ต่อมาญาตินายชูวงษ์ ได้เข้าร้องเรียนกับ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.เพื่อขอรื้อคดีขึ้นมาสอบสวนใหม่ ยังติดใจการเสียชีวิตในหลายประเด็นนั้น รวมทั้งให้ช่วยตรวจสอบ หลังจากพบการโอนหุ้นของเสี่ยจืด มูลค่ารวมเกือบ 300 ล้านบาท ให้ หญิงสาวคนสนิท กระทั่งศาลอาญากรุงเทพใต้ ได้ออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ให้ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลโอนคดีการเสียชีวิตให้ บก.ป.รื้อคดีนั้น
โดยความคืบหน้าเจ้าหน้าที่ได้นำหุ่นจำลองและกล้องเข้าไปประกอบกับตัวรถยนต์เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการจำลองเหตุการณ์การเสียชีวิตของนายชูวงษ์ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ ยังเซ็ตช่วงล่างและระบบเบรกของรถ ให้มีค่าใกล้เคียงกับรถคันที่เกิดเหตุให้มากที่สุด โดยเฉพาะแรงดันลมยาง ก่อนที่จะนำไปใช้จำลองเหตุการณ์ที่จุดเกิดเหตุบริเวณระหว่างซอยเฉลิมพระเกียรติ ฯ ร.9 ซอย 48-50 แขวงและเขตสวนหลวง กทม. เจ้าหน้าที่ได้ทดลองขับรถคันดังกล่าวในระดับความเร็ว 70 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง เพื่อตรวจสอบสมรรถภาพของรถว่ามีสมรรถภาพใกล้เคียงกับรถคันเกิดเหตุหรือไม่ ซึ่งหลังจากทดลองพบว่าต้องมีการปรับแก้ไขระบบบางส่วน แล้วทดลองขับรถคันดังกล่าวในระดับความเร็ว 60กิโลเมตรต่อชั่วโมง พบว่าต้องมีการปรับตั้งระบบอีกครั้ง
หากเจ้าหน้าที่สรุปการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ ว่าเกิดจากอุบัติเหตุ ทางญาติจะยังติดใจหรือจะดำเนินการอย่างไรอีกหรือไม่ นายเอนก กล่าวว่า ไม่อยากให้สมมติ เพราะการทำคดีไม่มีคำว่าสมมติ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน โดยเฉพาะหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่สามารถพิสูจน์ได้ เนื่องจากในวันเกิดเหตุมีเพียง 2 คน ที่อยู่ในเหตุการณ์ คนหนึ่งเสียชีวิตไปแล้ว ก็เหลืออีกเพียงคนเดียวเท่านั้นที่รู้เรื่องทุกอย่าง ในส่วนของคดีโอนหุ้นที่พบพิรุธนั้น ทางครอบครัวรู้สึกพอใจกับผลการตรวจสอบที่สามารถนำไปสู่การออกหมายจับผู้ร่วมกระทำความผิดทั้งหมด และมั่นใจว่าสุดท้ายแล้วคดีการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ ก็จะได้ข้อสรุปที่เป็นความจริงเช่นกัน