กระแสจตุคามฟีเวอร์ยังคงแพร่ระบาดไปทั่ว
แพร่ระบาดจนบางครั้งคนที่มีจตุคามอยู่กับตัว ต้องหนาวๆ ร้อนๆ ไปตามๆ กัน เพราะมีของดีเก็บไว้ก็ย่อมเป็นที่หมายปองของขโมยขโจรเป็นของธรรมดา เหตุคนร้ายบุกปล้น-ฆ่าชิงจตุคามจึงเกิดขึ้นบ่อยครั้ง
สูญทั้งจตุคามเสียทั้งชีวิตกันมานักต่อนัก!?!
อย่างเช่นเหตุการณ์ล่าสุดที่เกิดกับ นายสมศักดิ์ ชูนิล อายุ 57 ปี กับ นางสำราญ ชูนิล อายุ 53 ปี สองสามีภรรยาเจ้าของเขียงหมูคนดังในอ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งถูกคนร้ายดักยิงถล่มด้วยเอ็ม-16 ขณะขับรถออกจากบ้านพัก เพื่อชิงจตุคามรามเทพ รุ่น "บารมีธรรม" พร้อมเงินสดกับสร้อยคอทองคำหนัก 15 บาทแล้วหลบหนีไป กระสุนพุ่งเจาะร่างนายสมศักดิ์ ได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนนางสำราญ โชคร้ายถูกจ่อยิงจนถึงแก่ความตาย
เกิดเหตุร้ายในเมืองกรุงเก่าอีกจนได้!!
เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นตอนตี 5 วันที่ 12 ก.ค. พ.ต.ท.ประชา ธรรมเสวี พงส.(สบ 3)สภ.อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งมีเหตุยิงกันตายบนถนนในหมู่บ้านภาชีเสรีซิตี้โฮม ม.3 ต.หนองน้ำใส จึงนำกำลังรุดไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยพ.ต.อ.ธาตรี ตั้งโสภณ รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.กิตติกร บุญสม ผกก.สภ.อ.ภาชี พ.ต.ท.ประสาท สำราญเริงจิตร์ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.เสริมศักดิ์ รุ่งเรือง รอง ผกก.กลุ่มงานสืบสวน ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา
ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์นิสสันแวน สีฟ้า หมายเลขทะเบียน กง 141 พระนครศรีอยุธยา
จอดอยู่กลางสามแยกทางเข้าหมู่บ้าน ในรถพบศพนางสำราญ อยู่บ้านเลขที่ 19/116 ม.3 ต.หนองน้ำใส เสียชีวิตอยู่ที่เบาะซ้ายข้างคนขับ มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนเอ็ม 16 เข้าที่ท้ายทอยและต้นแขนขวา รวม 2 นัด ส่วนนายสมศักดิ์ถูกยิงที่หูขวาและแขนขวา พลเมืองดีนำตัวส่งร.พ.ภาชี แพทย์รักษาจนอาการปลอดภัย
แกะรอยมือปืนเอ็ม-16 ปล้น-ฆ่าชิงจตุคาม!?! ตาย-เจ็บสยองกรุงเก่า
ที่รถพบรอยกระสุนปืนที่ประตูด้านซ้าย 3 นัด
ประตูที่นั่งคนขับ 1 นัด รอบๆ รถพบปลอกกระสุนเอ็ม 16 ตกอยู่บนถนน 11 ปลอก ภายในรถพบอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม. ของนายสมศักดิ์วางอยู่ข้างที่นั่งคนขับ กระเป๋าเงินสดจำนวน 2 กระเป๋า และแหวนเพชรของนางสำราญ ตรวจสอบทรัพย์สินพบว่าเงินสดในกระเป๋าจำนวน 7 หมื่นบาท และสร้อยคอทองคำ 1 เส้นหนัก 15 บาท รวมทั้งเครื่องเพชรหายไป
รวมทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไปร่วม 3 แสนบาท
ตำรวจเดินทางไปสอบปากคำนายสมศักดิ์ที่ร.พ.ภาชี ได้ข้อมูลว่า
ก่อนเกิดเหตุนายสมศักดิ์และภรรยาออกจากบ้าน
ห่างจากจุดที่เกิดเหตุประมาณ 100 เมตร ขณะชะลอรถกำลังจะเลี้ยวออกจากหมู่บ้านซึ่งเป็นถนนแคบๆ มีคนร้ายรูปร่างผอมสูง ใส่เสื้อเชิ้ตสีดำ สวมหมวกไหมพรมคลุมหน้า เดินออกจากพงหญ้าข้างทางตรงเข้ามาหานายสมศักดิ์ แล้วใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ยิงเข้าที่ตัวรถและกระจก ก่อนใช้มือกระชากสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 5 บาท ที่ห้อยจตุคามรามเทพ รุ่นบารมีธรรม วัดบรมวงศ์อิศรวราราม จ.พระนครศรีอยุธยาที่คอนายสมศักดิ์ไป แต่นายสมศักดิ์ได้ยื้อแย่งไว้ จนเหรียญจตุคามหลุดจากสร้อยตกหาย
