ครูนกต่อร่ำไห้แฉครูไอ้โม่งซาดิสม์ผู้ว่าฯเต้นพบเด็ก7ขวบอีกรายถูกข่มขืน
15 กรกฎาคม 2550 17:07 น.
ครูสาวนกต่อน้ำตานอง หลังถูกสั่งพักราชการและถูกตั้งข้อหาเป็นแม่เล้า แฉซ้ำครูชายเพื่อนสนิท ที่ถูกตั้งข้อหาข่มขืนเด็กมีพฤติกรรมซาดิสม์ อยากขึ้นศาลเร็วๆ เพื่อจะแฉพฤติกรรมครูหื่นกามให้หมดเปลือก ตำรวจเชื่อ ยังมีครูอีกรายที่เวียนเทียนข่มขืนเด็ก ผู้ว่าฯเต้น พบเด็ก 7 ขวบอีกรายถูกข่มขืน
ความคืบหน้า กรณี ด.ญ.ป.6 วัย 11 ขวบ ถูกครูไอ้โม่งย่องข่มขืนในบ้านพักครู ด้านหลังโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ชานุมาน จ.อำนาจเจริญ จนตั้งท้อง 4 เดือน โดยมีครู 2 คนตกเป็นผุ้ต้องสงสัย ซึ่งต่อมา นาง อ. อายุ 45 ปี ครูชำนาญการสายผู้สอน ที่ชวนเด็กเคราะห์ร้ายไปนอนเป็นเพื่อนที่บ้านพักจนถูกข่มขืน ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อหา เป็นธุระจัดหา และถูกสั่งพักราชการ และนาย ก. เพื่อนสนิท นาง อ.และเป็นข้าราชการครูต่างโรงเรียน ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อหา ข่มขืนเด็ก อายุไม่เกิน 13 ปีนั้น
ล่าสุดวันที่ 15 ก.ค. พ.ต.ท.ชัยชาญ พรมสำลี พนักงานสอบสวน สบ.3 สภ.ชานุมาน จ.อำนาจเจริญ เจ้าของคดี เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้สอบพยานมาหลายปาก พบว่ายังไม่มีพยานปากใดให้ถ้อยคำพาดพิงถึงผู้ที่น่าเชื่อว่าอาจจะเป็นไอ้โม่งอีกราย ตามที่กระแสของสังคมคิดกันเอาไว้
อย่างไรก็ดี ตนตั้งข้อสงสัย เช่นเดียวกับสังคมหลายปาก ว่าน่าจะมีไอ้โม่งอีกรายหนึ่งที่ข่มขืนเด็กในบ้านพักครูแต่ถึงขณะนี้ พยานยังให้ถ้อยคำไม่พาดพิงถึงและเพื่อให้ได้ตัวไอ้โม่งอีกรายที่ชาวบ้านคิดว่ายังลอยนวลอยู่นั้น ตนจะได้รีบเรียกพยานปากสำคัญเข้าให้ถ้อยคำอีกครั้งหนึ่ง ในเร็วๆ วันนี้เพื่อให้เข้าถึงตัวไอ้โม่งที่ยังลอยนวลอยู่
ด้าน นายอำพร ศรีตัดสูง ผอ.โรงเรียนที่เด็กเคราะห์ร้าย ได้เปิดแถลงข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า สถานที่เกิดเหตุไม่ได้อยู่ในเขตบริเวณของเรียน และเวลาเกิดเหตุ ก็เป็นเวลายามวิกาล ตนในฐานะเป็นผู้บริหารของโรงเรียนแห่งนี้ ก็มิได้นิ่งนอนใจ เมื่อทราบว่าเด็กท้อง ตนพร้อมกับผู้ปกครองของเด็ก ก็ได้พาเด็กเข้าไปแจ้งความที่โรงพักและในวันต่อมาก็ได้มีคณะครูในโรงเรียนร่วมกันลงขันได้เงิน จำนวน 2 พันบาท นำมอบให้กับครอบครัวของเด็กพร้อมทั้งข้าวเหนียว อีก 12 ก.ก. เป็นการเข้าช่วยเหลือเบื้องต้นไปก่อน และตนก็ได้เข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบไปแล้ว หรือหากตำรวจอยากจะพิสูจน์ ดีเอ็นเอ ตนก็พร้อม
