เพราะอยู่กับมารดามาตั้งแต่เด็ก ส่วนบิดาได้หย่าร้างกับมารดาตั้งแต่ยังเป็นเด็กแล้ว" น.ส.สุชีรา กล่าว
จากนั้นเวลา 13.00 น.นายสถาพร อรุณศิริ อายุ 37 ปี คนขับรถประจำทางสาย 513 คัน
เกิดเหตุพร้อมด้วยนางสมจิตร์ แก้วกล้า กระเป๋ารถเมล์ เข้าให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทองหล่อ นายสถาพร กล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้เข้าแจ้งความว่าถูกนายกัณฑ์พิทักษ์ ทำร้ายร่างกาย แต่ระหว่างนั้นมีชายคนหนึ่งเข้ามาหาตนเอง พร้อมกับถามชื่อก่อนที่จะข่มขู่ว่าจะเอาเรื่องถึงลูกเมีย โดยชายคนดังกล่าวอ้างว่าเป็นพ่อของคนขับรถเบนซ์ และอ้างว่ารู้จักกับตำรวจและนายทหารยศใหญ่โต ทำให้รู้สึกหวาดกลัว อีกทั้งชายคนดังกล่าวยังได้ข่มขู่ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ อีกทั้งขอปฏิเสธว่าไม่ได้ขับรถเฉี่ยวชนกับคู่กรณี และไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
ส่วนนางสมจิตร์ กล่าวว่า ยืนยันเอาไปสาบานที่ไหนเลยก็ได้ ว่าชายคนดังกล่าวจงใจขับชน
เพราะเขาขับถอยหลังไปแล้ว เกียร์ถอยหลังมี 2 เกียร์หรืออย่างไร เขาอาจจะโมโหที่ผู้โดยสารหลายคนไปต่อว่าที่ไปทำร้ายคนขับรถโดยสาร ซึ่งผู้โดยสารหลายๆ คนยังเอ่ยปากให้ฝ่ายตนเอาเรื่องให้ถึงที่สุดแล้วจะเป็นพยานให้ และจะมาอ้างว่าคนขับรถเบนซ์มีโรคประจำตัวนั้นไม่ถูกต้อง เพราะหากคุณมีอาการไม่ครบ 32 แล้วออกใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคลได้อย่างไร ที่นิติเวชโรงพยาบาลจุฬาฯ น.ส.สุชีรา พร้อมด้วยนางอัญชลี อาสามีทรัพย์ อายุ 37 ปี และนางทองดำ หลวงแสง อายุ 69 ปี บุตรสาว น้องสาวและมารดาของนางสายชล เดินทางมารับศพนางสายชล ด้วยใบหน้าโศกเศร้าดวงตาแดงก่ำ
เมื่อเวลา 13.00 น. เจ้าหน้าที่ได้เคลื่อนย้ายศพออกจากห้องชันสูตรและนำมาใส่โลงไม้เพื่อทำพิธีจุดธูปไหว้
เมื่อญาติเห็นศพของนางสายชล ต่างก็พากันร้องห่มร้องไห้ โดยเฉพาะนางทองดำ มารดาผู้ตายร้องไห้แทบจะขาดใจ ซึ่งญาติต้องช่วยกันประคองไว้เกรงว่าจะเป็นลม เมื่อทำพิธีเสร็จแล้วจึงเคลื่อนย้ายศพใส่รถตู้ไปบำเบ็ญกุศลที่วัดทองคง ตรงข้ามฟาร์มจระเข้ จ.สมุทรปราการ ทั้งนี้ มีเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นตัวแทนฝ่ายอุบัติเหตุขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) มาร่วมรับศพ และกล่าวว่า ในส่วนของความช่วยเหลือเบื้องต้นมีเงินฌาปนกิจ จำนวน 2 แสนบาท ส่วนเงินบำเหน็จบำนาญขึ้นอยู่กับอายุงานและเงินเดือน
ที่โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท เมื่อเวลา 16.30 น. นายกัณฑ์เอนก ปัจฉิมสวัสดิ์ พร้อมด้วยนางสาวิณี
แถลงเปิดใจด้วยสีหน้าเศร้าหมองว่า พร้อมรับผิดชอบค่าเสียหาย ค่ารักษาพยาบาลและค่าทำศพให้ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่นายกัณฑ์พิทักษ์ บุตรชายก่อขึ้น
พร้อมยืนยันว่าอาการสั่นหลังเกิดเหตุไม่ใช่เสแสร้ง แต่บุตรชายไม่รู้ตัว ส่วนอาการสั่นอาจมาจากเมื่อเดือนก่อนบุตรชายเคยเข้ารับการรักษาที่สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ เพราะมีอาการหงุดหงิด ฉุนเฉียวถึงขั้นหมดสติ นายกัณฑ์เอนก ยอมรับด้วยว่า บุตรชายเคยเป็นโรคซึมเศร้าตั้งแต่สมัยเรียนชั้นมัธยม แต่ปฏิเสธที่จะตอบคำถามเรื่องอาการทางจิตและประสาท เหตุที่ส่งตัวไปรักษาที่สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ เพราะมารดาของเพื่อนสาวทำงานอยู่ที่นั่น
ปกติบุตรชายเป็นคนสุภาพเรียบร้อย ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เที่ยวกลางคืน
และขณะนี้บุตรชายรู้เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดแล้ว และมีอาการซึมเศร้า ร้องไห้ออกมาเป็นระยะ พร้อมปรารภว่าเมื่อหายดี จะพักการเรียนเพื่อบวชให้ผู้เสียชีวิต" นายกัณฑ์เอนก กล่าว
ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าการแถลงข่าวครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อปกป้องบุตรชาย ขอยอมรับผิดทุกอย่าง รวมทั้งจะไม่วิ่งเต้นช่วยเหลือเรื่องคดี แต่จะเตรียมหลักทรัพย์ไว้รอประกันตัวบุตรชาย ส่วนเรื่องถูกรุมประชาทัณฑ์จนน่วมและรถยนต์เสียหายอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะเอาผิดหรือไม่
ขณะที่ นางสาวิณี มารดากล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ยินดีรับผิดชอบและเสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นับจากนี้จะดูแลบุตรชายให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น