สลด3ขวบเฝ้าศพแม่ อดข้าวร่วม3วัน ตกค่ำจุดเทียนให้

สลด3ขวบเฝ้าศพแม่ อดข้าวร่วม3วัน ตกค่ำจุดเทียนให้

รันทดเด็กชายวัย 3 ขวบ อดข้าวเฝ้าศพแม่ร่วม 3 วัน หลังแม่คิดสั้นผูกคอตายหนีโรคร้ายและความจน กลางคืนจุดเทียนให้กลัวแม่จะมองไม่เห็น ขณะที่ผู้เป็นย่ารับไม่มีปัญญาส่งเรียนหนังสือ และเลี้ยงดูได้ วอนภาครัฐและผู้ใจบุญนำหลานไปเลี้ยงด้วย

เรื่องราวของเด็กชายวัย 3 ขวบกตัญญู อดข้าวเฝ้าศพแม่เป็นเวลากว่า 3 วัน ถูกเปิดเผยเมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 6 เมษายน พ.ต.ท.ธรรมธรรม์ วันสุข สารวัตรเวร สภ.อ.เมืองนครราชสีมา รับแจ้งเหตุพบศพผู้หญิงผูกคอตายภายในบ้านร้างของโรงน้ำแข็งเก่าหมู่บ้านตะคองใหม่ ถนนมิตรภาพ ซอย 4 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งมีลูกชายนั่งเฝ้าศพแม่มาแล้ว 3 วัน จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมมูลนิธิสว่างเมตตาธรรมสถาน จ.นครราชสีมา

ในที่เกิดเหตุพบศพนางเรไร อายุ 37 ปี มีอาชีพเก็บของเก่าขาย ใช้ผ้าปูที่นอนผูกคอกับขื่อห้องน้ำในบ้านร้างหลังดังกล่าว สภาพศพลิ้นจุกปากส่งกลิ่นเหม็น คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 4 วัน นอกจากนี้บริเวณหน้าห้องน้ำพบ ด.ช.บอย (นามสมมติ) อายุ 3 ขวบ สวมกางเกงขาสั้นเสื้อยืดสีเขียว สภาพมอมแมมและอิดโรยเฝ้าศพแม่ เป็นที่น่าเวทนาต่อผู้พบเห็น

ด.ช.บอย เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ แม่บอกว่าอยากผูกคอตาย จากนั้นก็เข้านอนในห้องติดกันกับแม่ เมื่อตื่นขึ้นมาตอนเช้า ก็พบว่าแม่ยืนอยู่ในห้องน้ำและมีผ้าผูกคอติดกับขื่อห้องน้ำ กระทั่งเย็นจึงจุดเทียนให้แม่ เพราะที่บ้านไม่มีไฟฟ้ากลัวแม่จะมองไม่เห็น อีกทั้งไม่ได้กินข้าวมา 3 วันแล้ว เพราะที่บ้านไม่มีข้าวและไม่มีเงิน กระทั่งชาวบ้านที่ผ่านไปมาได้กลิ่นเหม็นจึงเดินเข้ามาถามและเห็นศพแม่ จึงแจ้งให้ตำรวจทราบดังกล่าว

ด้านนางเอื้อม อายุ 63 ปี ซึ่งเป็นย่าของ ด.ช.บอย เล่าว่าพ่อของ ด.ช.บอย เสียชีวิตด้วยโรคร้ายเมื่อปี 2547 หลังจากลูกชายเสียชีวิต นางเรไรอาศัยอยู่กับลูกตามลำพัง และยึดอาชีพเก็บของเก่าขายมีรายได้พอประทังชีวิต บางวันมีเพื่อนบ้านสงสารก็ให้อาหารมากินบ้าง ขณะเดียวกันนางเรไรป่วยเป็นโรคร้ายที่ติดมาจากสามี สำหรับสาเหตุที่ทำให้นางเรไรตัดสินใจผูกคอตายครั้งนี้ คาดว่าน่าจะมาจากความจนและป่วยเป็นโรคดังกล่าว

นางเอื้อมยังกล่าวด้วยว่า ต่อจากนี้ไป ไม่ทราบว่าจะดูแลหลานชายได้หรือไม่ เนื่องจากมีฐานะยากจนและมีโรคประจำตัวคือโรคเบาหวาน ความดันและโรคหัวใจ ไม่รู้ว่าจะอยู่ได้อีกนานเท่าไร อีกทั้งขณะนี้ก็ทำงานอะไรไม่ได้ เงินก็ไม่มีไปหาหมอ จึงอยากขอวอนให้ผู้ใจบุญหรือภาครัฐช่วยกรุณารับตัวหลานชายไปอุปการะและส่งเสียให้เรียนหนังสือ

จากนั้นนางเอื้อม จึงพาหลานชายเดินไปที่ร้านเพื่อซื้อนมและขนมให้กินเพื่อบรรเทาความหิว หลังจากไม่ได้กินข้าว 3 วัน ระหว่างทางมีเพื่อนบ้านที่ใจบุญขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมา และทราบข่าวจึงมอบเงินให้ ด.ช.บอย 200 บาท เพื่อซื้อข้าวและขนมกินอีกด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ด.ช.บอย เปิดห้องนอนที่อยู่กับแม่ให้ชาวบ้านที่ทราบข่าวและมามุงดูเหตุการณ์ดู พบว่ามีสภาพเก่าและรกรุงรังเต็มไปด้วยของเก่าและเศษขยะ ส่วนหม้อข้าวก็ไม่มีข้าวเหลืออยู่เลย นอกจากนี้ภายในบ้านยังพบภาพพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ติดไว้ข้างกำแพงบ้าน และพบเศียรพระพุทธรูปที่ปั้นด้วยดินไว้ข้างใกล้ๆ กัน เพื่อบูชากราบไหว้ ซึ่ง ด.ช.บอย บอกว่าแม่สอนให้กราบไหว้พระพุทธรูปและในหลวง และทำตามที่แม่บอกเป็นประจำ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์