จับโจรปล้นแท็กซี่ สารภาพเตรียมเอารถไปขายต่อ

รวบ 3 โจรปล้นแท็กซี่ หลังกินเหล้าแล้วเงินหมด

ตั้งใจปล้นเอาเงินมากินเหล้าต่อ แต่คนขับรถแท็กซี่ไม่มีเงินจึงชิงเอารถมาหวังไปขายต่อในราคา 7 หมื่นบาท

เมื่อเวลา 01.00 น.ของวันที่ 20 กรกฎาคม 2550

พ.ต.อ.ชุมพล ฉันทะจำรัสศิลป์ ผกก.สภ.อ.เมืองสมุทรสาคร พ.ต.ท.ชัยชาญ ปุราธนานนท์ รองผกก.ป. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ต.ย่อยบางน้ำจืด อ.เมืองสมุทรสาคร ออกจับกุม 3 คนร้ายที่ปล้นทรัพย์รถแท็กซี่

หลังจากได้รับแจ้ง

จากนายสังข์ทอง เอกตาแสง อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57 หมู่5 ต.กุดจิก อ.ท่าคันโท จ.กาฬสินธ์ ว่า ขณะที่ตนขับรถแท็กซี่ยี่ห้อโตโยต้าสีชมพูหมายเลขทะเบียน ทพ-1746 กทม. มาถึงบริเวณถนนเลียบคลองสี่วาใกล้ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น หมู่ 6 ต.คอกกระบือ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร

ได้มีชายจำนวน 3 คน ได้ว่าจ้างตนให้ไปส่งที่วัดโพธิ์แจ้

ถนนเอกชัย หมู่3 ต.บางน้ำจืด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร แต่เมื่อขึ้นรถมาห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 100 เมตร คนร้ายที่นั่งอยู่ด้านหลังเบาะได้ใช้มีดยาวประมาณ 1 ฟุต มาจี้ที่คอตนและบังคับให้ขับขี่มาตามเส้นทางถนนเลียบคลองเทพกาญจนาและเลี้ยวเข้าซอยบ่อตกปลากระป๋องสี เมื่อมาถึงที่บริเวณช่วงทางโค้งบริเวณบ่อตกปลา ซึ่งเป็นที่เปลี่ยวชายทั้งสามคนได้บังคับตนลงจากรถพร้อมผลักตนตกลงไปในร่องน้ำข้างถนนแล้วขับขี่รถแท็กซี่หลบหนีไป

ต่อมา เมื่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งแล้วจึงได้ระดมกำลังสกัดจับทุกเส้นทางในพื้นที่

จนสามารถจับกุมคนร้ายได้ขณะที่คนร้ายทั้งสามนำรถแท็กซี่ไปจอดแอบอยู่ที่บริเวณหมู่บ้านกานดา หมู่3 ต.นาดี อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ทราบชื่อว่า นายสันติ พรมเดื่อ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5 หมู่4 ต.บ้านยาง อ.เกษตรสมบูรณ์ จ.ชัยภูมิ นายอุทัย พรมเดื่อ อยู่บ้านเลขที่ 5 หมู่ 4 ต.บ้านยาง อ.เกษตรสมบูรณ์ จ.ชัยภูมิ และนายสมควร โหตะรัตน์ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23 หมู่ 14 ต.บ่อแก้ว อ.บ้านม่วง จ.สกลนคร พร้อมของกลางมีดทำครัวยาวประมาณ 1 ฟุตจำนวน 1 เล่ม

จากการสอบสวนนายสมควร โหตะรัตน์ ให้การว่า

ตนและพวกได้ก่อเหตุปล้นทรัพย์จริง โดยก่อนเกิดเหตุได้ออกไปกินเหล้ายาดองตรงบริเวณร้านเซ่เว่นอีเลฟเว่นใกล้จุดก่อเหตุ จากนั้นจึงชวนเพื่อนในกลุ่มออกไปโบกรถแท็กซี่ เพื่อที่จะจี้ชิงทรัพย์โดยจะนำเงินมากินเหล้ากันต่อ

แต่ปรากฎว่าเมื่อจี้ไปแล้วคนขับรถแท็กซี่ไม่มีเงิน

จึงต้องชิงรถไปเลยเพื่อจะได้รถนำไปขาย เพราะว่าเคยมีนายหน้ามาติดต่อซื้อในราคาคันละ 7 หมื่นบาท ซึ่งตนและพวกได้ก่อเหตุกันมาแล้วจำนวน 2 ครั้ง จนมาถูกจับกุมได้ในที่สุด จากนั้นตำรวจชุดจับกุมจึงนำตัวทั้งสามคนไปส่งมอบให้กับ พ.ต.ต.ศุภณัฐ อินบำรุง พนักงานสอบสวน สภ.ต.ย่อยบางน้ำจืดเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป