตรวจสอบให้ชัดเจนเพื่อความรอบคอบ
ขณะที่ พล.ต.ต.พิทยา ศิริรักษ์ รองผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล (รองผบช.ส.) กล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบกลุ่มเคลื่อนไหวไอเอสกรณีที่มีกระแสข่าวว่าทางสหรัฐมเอริกาเตือนประเทศไทยว่าจะมีกลุ่มไอเอสเข้ามาเคลื่อนไหวและก่อการร้ายในประเทศไทยตามสถานที่ท่องเที่ยวหรือพื้นที่สาธารณะนั้น ตนยืนยันว่าขณะนี้จากการตรวจสอบด้านการข่าวยังไม่พบกลุ่มเคลื่อนไหวนี้แต่อย่างใด
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ติดต่อไปยัง พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผบช.สตม. เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงดังกล่าวแต่ไม่สามารถติดต่อได้