ไขปริศนากินสุกี้ตาย!

ผ่าศพสาวพบสารเคมีกลิ่นแรง แม่วอนหมอพิสูจน์หาเหตุไม่มั่นใจ ‘ยาฆ่าแมลง’ในผักหรือลูกกินยาลดความอ้วน
สาวบริษัทเมืองกรุงเก่าดับปริศนา หลังกลับจากกินเลี้ยงสุกี้กับเพื่อนๆ พอเข้านอนตื่นเช้าแม่เจออุจจาระไหล-เลือดออกจมูกฟุบอยู่ในห้อง หามส่งโรงพยาบาลแต่สิ้นลม เผยลูกแอบกินยาลดความอ้วนและเคยเสริมจมูกจนอักเสบ ติดใจสงสัยสาเหตุการตาย ส่งศพผ่าพิสูจน์ เบื้องต้นแพทย์ระบุเจอสารแปลกปลอมคล้ายยาฆ่าแมลงตกค้างในผัก หรือตัวยาที่ผสมในยาลดความอ้วน ต้องทดสอบหาชนิดในห้องทดลองต่อถึงฟันธงได้ 
 
เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 13 ก.ค.  พ.ต.ท.กิตติศักดิ์ ฉายแสงรัตน์ รอง ผกก.  สส.สภ.อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งจาก รพ.ศุภมิตรเสนา ว่ามีผู้ป่วยหญิงมารักษาตัวและเสียชีวิต ไปตรวจสอบทราบชื่อคือ น.ส.นพเกตุ บัวทอง อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33 หมู่ 7 ต.พระขาว อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา  ตามร่างกายไม่พบบาดแผลหรือร่องรอยถูกทำร้าย สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ญาติพบนอนอุจจาระไหลและมีเลือดไหลออกจากรูจมูกเล็กน้อยในห้องนอน จึงรีบหามส่ง รพ. แต่สุดท้ายเสียชีวิตลงเมื่อประมาณ 2-3 ชั่วโมงที่ผ่านมา จึงติดใจสาเหตุการตาย แม้ไม่ใช่ถูกฆาตกรรม และต้องการส่งศพไปผ่าพิสูจน์สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ธรรมศาสตร์รังสิต จึงมอบให้เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยอยุธยารวมใจ นำศพส่งไปผ่าพิสูจน์ตามความต้องการ

นางสมประสงค์ สิงหนาท อายุ 54 ปี  มารดาผู้ตาย เปิดเผยว่า ลูกสาวทำงานอยู่บริษัท ขายเครื่องจักรทางการเกษตรอยู่ที่บริษัทแห่งหนึ่งใน จ.พระนครศรีอยุธยา ปกติแข็งแรงดีไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ นอกจากเป็นโรคภูมิแพ้ คือแพ้ฝุ่นเล็กน้อย แต่อาการไม่หนักมาก ทานยาแก้แพ้ก็หาย เมื่อคืนวันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมา ลูกสาวไปกินเลี้ยงกับเพื่อนบริษัทที่ร้านสุกี้แห่งหนึ่ง พอกลับถึงบ้านประมาณเวลา 22.00 น. ก็ยังพูดคุยนั่งดูละครกันตามปกติ จากนั้นสักพักขอตัวไปอาบน้ำนอน กระทั่งรุ่งเช้ามาพบลูกสาวในสภาพดังกล่าว จึงพาส่งรพ.และเสียชีวิตในที่สุด ตนกับญาติอยากรู้ว่าลูกสาวเสียชีวิตเพราะสาเหตุใด ที่ผ่านมาทราบว่าลูกสาวแอบทานยาลดความอ้วน และเคยไปทำศัลยกรรมจมูก ตอนนี้มีปัญหาอักเสบอยู่ ไม่รู้ทั้ง 2 กรณีจะเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของลูกหรือไม่ จึงต้องการให้แพทย์ผ่าพิสูจน์ศพ หากเกี่ยวข้องจริง จะได้เป็นอุทาหรณ์ให้กับบรรดาสาว ๆ ทั้งหลายที่อยากสวย
 
ต่อมาเวลา 14.00 น. แพทย์ระบุผลการผ่าพิสูจน์ศพเบื้องต้นว่า พบสารเคมีแปลกปลอมสีฟ้าอ่อนปะปนอยู่ในกระเพาะอาหารซึ่งส่วนใหญ่มีผักจำนวนมาก สารดังกล่าวมีกลิ่นเหม็นรุนแรง แต่แพทย์ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นสารชนิดใดหรือกลุ่มใด แต่อาจเป็นไปได้ว่าอยู่ในกลุ่มยาฆ่าแมลง ที่ตกค้างในผัก หรือตัวยาที่ผสมในยาลดความ อ้วน หากเป็นการกินยาตายจะต้องเสียชีวิตภายใน 15-30 นาที สำหรับสารดังกล่าวต้องนำเข้าห้องทดลองเพื่อหาชื่อชนิดของสาร และพิสูจน์ให้ได้ว่าเข้าไปในร่างกายได้อย่างไร ซึ่งต้องใช้เวลาในการตรวจพิสูจน์ในห้องปฏิบัติการทางเคมีนานกว่า 1 สัปดาห์  จึงจะทราบผล
 
ขณะที่เพื่อน ๆ ร่วมงานของผู้ตาย เปิดเผยว่า ได้ไปนั่งทานสุกี้กันที่ร้าน โดยสั่งชุดผักรวมและเห็ดมารับประทาน แต่ไม่มีใครล้มป่วยหรือเป็นอะไร เชื่อว่าสาเหตุการเสียชีวิตของผู้ตาย ไม่น่าจะเกิดจากผักที่รับประทานเข้าไป.