ล่าสุด 28 ก.ย. นายแพทย์ปริทรรศ ศิลปกิจ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการโรงพยาบาลสวนปรุง จ.เชียงใหม่ ได้มีการเปิดเผยว่า นายอาซาผะ ผู้ต้องหาเคยรักษาอาการป่วยทางจิตตั้งแต่ปี 2555 เตรียมประสานโรงพยาบาลนครพิงค์ รับตัวรักษาต่อ สำหรับประวัติการรักษาตัวผู้ก่อเหตุนั้น ก่อนที่จะมารักษาตัวที่โรงพยาบาลสวนปรุง เคยรับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ มาก่อน แต่ไม่ได้รักษาต่อเนื่องทำให้ อาการรุนแรงขึ้น และเข้าได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพบาลแห่งนี้ช่วงปลายเดือนกรกฎาคม 2558 ด้วยอาการควบคุมตัวเองลำบาก พร้อมกับอาการทาง จิตทั่วไป หูแว่ว ประสาทหลอน
โดยได้รับการแอดมิทภายเป็นเวลา 16 วัน ถือว่าอาการค่อนข้างหนัก ซึ่งทีมแพทย์ได้ให้การรักษาปรับตัวยาให้เหมาะสมอย่างใกล้ชิด กระทั่งสภาพจิตใจดีขึ้น ยาที่ใช้ไม่มีผลข้างเคียง จึงอนุญาตให้กลับไปรักษาตัวต่อที่บ้านได้ โดยออกจากโรงพยาบาลเมื่อใน วันที่ 5 สิงหาคม และในวันที่ 28 สิงหาคม บิดาของนายอาซาผะ ก็ยังมารับยารักษาต่อเนื่องที่โรงพยาบาลไชยปราการ กระทั่งเกิดเรื่องเศร้าสลดขึ้น ตอนนี้ยังไม่สามารถประเมินเบื้องต้นได้ว่า เหตุใด นายอาซาผะ จึงก่อเหตุ จะต้องมีการพูดคุยสอบถามก่อนว่าอะไรคือมูลเหตุจูงใจให้ทำ
สำหรับการสังเกตอาการของผู้ป่วยทางจิตนั้น แนะนำให้เฝ้าสังเกตหากเมื่อใดผู้ป่วยเริ่มมีท่าทีที่หลุดออกจากความเป็นจริง หรือมีอาการเหม่อลอย ทั้งจากการเผชิญกับภาวะเครียด รวมถึงการขาดยาเป็นเวลาเกินกำหนดขอรีบแจ้งไปยังโรงพยาบาลประจำตัวผู้ป่วย หรือโรงพยาบาลที่ใกล้บ้านที่สุดเพื่อไม่ให้เกิดเหตุเช่นนี้ขึ้นอีก