ห้วงนั้นนางสำราญตกใจ จึงร้องตะโกน "อย่ายิง อย่ายิง"
ทำให้คนร้ายโมโหเดินอ้อมรถไปหานางสำราญ แล้วใช้ปืนจ่อยิงในระยะเผาขนจนเสียชีวิต จังหวะนั้นมีชาวบ้านที่อยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุได้ยินเสียงปืนจึงวิ่งออกมาดู คนร้ายจึงใช้อาวุธปืนยิงขู่ขึ้นฟ้า ทำให้ชาวบ้านต้องหลบกันอย่างชุลมุน
หลังจากนั้นมันจึงหยิบเงินในกระเป๋าจำนวน 7 หมื่นบาท
และกระชากสร้อยคอของนางสำราญน้ำหนัก 15 บาท วิ่งหนีข้ามรางรถไฟหลังหมู่บ้านหลบหนีไปทางถนนสายภาชี-ท่าเรือ
ใครจะไปคิดว่าคนร้ายจะลงมืออุกอาจขนาดนี้
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้นายสมศักดิ์แทบช็อกที่ต้องเสียภรรยาไป
พร้อมบ่นน้อยใจในโชคชะตาตนเองที่ต้องมาโดนแบบนี้ เพราะที่ผ่านมา ได้ทุ่มเทตัวเองเพื่อสังคมตลอด เป็นกต.ตร. สภ.อ.ภาชี และเป็นรองประธานสมาคมหน่วยกู้ภัยอยุธยารวมใจ ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ แต่ก็ยังไม่วายมาถูกคนร้ายดักปล้นได้
นายสมศักดิ์ยืนยันว่า ที่ผ่านมาไม่เคยมีเรื่องขัดแย้งกับใคร
และก็ไม่รู้ว่าคนร้ายประสงค์ต่อสิ่งใดกันแน่ รู้สึกเสียใจที่ภรรยาเสียชีวิตโดยไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้ ทั้งที่มีอาวุธปืนอยู่กับตัว แต่ก็ยังเชื่อในบารมีขององค์จตุคามรามเทพที่แขวนอยู่ช่วยคุ้มครองตนเองไว้ เพราะตอนถูกยิงได้เซไปทางภรรยาทำให้คนร้ายนึกว่าตายเลยรอดมาได้
หลังเกิดเหตุร้ายครั้งนี้พล.ต.ท.เอก อังสนานนท์ ผบช.ภ.1 สั่งไล่ล่าตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้
เพราะเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญประชาชน พล.ต.ต.นเรศ นันทโชติ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เดินทางมาเรียกประชุมชุดคลี่คลายคดีทันที มอบหมายให้ พ.ต.อ.ธาตรี ตั้งโสภณ รอง ผบก. เป็นหัวหน้าชุดสืบสวน มีพ.ต.ท.เสริมศักดิ์ รุ่งเรือง รอง ผกก.กลุ่มงานสืบสวน ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา และชุดสืบสวนสภ.อ.ภาชี เป็นทีมงาน และให้ พ.ต.อ.ไพบูลย์ เจริญพานิช รอง ผบก.เป็นหัวหน้าชุดสอบสวน ผนึกกำลังกองปราบปรามลงพื้นที่แกะรอยคนร้ายทันที ซึ่งคาดว่าคนร้ายน่าจะมีมากกว่า 2 คน คือคนยิงและคนดูต้นทาง
ตำรวจเชื่อว่ามันต้องเป็นมืออาชีพ
สำหรับประเด็นการปล้นสังหาร เจ้าหน้าที่มุ่งไปที่เรื่องของการปล่อยเงินกู้และการฆ่าชิงทรัพย์เป็นหลัก เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับข้อมูลมาว่า นางสำราญปล่อยเงินกู้จำนวนมากให้กับบรรดาลูกค้าเขียงหมู แต่ไม่ได้ทำสัญญาใดๆ อาศัยหลักเชื่อใจกัน บางทีอาจเป็นการฆ่าล้างหนี้ก็เป็นได้
ส่วนเรื่องการชิงทรัพย์เพื่อต้องการชิงจตุคามก็เป็นไปได้เช่นกัน
หรือไม่คนร้ายก็มีความประสงค์ทั้ง 2 อย่างพร้อมกัน รู้ว่าสองสามีภรรยามักจะพกพาเงินสดติดตัวเป็นประจำและชอบใส่ทอง อีกทั้งยังมีจตุคามรุ่นดัง จึงทำให้คนร้ายตัดสินใจลงมือปล้น-ฆ่าดังกล่าว
ล่าสุดชุดสืบสวนแยกย้ายกันหาข่าวในพื้นที่จ.สระบุรี ลพบุรี และอ่างทอง เพื่อดูความเคลื่อนไหวตามซุ้มมือปืนที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องแล้ว
อีกไม่นานคงได้เห็นโฉมหน้าพวกมัน!