ขณะเดียวกัน นาง อ.ที่ถูกตั้งกรรมการสอบทางวินัยและถูกพักราชการ ได้ร้องทุกข์กับผู้สื่อข่าวเช่นกันทั้งน้ำตาว่า ข้อหาที่ตำรวจตั้งเป็นธุระจัดหาเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี นั้นมันรุนแรงมากเกินที่ตนเองจะรับได้คำกล่าวหาที่ว่าเป็นธุรจัดหาเพื่ออนาจารเด็กนั้นไม่ใช่แน่นอน ตนไม่ใช่แม่เล้าไม่มีอาชีพอย่างนั้น จะทำได้อย่างไรตนเองก็เป็นครูด้วย และถ้าได้ขึ้นศาลเร็วๆ ตนจะกราบเรียนศาลว่า ผู้ชายที่เป็นเพื่อนคนนั้นแหละที่กระทำกับเด็กโดยที่ตนไม่รู้เรื่อง ตนไม่ได้ยุ่งเป็นผู้จัดหาแต่ประการใด เรื่องอาจเกิดโดยความบังเอิญซึ่งพอตนไม่อยู่บ้านเพื่อนคนนั้นมาบ้านมาเจอเด็กอยู่ตามลำพัง ก็เลยอยากยุ่งกับเด็กก็เป็นได้
"อยากจะร้องขอความเป็นธรรมกับสังคม และเพื่อนชายคนนั้นสักครั้งอย่าให้ฉันเดือดร้อนเลย เพื่อนคนนั้น เวลาพบกันมักมีอารมณ์ฉุนเฉียว ถ้าไม่ได้อะไรทันใจก็จะทุบตีทุกครั้ง ฉันตัวคนเดียวจึงยอมๆ ไปเพื่อความอยู่รอดถ้าตำรวจมีความเป็นธรรมก็ขอให้ได้อธิบายเรื่องนี้ด้วยในสำนวน ความผิดที่รับครั้งนี้ใหญ่มากกับชีวิตครูตัวเล็กๆ ฉันยังมีหนี้สินมากที่ต้องรับผิดชอบ และลูกๆยังต้องเรียนหนังสือ" นาง อ.กล่าว
ต่อเวลา 10.00 น.วันเดียวกันนี้ นายผอง(นามสมมุติ) อายุ 68 ปี พ่อ ของ ด.ญ.จุก (นามสมมุติ) นักเรียนชั้นป.6 วัย11 ขวบ ที่ถูกครูไอ้โม่งข่มขืนจนท้อง 4 เดือน ได้ร้องทุกข์ กับสื่อมวลชนด้วยใบหน้าซ้ำหมอง เนื่องจากครอบครัวยากจน ไม่มีปัญญาไปหาลูก โดยนายผอง เล่าว่า นับแต่ลูกถูกส่งไปพักรอคลอดที่บ้านเด็ก จ.อุบลราชธานี ตนและครอบครัวคิดถึงลูกมาก ใจอยากไปหาลูกแต่ไม่มีเงินค่าโดยสาร จะไปขอหยิบยืมใคร ก็ไม่มีใครช่วยเหลือเพราะทางบ้านยากจน บรรดาญาติ ก็มีฐานะยากจน หาเช้ากินค่ำ ทำนาก็มีนาแค่ 3-4 ไร่ จึงอยากขอความเมตตาจากผู้ใจบุญหรือข้าราชการครูในเขตพื้นที่ช่วยเหลือ เพราะตั้งแต่ลูกถูกส่งตัวไปอยู่อุบลราชธานีครอบครัวยังไม่ได้รับรู้ว่าเป็นอย่างไร
อยากสื่อสารไปถึงลูกว่าพ่อรักก็ยังทำไม่ได้ มาถึงวันนี้ ครอบครัวเดือดร้อนมากถ้าลูกไม่ถูกย่ำยี ชีวิตนี้คงมีสุข แม้จะหิวบ้าง อิ่มบ้างก็ยังเป็นสุขพ่อแม่อยู่กันพร้อมหน้า
รายงานข่าว แจ้งว่า นายปริญญา ปานทอง ผวจ.อำนาจเจริญ ได้เรียกหัวหน้าส่วนราชการด้านสวัสดิการและสังคมเข้าพบ เพราะที่ผ่านมา มีเด็กถูกล่วงละเมิดทางเพศสูง นอกจาก ด.ญ.จุก วัย11 ขวบที่เกิดเรื่องขึ้น ยังมีเด็กอายุ 7 ขวบในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ถูกคนใกล้ชิดข่มขืน จนอวัยเพศฉีกขาด ศูนย์เพื่อนเด็กได้ส่งไปรักษาและฟื้นฟูจิตใจที่โรงพยาบาล และผู้ว่าราชการอำนาจเจริญจะหาทางช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษ