ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัว น.ส.ณัฏฐณิชา ไปตรวจหาสารเสพติดซึ่งต้องรอผลตรวจ 7 วัน โดยเบื้องต้นควบคุมตัวไว้ในห้องขังก่อน ส่วนความคืบหน้าด้านการสืบสวนขณะนี้รายละเอียดประเด็นสำคัญคลี่คลายลงมากแล้ว ด้านรถยนต์เชฟโรเลต สีขาว ที่นายธัชกรขับมาที่โรงแรมในวันเกิดเหตุก็เป็นรถของน.ส.ณัฏฐณิชา หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้นำมาที่ สน.ลาดพร้าว และตรวจค้นภายในรถก็ไม่พบสิ่งผิดสังเกตหรือทรัพย์สินใดๆ
สำหรับนายกฤษฎา หรือคนในวงการสถานบันเทิงเรียกกันว่า เสี่ยอาร์ท ก่อนหน้านี้ได้เป็นหุ้นส่วนรายใหญ่ของสถานบันเทิงชื่อดังแห่งหนึ่ง ย่านรัชดาฯ ส่วนนายธัชกร หรือโอ๊ต เป็นลูกน้องคนสนิท ต่อมานายธัชกรเริ่มมีปัญหาระหองระแหงกับนายกฤษฎาเรื่องผู้หญิงจนต้องแยกทางกัน จากนั้นนายธัชกรและนายกฤษฎาเกิดไปชอบพอกับน.ส.ณัฏฐณิชา ซึ่งเป็นพริตตี้ตามงานแสดงสินค้าต่างๆ โดยที่ทั้งคู่ไม่รู้ว่าชอบผู้หญิงคนเดียวกัน น.ส.ณัฏฐณิชาก็พยายามปกปิดไม่ให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดรู้ โดยที่ตัวน.ส.ณัฏฐณิชาเองก็ไม่ทราบเช่นกันว่าผู้ชายทั้ง 2 คน รู้จักกันมาก่อน
จนวันเกิดเหตุ น.ส.ณัฏฐณิชาแค้นที่นายกฤษฎานำคลิปเสพยามาข่มขู่จะแบล็กเมล์ จึงโทรศัพท์ไปเล่าให้นายธัชกรฟังแล้วให้รีบเดินทางมาที่กทม. แต่เมื่อนายธัชกรเข้ามาที่ห้องก็พบว่าผู้ชายคนที่พยายามจะแบล็กเมล์น.ส.ณัฏฐณิชา คือ เสี่ยอาร์ท คู่แค้นเก่า ทั้ง 2 คนจึงต่อสู้กันจนเป็นเหตุดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องชู้สาว หรือประสงค์ต่อทรัพย์ หลังจากนี้จะได้สอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงรวมทั้งทรัพย์สินของนายกฤษฎาว่าหายไปได้อย่างไร ก่อนดำเนินการต่อไป