ผ่าขั้นตอน-คำสั่งตาย เครือข่ายทีมฆ่าเจ๊จู

เป็นอันว่าตำรวจนครปฐมสามารถปิดคดีฆ่านางสุกัญญา ยงพิศาลภพ หรือ "เจ๊จู" ภรรยา นายสมชาติ ยงพิศาลภพ "หมอเผ่า 2" ได้อย่างสมบูรณ์แบบ


งานนี้เจ้าหน้าที่ตามรวบตัวคนร้ายไว้ได้ยกแก๊ง ประกอบด้วย นายสมบัติ หรือแต ภมรวงศ์ อายุ 42 ปี มือปืน นายคณิต หรือแจ๊ค สังข์ทอง อายุ 19 ปี คนขับรถจักรยานยนต์ นางนวลพร บรรเทิงจิต อายุ 47 ปี เจ้าแม่ร่างทรงคนจ้างวาน

นอกจากนี้ ยังมีเครือข่ายลงมือทำงานอีก 6 คน

คือ นายมนตรี หรือไก่โต้ง ดาเปรม อายุ 39 ปี นายชูชีพ หรือชีพ สดใส อายุ 50 ปี นายธาดา หรือพร เวชวงศ์ อายุ 48 ปี นายชาตรี หรือตรี ไพศาลย์ อายุ 48 ปี นายประพันธ์ น้อยสอาด อายุ 43 ปี และนายพิศิษฐ์ หอทอง อายุ 47 ปี ทำงานกันเป็นทีม เบื้องหลังคำสั่งตายครั้งนี้ จากการสืบสวนและสอบสวนผู้เกี่ยวข้องตำรวจสรุปได้ว่า มาจากเจ้าแม่ร่างทรงไม่พอใจที่ถูกกล่าวหาเป็นชู้กับสามีเจ๊จูและหลอกลวงเอาเงินไป 14 ล้านบาทไป
"จึงมีคำสั่งตายถึงเจ๊จู"

แต่แล้วในที่สุดก็จนมุมยกแก๊ง

ย้อนกลับไปดูเหตุการณ์ครั้งนี้ต้องนับว่าโชคไม่เข้าข้างคนผิด เพราะทันทีที่สิ้นเสียงปืนนัดกระชากวิญญาณเจ๊จู นายสมบัติกับนายคณิต 2 มือปืนก็ถูกตำรวจตะครุบตัวไว้ได้ทันควัน พร้อมของกลางอาวุธปืนขนาด .357 ที่โยนทิ้งไว้ข้างทาง โทรศัพท์มือถือ และรถมอเตอร์ไซค์ที่ใช้ก่อเหตุ นอกจากนี้ ยังมีพยานเห็นเหตุการณ์อีกมากสามารถชี้ตัวคนร้ายได้ ลำพังพยานหลักฐานขั้นต้น ก็สามารถเอาผิดกับคนร้ายทั้ง 2 คน ได้อย่างสบาย แถมมือปืนยังให้การซัดทอดไปถึงคนจ้างวานฆ่า ตำรวจภายใต้การนำของพล.ต.อ.วงกต มณีรินทร์ รองผบ.ตร. พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.ภาค 7 พล.ต.ต.รชต เย็นทรวง รองผบช.ภาค 7 ไล่ตรวจสอบย้อนหลังหาที่มาที่ไปเครือข่ายคนร้าย เพื่อนำหลักฐานมาใช้มัดพวกมันไม่ให้ดิ้นหลุด และสาวมัดไปถึงขบวนการทั้งหมด

พวกนี้ทำงานเป็นทีมมีการว่าจ้างอย่างสลับซับซ้อน


ในตอนแรก 2 มือปืนยังให้การไม่ครบถ้วนเหมือนพยายามปิดบังอะไรบางอย่างไว้ เจ้าหน้าที่จึงขยายผลจากโทรศัพท์มือถือที่คนร้ายทำตกไว้ พบว่าเบอร์ 087-9825720 ที่คนร้ายใช้ มีการติดต่อกับบุคคลหลายคนซึ่งน่าจะเป็นทีมสังหาร

ในชั้นนี้มีผู้เกี่ยวข้องเกือบ 10 คน!?!

เป้าหมายแรกที่ตำรวจสาวถึง คือ นายธาดา หรือ โก๊ะ กับนายชาตรี ทำหน้าที่เป็นคัตเอาต์จัดหามือปืน โดยมีนายประพันธ์ เป็นผู้จัดการหารถจักรยานยนต์ และนายพิศิษฐ์ เป็นผู้จัดหาอาวุธ ซึ่งนายชาตรี รับงานต่อมาจากนายชูชีพ สดใส ซึ่งได้รับงานมาจากนายมนตรี หรือไก่โต้งอีกทอดหนึ่งขณะที่นายมนตรีรับงานมาจากนางนวลพรคนบงการ!!

ในตอนแรกแผนสังหารวางตัวนายเล็ก ภมรวงศ์ มือปืนซุ้มเมืองกาญจน์ เป็นผู้ลงมือ

นายธาดากับนายชาตรี จึงนำเงินงวดแรก 9 หมื่นบาทไปให้นายเล็ก แต่พอได้เงินนายเล็กเกิดเบี้ยวย้ายบ้านหนี นายธาดากับนายชาตรี จึงไปพบนายสมบัติ พี่ชายของนายเล็ก เมื่อนายสมบัติทราบเรื่องจึงรู้สึกผิดที่น้องชายเบี้ยวงานแบบนี้ จึงเอ่ยปากขอทำงานแทนเพื่อเป็นการไถ่โทษ หลังจากตกลงกันได้ ทั้ง 3 คนจึงนัดเจอกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งข้างปั๊มน้ำมันปตท. ต.ท่าเรือ จ.กาญจนบุรี แล้วเดินทางมาที่จ.นครปฐม เพื่อพานายสมบัติมาดูหน้าเจ๊จูที่โรงไม้ และติดต่อขอปืนจากนายพิศิษฐ์เพื่อเตรียมลงมือทำงาน โดยนายสมบัติไปชักชวนนายคณิตซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานมาร่วมงานอีกคน

เย็นวันที่ 23 มิ.ย. นายสมบัติจึงส่งวิญญาณเจ๊จูเป็นผลสำเร็จ

เมื่อพยานหลักฐานพร้อม ตำรวจจึงขออนุมัติศาลออกหมายจับกุมนายมนตรี ตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐมที่ จ.690/2550 นายชูชีพ ตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐมที่ จ.691/2550 และนายชาตรี ตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐมที่ จ.672/2550 จับกุมตัวนายชาตรี ได้เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. เวลาประมาณ 18.00 น. ขณะขับรถอยู่ที่ถนนสายกาญจนบุรี-ศรีสวัสดิ์ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี จับนายมนตรีวันที่ 29 มิ.ย. เวลาประมาณ 15.00 น. ที่ร้านน้ำฝน เลขที่ 74/194-5 ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี และจับกุมนายชูชีพได้ในวันเดียวกันตอนเย็น ที่บริเวณถนนเลียบคลอง ม.6 ต.เขาน้อย อ.ท่าเรือ จ.กาญจนบุรี ขณะที่นายธาดากับ 2 มือปืนถูกจับไปก่อนหน้านี้

นายชูชีพสารภาพขั้นตอนการว่าจ้าง ว่าได้รับการว่าจ้างจากนายมนตรี ให้จัดหามือปืนเพื่อฆ่านางสุกัญญา

โดยมีค่าจ้างดำเนินการครั้งนี้เป็นจำนวนเงิน 350,000 บาท จากนั้นจึงติดต่อไปยังนายชาตรีเพื่อให้จัดหามือปืน เมื่อนายชาตรีตกลงจึงได้นัดพบกับนายมนตรี ที่ปั๊มเจ็ทสระกระเทียม เพื่อไปดูโรงไม้ทวีกิจพาณิชย์ของนางสุกัญญาผู้ตาย จากนั้นนายมนตรีจึงมอบเงิน 40,000 บาทให้ตนไว้เป็นค่าใช้จ่าย ตนจึงแบ่งเงินให้นายชาตรีไปจัดหามือปืน 30,000 บาท เมื่อนายชาตรีหามือปืนได้แล้ว ตนจึงไปขอเบิกเงินจากนายมนตรีมาอีก 120,000 บาท และมอบเงินดังกล่าวให้นายชาตรีไป 100,000 บาท และไปเบิกเงินส่วนที่เหลือจากนายมนตรีมาเก็บไว้ 180,000 บาท และได้แบ่งให้นายชาตรีเมื่อเสร็จงานไป 150,000 บาท

แต่แล้วเครือข่ายก็มาถูกทลายลงเสียก่อน


ส่วนสาเหตุการสังหารเจ๊จูครั้งนี้ นายมนตรีในฐานะที่สนิทสนมกับนางนวลพรเพราะทำธุรกิจค้าที่ดินด้วยกัน และทำหน้าที่เป็นไม้ 2 ในการรับจ้างฆ่า ระบุว่า รับงานจากนางนวลพรให้ติดต่อหามือปืนมาฆ่านางสุกัญญา เนื่องจากโกรธแค้นที่นางสุกัญญากล่าวหาว่าหลอกลวงเงินจากนายสมชาติ ยงพิศาลภพ สามีของนางสุกัญญา ไปเป็นเงิน 14 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังกล่าวหาว่าเป็นชู้กับนายสมชาติอีกด้วย

โดยนางนวลพรบอกว่ามีงบในการทำงานครั้งนี้ 350,000 บาท นางนวลพรมอบเงินให้ก้อนแรก 40,000 บาท ตนจึงติดต่อนายชูชีพ เมื่อนายชูชีพแจ้งว่าหามือปืนได้แล้ว ตนจึงเบิกเงินจากนางนวลพรให้ไปอีก 120,000 บาท จากนั้นนายชูชีพมาเบิกเงินจากตนอีก 50,000 บาท โดยเงินที่นายชูชีพเบิกจากตนนั้นตนไปเบิกมาจากนางนวลพรอีกที

คำให้การเหล่านี้ใช้มัดนางนวลพรได้เป็นอย่างดี

กล่าวถึงนางนวลพร ถูกตำรวจขออนุมัติจับกุม ควบคุมตัวไว้ในกลางดึกวันที่ 29 มิ.ย. ที่ผ่านมา ในชั้นนี้นางนวลพร ยังคงให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา เช่นเดียวกับนายพิศิษฐ์ หอทอง เจ้าของปืน .357 ทูตมรณะ ก็ยืนกรานปฏิเสธไม่เกี่ยวข้องเช่นกัน

แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานเตรียมสรุปสำนวนส่งฟ้องในข้อหาร่วมกันจ้างวานฆ่าฯ ทั้งหมด

พยานหลักฐานมัดแน่นขนาดนี้ท่าทางจะรอดยาก!

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์