ประสบการ์ณเกือบตาย!! พ่อโดนพัดลมสระว่ายน้ำดูดก่อนลูกมาช่วยทัน

ประสบการ์ณเกือบตาย!! พ่อโดนพัดลมสระว่ายน้ำดูดก่อนลูกมาช่วยทัน

ประสบการ์ณเกือบตาย!! พ่อโดนไฟสระว่ายน้ำดูดก่อนลูกมาช่วยทัน

อ่านก่อนจากคนที่คุณรัก ก่อนเวลาอันควร ...~
ประสบการ์ณเกือบตาย..คู่พ่อลูก หลังพ่อโดน #ระบบสกิมเมอร์ ซึ่งเป็นระบบหมุนเวียนของสระว่ายน้ำดูด!! ในคอนโดดัง (3/12/58) 

ครอบครัวเราเพิ่งบินมาจากประเทศออสเตรเลียวันที่ 24 พย 2015 ภรรยาเป็นคนไทย สามีเป็นชาวออสซี่อายุ 34 ปี

 #ตำแหน่งผู้บริหารชั้นสูงของบริษัทBMW เมืองเมลล์เบิร์น เรามีลูกสาว 2 คน คนนึงอายุ 5 ขวบ #เป็นดาราและนางแบบต้นสังกัดอยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย เราเข้าพักในวันที่ 26 พย 2015 เวลา 18:08 นาทีโดยประมาณ สามีได้พาน้องมีน่าอายุ 5 ปี ลูกสาวคนโต ขึ้นไปว่ายน้ำชั้น 44 ของคอนโดโดยลูกสาววัยเกือบ 3 ขวบของเราน่องมาร์ลี่ไม่ได้ขึ้นไปด้วย เวลาประมาณ 18:52 นาที สามีและลูกสาววิ่งกลับห้องมาด้วยเสียงโวยวายและตกใจ 

สามีบอกว่าโดนพัดลมในสระน้ำดูดเป็นเวลาเกือบ 20 นาทีขณะที่นั่งพักผ่อนอยู่ในสระ 

ทำให้ขยับตัวไม่ได้และตะโกนขอความช่วยเหลือเสียงดังสุดเสียง ขณะนั้นมีคนว่ายน้ำอยู่ด้วยอีก 2 คน เมื่อเค้าเห็นเหตุการ์ณจึงรีบวิ่งลงไปแจ้งพนักงาน แต่ด้วยชั้น 44 สูงมากและเค้าต้องรอลิฟจึงใช้เวลานานมาก ลูกสาวของเราตะโกนขอความช่วยเหลืออย่างตกใจ มีน่าพอจะว่ายน้ำได้ จึงกระโดดลงสระใหญ่ตะโกนให้คนช่วย แต่เห็นว่าไม่มีใครอยู่เลย จึงตัดสินใจคว้าโทรศัพท์กระโดดน้ำลงไปพยายามช่วยดึงตัวพ่อที่เริ่มอ่อนแรงเพราะถูกดูดเป็นเวลาเกือบ 20 นาที นาทีนั้น #สามีบอกว่ากำลังจะขาดใจ #แต่เมื่อลูกกระโดดลงมาช่วยเค้าก้อรู้ว่าถ้าเค้าเป็นอะไรไป #ลูกก้อต้องตกอยู่ในอันตราย #จึงใช้กำลังความรักเฮือกสุดท้ายพยายามแกะตัวเองออก #จนหลุดออกมาพร้อมกับรอยใหม้เกรียมที่ด้านหลังอย่างรุนแรง โดยหากลูกสาวไม่กระโดดลงไปพยายามช่วยชีวิตพ่อ สามีดิชั้นก้อคงขาดใจไปแล้วทั้งคู่วิ่งหน้าซีดลงมาที่ห้องพักชั้น 22 สามีบอกว่าหน้ามืดมากใจสั่น ช่วยพาไปโรงพยาบาลที 

