หนุ่มสิชลเพี้ยนลงมือฆ่าหั่นศพ 2 คดีซ้อน
รายแรกเป็นเสี่ยฟาร์มวัวบุกเชือดคอแทงตามร่างกายตายสยอง แต่ตร.เข้าใจว่าถูกโจรปล้นวัวสังหาร จนอีก 2 วันให้หลังพบอีกศพเป็นคนแก่ในหมู่บ้านถูกฆ่า-คว้านท้อง ก่อนตัดเอวเกือบขาด 2 ท่อนฝังดิน ชาวบ้านให้เบาะแสเพราะเห็นไอ้หนุ่มคลั่งมาด้อมๆ มองๆ เข้าไปรวบตัวสารภาพไม่สะท้าน อ้างพระเจ้าสั่งให้ลงมือ และคิดว่าจะฆ่าเพิ่มอีก 2 ศพด้วย แต่ถูกจับเสียก่อน เผยมีฐานะดีแต่เสพยาบ้าหนักจนเพี้ยน พ่อแม่เคยส่งไปรักษาแต่หมอไม่รับ เพราะมีอาการเป็นบางช่วงเลยให้ยามากินแทน กระทั่งมาก่อเรื่องสยองขวัญขึ้น
คลั่งฆ่าหั่นศพครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 30 มิ.ย.
พ.ต.ท.นิกร สมสุข สว.เวร สภ.อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งเหตุพบศพถูกฆ่าในป่าละเมาะ ม.9 ต.เสาเภา อ.สิชล จึงนำกำลังตำรวจพร้อมด้วยมูลนิธิใต้เต็กตึ๊งสิชลรุดไปที่เกิดเหตุ เป็นขนำยกพื้นสูง มีคราบเลือดเปรอะอยู่เต็ม
ห่างจากขนำพบหลุมมีเท้าโผล่ออกมา
เจ้าหน้าที่จึงขุดหลุมลึกลงไปราวๆ 1 เมตร พบศพนายสำราญ อิสระพันธ์ อายุ 60 ปี บ้านเลขที่ 109 ม.9 ต.เสาเภา อ.สิชล ถูกห่อด้วยผ้าห่มลายสกอตสีแดง มุ้งสีฟ้า เสื้อและกางเกงขายาวสีน้ำตาลยัดอยู่ในถุงปุ๋ยอีกชั้น สภาพศพถูกคว้านท้องไส้ทะลัก ลำคอถูกรัดจนเขียวคล้ำ รอบเอวถูกบั่นด้วยของมีคมเกือบขาด และพับศพในลักษณะศีรษะติดกับปลายเท้า แล้วมัดด้วยเชือก ก่อนห่อศพด้วยผ้าห่ม เบื้องต้นคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 8 ช.ม.
หนุ่มเพี้ยนฆ่าหั่นศพ!2รายซ้อน
จากการสอบสวนทราบว่า
ผู้เสียชีวิตมีอาชีพทำสวนและอยู่ที่ขนำดังกล่าวเพียงลำพัง ไม่เคยมีความขัดแย้งกับใคร เป็นคนที่สมถะและมีฐานะยากจนไม่มีทรัพย์สินหรือสมบัติใดๆ ขณะที่ชาวบ้านให้การว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาเห็นนายเรวัตร เพชรนุ้ย อายุ 30 ปี พักอยู่บ้านเลขที่ 41/1 ม.9 ต.เสาเภา อ.สิชล มาอยู่ละแวกที่เกิดเหตุ โดยนายเรวัตรมีอาการทางประสาทด้วย
เจ้าหน้าที่จึงเดินทางไปที่บ้านและพบผู้ต้องสงสัยเดินอยู่หน้าบ้าน
จึงเข้าควบคุมตัวเอาไว้ ซึ่งนายเรวัตร ให้การสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุฆ่าหั่นศพนายสำราญเอง และที่ทำให้ตำรวจต้องตกตะลึงมากขึ้นเมื่อสารภาพด้วยว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา ก็เป็นผู้ลงมือสังหารนายเจริญ ชัยกฤษ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 114 ม.9 ต.เสาเภา อ.สิชล นครศรีธรรมราช เจ้าของฟาร์มวัวในละแวกเดียวกัน
โดยคดีนั้นตำรวจพบศพนายเจริญถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยม
ด้วยการเชือดลำคอ และแทงอีกหลายแผล แต่ตอนแรกเข้าใจว่าเป็นฝีมือโจรที่จะบุกเข้ามาปล้นวัว ซึ่งนายเรวัตรอ้างว่าที่ลงมือฆ่าทั้ง 2 คนเพราะทำตามที่พระเจ้าสั่ง นอกจากนี้ ยังต้องฆ่าเพิ่มอีก 2 ศพให้ครบ 4 ศพด้วย จึงควบคุมตัวมาที่โรงพักเพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม ระหว่างทางนายเรวัตรมีอาการเหมือนคนเป็นโรคประสาท เดี๋ยวก็ยิ้ม เดี๋ยวก็หัวเราะ
พ.ต.ท.นิกร กล่าวว่า
จากการสอบประวัติพบว่า นายเรวัตรอาศัยอยู่กับพ่อแม่ ถือว่ามีฐานะดีพอสมควร แต่ติดยาบ้าจนเกิดอาการเพี้ยน บางครั้งก็เกิดอาการคลุ้มคลั่งขึ้นมา ก่อนหน้านี้ครอบครัวพยายามที่จะนำส่งไปรักษาตัวที่ร.พ.สราญรมย์ จ.สุราษฎร์ธานี แต่ทางร.พ.ไม่รับเพราะนายเรวัตรพูดจารู้เรื่อง เพียงแต่มีอาการคลุ้มคลั่งในช่วงกลางคืนบางครั้งเท่านั้น จึงให้ยามากิน กระทั่งมาก่อเหตุสยองขวัญดังกล่าว