ครูสาวใหญ่รำคาญเด็กประถมโรงเรียนเมืองโคราช
คุยเสียงดังในห้องเรียนขณะสวดมนต์ ใช้ไม้เท้าเคาะหัวเรียงคน ด.ญ.7 ขวบโดนเข้าไปแรงจนหัวปูด ทั้งปวดหัว-อาเจียน ต่อมามีเลือดกำเดาไหลอีก พ่อ-ย่าเห็นเข้าตกใจรีบพาส่งร.พ. เอกซเรย์สมอง สอบถามถึงรู้ว่าถูกครูใช้ไม้เคาะหัวอย่างแรง เข้าแจ้งความและไปร้องผอ. ด้าน ผอ.ยอมรับครูทำเกินกว่าเหตุ อ้างเด็กคนอื่นก็โดนไม่เห็นเป็นอะไร แต่พร้อมช่วยเหลือเรื่องค่ารักษาทั้งหมด และตั้ง กก.สอบทันที
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 23 ก.ค.
ผู้สื่อข่าวได้รับร้องเรียนว่า มีเด็กนักเรียนโรงเรียนเทศบาล 4 (เพาะชำ) ถูกครูใช้ไม้ตีศีรษะจนล้มป่วยนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลเซนต์แมรี่ ริมถนนมิตรภาพ-หนองคาย อ.เมืองนครราชสีมา จึงเดินทางไปตรวจสอบ ที่ห้อง 502/2 ตึกผู้ป่วยหลังเก่า พบด.ญ.ญาณิตา หรือน้องออม ชาวสวน อายุ 7 ขวบ นักเรียนชั้น ป.2/1 นอนพักรักษาตัว โดยมีนางเฉลียว ชาวสวน อายุ 50 ปี ย่า ดูแล
นางเฉลียวเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า
เมื่อวันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมาก่อนเลิกเรียนเวลาประมาณ 15.30 น.ทางโรงเรียนเรียกให้เด็กนักเรียนทุกคนรวมตัวสวดมนต์ก่อนจะกลับบ้าน แต่อาจารย์ที่ปรึกษาห้องน้องออมติดภารกิจจึงฝากเด็กในห้องไว้กับนางวัชรี เสาร่วม อายุ 45 ปี ครูชำนาญการ หรือ คศ.2 ซึ่งเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาชั้น ป.2/2 ช่วยดูแลแทน ด้วยความซุกซนของนักเรียนที่อยู่รวมกันทั้งสองห้องกว่า 80 คน จึงเล่นหยอกล้อกันเสียงดัง นางวัชรีไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ด้วยความไม่พอใจใช้ไม้ตีที่ศีรษะน้องออมและเด็กคนอื่นๆ แต่หลานสาวไม่ได้เล่าให้ฟัง ได้แต่บ่นปวดศีรษะ และเข้านอนแต่หัวค่ำ ซึ่งผิดปกติ โดยปกติจะเป็นเด็กขี้เล่น พูดเก่ง และไม่นอนหัวค่ำ
นางเฉลียวกล่าวอีกว่า วันต่อมาน้องออมตื่นไปเรียนตามปกติ
แต่ยังบ่นกับย่าว่าปวดศีรษะจึงให้กินยาแก้ปวด แต่เมื่อกลับมาบ้านก็ไม่หายปวด และนอนตั้งแต่เย็นทันที กระทั่งเช้าวันที่ 15 ก.ค.น้องออมตื่นขึ้นมาอาเจียน มีอาการซึม เวลาจะจับแถวต้นคอก็เอี้ยวตัวหนี นายอู๊ด ชาวสวน อายุ 30 ปี พ่อน้องออม เห็นอาการน่าเป็นห่วงจึงสอบถามว่าเป็นอะไร ลูกสาวจึงยอมเล่าให้ฟังว่าถูกครูวัชรีใช้ไม้ตีศีรษะ จากนั้นจึงพาไปตรวจที่ร.พ.ค่ายสุรนารี แพทย์ตรวจแล้วบอกไม่เป็นอะไรมาก และให้ยามากินที่บ้าน
