แม่ใจยักษ์ทิ้งทารกในห้องน้ำรพ.กล้องจับหน้าได้ชัดเจนมาก
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอาชญากรรม แม่ใจยักษ์ทิ้งทารกในห้องน้ำรพ.กล้องจับหน้าได้ชัดเจนมาก
แม่ใจยักษ์ทิ้งทารกในห้องน้ำรพ.กล้องจับหน้าได้ชัดเจนมาก
เมื่อเวลา 15.00 น.ของวันที่ 21 ธ.ค.2558 พ.ต.ท.วิชาญ บัวศักดิ์ พนักงานสอบสวน สภ.ย่อย มหาวิทยาลัยนเรศวร อ.เมือง จ.พิษณุโลก รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร ว่ามีผู้นำเด็กทารกน้อย ทิ้งมาไว้ที่ห้องน้ำภายในโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร แพทย์ได้ช่วยกันนำไปไว้ในห้องปลอดเชื้อ ดูแลไว้อย่างปลอดภัย หลังจากรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นห้องน้ำชั้น 1 ตึกผู้ป่วยนอก ของโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร โดยมีนาวสาวสุดารัตน์ อิศราวิศวกุล แพทย์ประจำโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร พาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไปดูห้องน้ำที่เกิดเหตุ โดยห้องน้ำดังกล่าว ถูกปิดป้ายไว้ ว่าห้องน้ำเสียIMG_6288
นาวสาวสุดารัตน์ อิศราวิศวกุล แพทย์ประจำโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร เล่าให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ฟังว่า
ก่อนเกิดเหตุมีผู้ป่วยเข้ามาในห้องน้ำแล้ว ได้ยินเสียงทารกน้อย ร้องอยู่ในห้องน้ำที่เสียและปิดประตูไว้ ตอนแรกก็คิดว่าเป็นเสียงผี แต่ก็ฟังดีๆ ก็คิดว่าเป็นเสียงเด็กทารกจริง จึงตัดสินใจเปิด ก็พบว่ามีเด็กทารกน้อยเพศหญิง อายุประมาณ 3-5 สัปดาห์ โดยมีคราบอาเจียนที่บริเวณปาก จากนั้นจึงได้วิ่งมาแจ้งตน และเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือเด็กทารกน้อย แล้วรีบส่งให้แพทย์ตรวจร่างกายและรักษาอาการเป็นการเบื้องต้น633743
หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิด บริเวณด้านหน้าห้องน้ำ ก็พบว่ามีหญิงสาว อายุ 20-25 ปี ซึ่งคาดว่าจะเป็นแม่ อุ้มทารกน้อยเข้าห้องน้ำ โดยก่อนหน้าจะตัดสินใจทิ้งได้เดินวนไปวนมา 2-3 รอบ จากนั้นก็อุ้มเด็กทารกเข้าไปในห้องแล้ว แล้วออกมาโดยปราศจากทารกดังกล่าว แล้ว
เบื้องต้น แพทย์หญิงสุดารัตน์ เจริญสันติ กุมารแพทย์ รพ.มหาวิทยาลัยนเรศวร เจ้าของคนไข้ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า
เด็กทารกน้อยเพศหญิงดังกล่าว ขณะนี้อาการปลอดภัย และไม่สามารถให้ผู้สื่อข่าวบันทึกภาพได้ โดยตรวจสอบเบื้องต้นเด็กน้อยมีร่างกายแข็งแรง ไม่พบเชื้อโรคหรือบาดแผลใดตามร่างกาย ซึ่งขณะดูแลไว้ใกล้ชิด ระหว่างนี้จะได้ประสานให้ทางเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เข้ามาดูแลอีกครั้ง พร้อมแจ้งให้พนักงานสอบสวนตามหาแม่เด็กรายนี่ต่อไป
ขอบคุณข้อมูลและที่มาจาก http://www.phitsanulokhotnews.com/2015/12/21/78492
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!