ที่ บช.น. เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 17 ก.ค. พล.ต.ท.อดิศร นนทรีย์ ผบช.น. แถลงข่าวเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.บางซื่อ จับกุมคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์โทรศัพท์มือถือรุ่นยอดฮิตจากในร้านขาย โดยใช้สเปรย์พริกไทยฉีดใส่หน้าเหยื่อคือ นายชัยพิบูล หรือตุ้ย นาคถิน อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 หมู่ 5 ต.สามเรือน อ.เมืองราชบุรี พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือโนเกีย รุ่นเอ็น 72 สเปรย์พริกไทย 1 กระป๋อง
แจ้งข้อหาชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธ เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจ เหตุเกิดเมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ น.ส.ปวีณ วงศ์ภากรณ์ เจ้าของร้านขายโทรศัพท์กำลังยืนอยู่ในร้าน นายชัยพิบูล ทำทีมาขอดูโทรศัพท์ เมื่อสบโอกาสได้ใช้สเปรย์พริกไทยที่นำติดตัวมาด้วย ฉีดใส่ใบหน้าและหยิบโทรศัพท์มือถือที่วางขายในร้านวิ่งหลบหนีไป แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวได้ที่บริเวณหน้าโรงภาพยนตร์พหลโยธินเธียเตอร์
บัณฑิตหนุ่มใช้สเปรย์พริกไทยชิงโทรศัพท์
ผบช.น.กล่าวว่า จากการสอบสวนขยายผลพบว่า นายชัยพิบูล เคยก่อเหตุชิงทรัพย์ลักษณะเดียวกันมาแล้วครั้งหนึ่งในร้านทองแม่ทองสุข ย่านสะพานควาย โดยใช้สปรย์พริกไทยฉีดใส่หน้าพนักงานขายแล้วชิงทรัพย์ทองรูปพรรณ 4 เส้นหนัก 4 บาท จึงประสานเจ้าของร้านมาชี้ตัวยืนยัน ซึ่งสามารถยืนยันได้อย่างถูกต้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนำตัวมาแถลงข่าวนายชัยพิบูล ผู้ต้องหาได้นั่งก้มหน้า ใช้เสื้อปิดหน้าตลอดเวลา ทำให้ นางยุพิน มั่นการ เจ้าของร้านทองและญาติที่เดินทางมาด้วย อดรนทนไม่ไหวกับพฤติกรรมคนร้ายในวันนั้นประกอบกับรู้สึกหมั่นไส้ที่อายต่อการกระทำของตัวเองหลังถูกจับกุม จึงใช้มือจิกผมผู้ต้องหาแล้วตบหน้าไป 2 ทีท่ามกลางความชุลมุน จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้าห้ามปรามไว้
นายชัยพิบูล ผู้ต้องหารายนี้รับสารภาพว่า จบการศึกษาระดับปริญญาตรี ในมหาวิทยาลัยของรัฐบาลที่มีชื่อแห่งหนึ่งใน กท. จากนั้นได้หุ้นกับเพื่อนเปิดบริษัท แต่กิจการไปไม่รอด ทำให้เป็นหนี้สินเป็นเงินแสนกว่าบาท และกลับไปเอาเงินจากทางบ้านมาหลายครั้งแต่ก็ไม่พอใช้จ่าย จึงตัดสินใจหาเงินด้วยวิธีนี้ไปซื้อสเปรย์พริกไทยจากสวนจตุจักร ราคากระป๋องละ 100 บาท ส่วนโทรศัพท์มือถือที่ขโมยมา ได้นำไปขายต่อย่านมาบุญครองได้เงินใช้จ่ายชำระหนี้สินจนถูกจับกุม.