ด้าน พ.ต.ท.ญาณวุฒิ เลี่ยมแก้ว พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ เจ้าของคดี กล่าวว่า ได้แจ้งข้อกล่าวหานายกัณฑ์พิทักษ์แล้ว แต่ยังไม่ได้สอบปากคำอะไรมากนัก เพราะผู้ต้องหาอ้างว่ายังบาดเจ็บ และยังไม่พร้อมให้ปากคำใดๆ ขอรักษาตัวในโรงพยาบาลไปก่อน อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหาต้องอยู่ในความดูแลควบคุมของตำรวจด้วย และเท่าที่ดูผู้ต้องหายังอยู่ในอาการบาดเจ็บจริง ส่วนการประกันตัวนั้น ญาติสามารถยื่นหลักทรัพย์ได้ก่อนเวลาที่กำหนด หากไม่มาติดต่อก็ต้องฝากขังที่ศาลพระโขนง ถ้าเจ้าตัวไม่สามารถมาได้ หรือยังไม่หายดี ก็ให้นำใบรับรองแพทย์มายื่นต่อศาลเพื่อให้ศาลพิจารณาต่อไป ขณะเดียวกันมีกระแสข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ญาติของนายกัณฑ์พิทักษ์จะใช้ตำแหน่งของลุง คือ พล.ต.ท.อุกฤษฎ์ ปัจฉิมสวัสดิ์ อดีตผู้ช่วย ผบ.ตร. ยื่นประกันตัวในวงเงิน 1 ล้านบาท แต่มีเหตุไม่พร้อม ดังนั้น นายกัณฑ์เอนกจึงต้องใช้โฉนดที่ดินเป็นหลักทรัพย์ในการยื่นประกันตัวแทน
รอ"กัณฑ์พิทักษ์"กราบขอขมาศพ
วันเดียวกัน น.ส.สุชีรา อินทร์สุวรรณ อายุ 25 ปี บุตรสาวของ นางสายชล หลวงแสง อายุ 42 ปี พนักงานการเงินของ ขสมก. ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ กล่าวว่า
จนถึงวันนี้ตนยังรู้สึกช็อกและเสียใจไม่หายต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับครอบครัว และในเวลา 18.00 น. วันที่ 8 กรกฎาคม จะเป็นวันฌาปนกิจศพแม่ ตนอยากให้นายกัณฑ์พิทักษ์มากราบขอขมาศพ เพื่อเป็นการขออโหสิกรรมต่อแม่ และตนเชื่อว่าแม่ต้องให้อภัย อโหสิกรรมแก่นายกัณฑ์พิทักษ์อย่างแน่นอน ซึ่งที่ผ่านมามีเพียงนางสาวิณี แม่ของนายกัณฑ์พิทักษ์ มากราบขอขมาศพแทนลูกชาย ซึ่งนางสาวิณีบอกกับตนว่า ลูกชายของเขารู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และไม่สามารถมากราบขอขมาศพแม่ของตนได้ เนื่องจากอาการบาดเจ็บของลูกชายต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด ไม่สามารถออกจากโรงพยาบาลได้ น.ส.สุชีรา กล่าวว่า ตนไม่รู้ว่าอาการบาดเจ็บของนายกัณฑ์พิทักษ์หนักหนาสาหัสมากน้อยแค่ไหน แต่ตนก็รับฟังในสิ่งที่ผู้ปกครองและแพทย์ของนายกัณฑ์พิทักษ์กล่าวถึง หากมาไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เพราะตนถือเอาความสะดวกเป็นหลัก และไม่สามารถบีบบังคับให้นายกัณฑ์พิทักษ์ หรือใครๆ มากราบขอขมาศพแม่ได้ ขณะเดียวกัน ก็ได้รับคำยืนยันจากนางสาวิณีว่า จะมาร่วมงานฌาปนกิจศพของแม่ในเย็นวันนี้ ซึ่งตนก็รู้สึกดีในระดับหนึ่ง แต่สิ่งที่นางสาวิณีมาร่วมงานมากราบศพส่วนตัวไม่ถือว่าเป็นการทำแทนลูกชาย เพราะสิ่งเกิดขึ้นไม่มีใครสามารถทำแทนใครได้ และหลังงานศพแม่เสร็จสิ้นแล้ว ญาติและผู้หลักผู้ใหญ่ของแม่จะดูแลเรื่องค่าเสียหายต่างๆ ตามความเหมาะสม
ไร้เงาหมูแฮมเผาเหยื่อซิ่ง
เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ศาลาหมดทุกข์ 1 วัดทองคง หมู่ 6 ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ สถานที่จัดงานศพนางสายชล หลวงแสง อายุ 42 ปี
พนักงานการเงินของ ขสมก.ที่เสียชีวิต ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ญาติและเพื่อนพนักงานได้มาร่วมงานเตรียมพิธีฌาปนกิจนางสายชลโดยได้เคลื่อนย้ายพวงหรีดจำนวนมากออกมาวางไว้ด้านนอกศาลาใกล้กับเมรุเผาศพ ก่อนจะมีการฌาปนกิจในเวลา 18.00 น. ท่ามกลางบรรยากาศที่โศกเศร้า น.ส.สุชีรา อินทร์สุวรรณ ลูกสาวของนางสายชล กล่าวว่า หลังเผาศพแม่เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ยังไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไปเพราะตลอดเวลาที่แม่ยังมีชีวิตอยู่ แม่เป็นผู้นำมาตลอด คอยสั่งสอนให้ตนและหลานเป็นคนดี ขยันทำงานเพื่อจะมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีและแม่ยังสั่งนักสั่งหนาว่าอย่างไปเอาเปรียบคนอื่น และต้องเป็นคนรู้จักบุญคุณของคนที่เคยช่วยเหลือครอบครัว โดยเฉพาะยายที่อายุมากแล้ว
ส่วนในเรื่องที่มีข่าวว่านายกัณฑ์พิทักษ์ ซึ่งเป็นผู้ขับรถชนแม่จนเสียชีวิต
ที่บอกว่าจะเดินทางมาร่วมเผาศพนั้น น.ส.สุชีรา กล่าวว่า ในขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อจากนางสาวิณี ปะการะนัง แม่ของผู้ก่อเหตุแต่อย่างไร ตลอดเวลาตนพยายามทำใจมาโดยตลอด แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังทำใจไม่ได้ ส่วนที่ต้องฌาปนกิจในเวลา 18.00 น. เพราะว่าเพื่อนที่ทำงานของแม่จะเลิกงานในเวลา 17.00 น. กว่าจะเดินทางมาถึงวัดก็ประมาณ 18.00 น.