ดิชั้นรีบแต่งตัวและประคองสามีลงมาด้านล้างและบอกยามว่าเกิดอะไรขึ้น ให้รีบแจ้งนิติบุคคลที ดิชั้นพาสามีนั่งซ้อนมอเตอร์ไซร์รับจ้างไปด้วยกัน เพราะสามีบอกว่ากำลังจะเป็นลม ดิชั้นรีบบอกมอเตอร์ไซร์รับจ้างให้ไปส่งที่โรงพยาบาล Bumrungrad hospital และสามีได้สลบกลางทาง ขาสองข้างลากไปกับพื้นถนนอย่างอันตรายและน่าเวทนามาก ดิชั้นร้องให้ตะโกนช่วยด้วยตลอดทาง จนตำรวจจราจรก้อให้ผ่าไฟแดงเพราะเห็นผู้ป่วยหมดสติ เมื่อถึงห้องฉุกเฉิน สามีอยู่ในนั้นเป็นเวลาเกือบ 2 ชั่วโมง หมอเห็นหลังมหม้เกรียมบวมแดงปูดอย่างมากแล้วรีบทำการรักษาพร้อมเอกเรซ์ทุกส่วนอย่างเร่งด่วนเพราะคนไข้ไม่สามารถยืนเองได้และหมดสติตอนมาถึง 

ทางดิชั้นได้โทรแจ้งกับทางคอนโด แล้วได้รับการโอนสายคุยกับทางผู้ใหญ่ด้านบนที่พักอยู่ที่นั่น เพื่อบอกเรื่องที่เกิดขึ้น

 เค้านัดดิชั้นเพื่อตกลงกันในวันต่อมา จนวันนี้เวลา 13:00 ของวันที่ 27 พย 2015 ได้พาสามีกลับมาคุยด้วยหลังจากแอดมิทนอนโรงพยาบาลหนึ่งคืน สรุปแผนก building ของตึก ทางผู้จัดการแจ้งว่าจะติดต่อให้นิติบุคคลติดต่อคุยกับดิชั้นช่วงเย็นวันนั้น เวลาประมาณ 18:15 นาที ดิชั้นลงมาติดต่อขอคุยกับนิติด้านล่าง ก้อได้รับการคุยกับพนักงานว่าตอนนี้นิติอยู่ต่างจังหวัด เพราะนิติมีหลายคน ดิชั้นไม่พอใจมากเพราะสามีและลูกของดิชั้นเกือบตายทั้งคู่ในสระว่ายน้ำของตึกคอนโด และลูกสาวดิชันก้อช๊อกที่เห็นคุณพ่อกำลังจะตาย ลูกดิชั้นกลัวแม้แต่จะอาบน้ำตอนเช้า คุณยายอาบให้ก้อจะไม่ยอม เพราะผวา สรุปสุดท้ายนิติบุคคนไม่มีแม้แต่โทรมาหาดิชั้นสักนิดว่าเป็นเช่นไรบ้าง ทั้งๆ ที่ก้อเป็นคอนโดหรู แต่ปล่อยให้เหตุการ์ณแบบนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร สามีและลูกสาวของดิชั้นเกือบจะต้องจบชีวิตลงในสระน้ำแห่งนี้ สามีดิชั้นผิดหวังและโกรธมากที่คิดว่าความปลอดภัยและการบริการของคอนโดสุดหรูแห่งนี้จะมีมาตรฐาน แต่มันกลับสร้างฝันร้ายให้ครอบครัวดิชั้น 

เมื่อเรากลับออสเตรเลีย เราได้รวมรวมหลักฐานเหตุการ์ณต่างๆเพื่อสอบถามทนายและเตรียมประกาศเตือนถึงความอันตรายจากสระว่ายน้ำของคอนโดแห่งนี้

 ซึ่งเมื่อเกิดเหตุการ์ณกับสามีและลูกดิชั้น เค้าก้อไม่ยอมปิดทำการบริเวรนี้ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ดิชั้นรู้สึกสงสารผู้พักอาศัยในอนาคตที่อาจจะต้องเจอเกตุการ์ณแบบเดียวกัน และอาจต้องจบชีวิตลงที่สระแห่งนี้ โปรดติดตามตอนต่อไปของเรื่องราวตอนต่อไป อ่านจบแล้วอย่าลืมกดแชร์เพื่อประกาศให้คนรู้ เพราะการช่วยแชร์ของพวกคุณสามารถนำไปสู่การช่วยชีวิตผู้บริสุทธิ์ที่อาศัยอยู่ที่นั่น

 ขอบคุณพี่น้องชาวไทยจากใจคนไทยในต่างแดนอย่างเรา

ประสบการ์ณเกือบตาย!! พ่อโดนพัดลมสระว่ายน้ำดูดก่อนลูกมาช่วยทัน


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์