ย่าน้องออมกล่าวต่อว่า รุ่งขึ้นวันที่ 16 ก.ค. ตัดสินใจแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน
สภ.อ.เมืองนครราชสีมา และเดินทางไปสอบถามที่โรงเรียนว่าทำอะไรหลานสาวจนต้องล้มป่วย นายศักดิ์เดช กองสูงเนิน ผอ.โรงเรียน รับปากจะช่วยเหลือ และจะสอบสวนหาข้อเท็จจริง ครั้งแรกก็ไม่ได้ติดใจอะไรมากนัก แต่น้องออมซึมไม่ค่อยพูดเอาแต่นอนอย่างเดียว บางครั้งก็อาเจียนออกมากลัวหลานจะเรียนไม่ทันเพื่อน จึงไปส่งหลานไปโรงเรียนทุกวัน แต่วันที่ 19 ก.ค.น้องออมเรียนไม่ไหว เอาแต่นอนอย่างเดียว แม้กระทั่งโรงเรียนเลิกก็ยังไม่ตื่น นายอู๊ดเห็นอาการแล้วจึงรีบหามส่งร.พ.เซนต์แมรี่ทันที โดยร.ต.น.พ.ฉัตรชัย เลาภากรณ์ แพทย์เจ้าของคนไข้ ระบุว่าศีรษะบริเวณท้ายทอยด้านขวาบวม กดเจ็บ มีขนาดบวม 2 x 2 ซ.ม.
ล่าสุดน้องออมยังซึม บ่นปวดศีรษะอย่างเดียว
ช่วงเที่ยงมีเลือดกำเดาไหลเป็นลิ่มๆ สีดำ และกินอะไรเข้าไปก็อาเจียนออกมา แพทย์ต้องรีบนำเข้าเครื่องเอกซเรย์สมอง เพื่อตรวจหาสิ่งผิดปกติ และสั่งให้พยาบาลเฝ้าสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด" นางเฉลียวกล่าว และว่า ทางคณะครูที่มาเยี่ยมบอกว่าจะรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาล ประมาณ 15,000 บาท แต่ต้องย้ายไปรักษาตัวที่ร.พ.มหาราช นครราชสีมา แต่ตนไม่ยอม เพราะมีปัญหาการเข้าเยี่ยม และไม่สามารถจะนอนเฝ้าได้
นางเฉลียวกล่าวด้วยว่า นอกจากนี้คณะครูยังได้นำเอกสารมาให้เซ็นชื่อ
โดยรายละเอียดในเอกสารยังกรอกไม่ครบถ้วน จึงไม่กล้าเซ็น โดยบอกรอให้พ่อน้องออมกลับมาก่อน ตอนนี้จะให้ทำอะไรก็ได้จะให้ถอนแจ้งความไม่เอาเรื่องก็ยอม แต่ต้องรักษาหลานสาวหายเป็นปกติ ตอนนี้ลำบากมาก ขาดงานมาเฝ้าหลานสาว งานก็ไม่ได้ไปทำ เงินที่เก็บสะสมไว้กว่าพันบาทใช้จนจะหมดแล้ว
ด้านนายศักดิ์เดช ผอ.โรงเรียนและผู้บังคับบัญชานางวัชรี เปิดเผยว่า
การสอบสวนเบื้องต้นเป็นเรื่องจริงที่ครูวัชรีใช้ไม้ที่มีลักษณะคล้ายไม้เท้าเคาะศีรษะ โดยเคาะไปครั้งเดียว และเคาะเฉพาะพวกที่ดื้อรวมกัน 4 คน ซึ่งเคาะเพียงเบาๆ คนอื่นไม่เป็นอะไร มีเพียงน้องออมคนเดียวที่ต้องรักษาตัว อย่างไรก็ตามทางโรงเรียนจะรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด และจะตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริง เพื่อหามาตรการลงโทษต่อไป