เมียตร.เหยื่อกระสุนร่ำไห้รับศพ ชี้สามีพูดเป็นลาง-ก่อนเข้าเวร

ให้รอดคืนนี้ไปก่อนจะพาลูกเมียไปทำบุญ ด้านเมียท้องแก่ใกล้คลอดยอมรับขาดเสาหลักครอบครัว ผบ. เผย ตำรวจ 2 นายตั้งใจทำงานไม่ออกนอกลู่นอกทาง เคยได้รับรางวัลสายตรวจดีเด่น

ผู้บังคับบัญชาสายงานของ จ.ส.ต.สุริยันต์ พุทธขันและจ.ส.ต.วิมล เวชกุล พร้อมเพื่อนร่วมงานและภรรยาผู้ตายและญาติตำรวจทั้งสองคนกว่า 50

คนเดินทางมารอรับศพท่ามกลางบรรยากาศที่โศกเศร้า โดยเฉพาะนางพนิดา เวชกุล ภรรยาของจ.ส.ต.วิมลและนางวรรณา พุทธขัน ภรรยาของจ.ส.ต.สุริยันต์ ทันทีเดินทางมาถึงเป็นลมเพราะร้อง ไห้จนญาติต้องประคองตัวและพาไปนั่งสติอารมณ์และปฐมพยาบาลโดยทั่งสองยังอยู่ในอาการเสียใจ มีอาการตาแดงกล่ำและร้องไห้ตลอดเวลาจึงไม่สามารถพูดคุยได้ โดยทั้งหมดเฝ้ารอรับศพของจนท.ตร.ทั้งเพื่อนำไปบำเพ็ญกุศล

จนท.สองนายเป็นคนขยันทำงานมีความตั้งใจทำหน้าทุ่มเทให้การทำงานเป็นอย่างยิ่ง มีอุปนิสัยร่าเริงแจ่มใส ร่วมงานกันมาอย่างต่อเนื่องกว่า 10 ปี ส่วน จ.ส.ต.วิมล เพิ่งมาทำงานได้เพียง 3-4 ปีโอนย้ายมากจากต.ช.ด.นับว่าเป็นการสูญเสียคนที่มีฝีดีในการทำงานครั้งยิ่งใหญ่ โดยทั้งคู่ไม่คาดคิดมาก่อนว่าคนร้ายจะมีอาวุธปืนติดมาด้วย

ก่อนเกิดเหตุทั้งสองคนตระเวนตรวจพื้นที่ได้รับแจ้งเหตุสะกัดจับรถจยย.ต้องสงสัยจี้ชิงทรัพย์รถแท็กซี่

ทั้งสองจึงขี่รถจยย.ตามคนร้าย กระชั้นชิด ตั้งแต่รามอิทรา 5 ทะลุออกรามอินทรา 23 จนกระทั่งถึงซอยตันคนร้ายไปไหนไม่รอดเป็นจังหวะเดียวกับจะหันรถกลับ จนท.จึงเรียกให้หยุดแต่ไม่คาดว่าคนร้ายจะมีอาวุธปืนมาด้วย คนร้ายจึงยิงปืนใส่กระสุน1นัดถูกจ.ส.ต.สุริยยันต์ เข้าที่หน้าผาก ล้มลงเสียชีวิตทันที ทันใดนั้นจ.ส.ต.วิมลสามารถตั้งสติได้จึงชักปืนยิงใส่คนร้ายไป 2 นัดแต่ไม่โดน เนื่องจากคนร้ายอยู่ในที่มืด ขณะที่คนร้ายยิงปืนสวนมาใส่ จ.ส.ต.วิมล เข้าหน้าท้อง โดยกระสุนฝังใน 1 นัดทะลุออกหลัง 4 นัดเป็นกระสุนปืนลูกซอง จากแนวทางการสืบสวนคาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่คงต้องเป็นหน้าที่ของฝ่ายสืบสวนที่จะต้องติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี

สำหรับจ.ส.ต.สุริยันต์เป็นนักเรียพลตำรวจรุ่น 67 โรงเรียนพลตำรวจนครบาล

โดยตำรวจสองนายเป็นตำรวจดีเด่น ซึ่งได้รับรางวัล top cop of people จนท.ตร.สายตรวจดีเด่น 2549 โดยได้รับการโหวตจากประชาชนเข้ารับรางวัลจาก พล.ต.ท.วิโรจน์ จันทรังษี อดีตผบช.น.

นางวรรณา พุทธขัน อายุ 37 ปี ภรรยาจ.ส.ต.สุริยันต์ ซึ่งมารอรับศพสามีกล่าวด้วยน้ำตานองหน้า ซึ่งอยู่ในท้องแก่ใกล้คลอดเดินทางมาพร้อมบุตรชายคนโต ด.ช.ทวิวัฒน์หรือน้องไอซ์ พุทธขัน อายุ 10 ปี เรียนอยู่ที่ รร.เอี่ยมพานิชวิทยา ว่า สามีเป็นร่าเริงขยันทำงานปกติคืนวันศุกร์ เสา อาทิตย์ ถ้าไม่เข้าเวรจะรับจ้างเข้าเวร เพื่อนำเงินมาเลี้ยงดูและใช้จ่ายในครอบครัว เพราะมีหนี้สินต้องผ่อนบ้านที่ลำลูกกา แต่ยังไม่ได้เข้าไปอยู่ โดยวางแผนว่าจะเข้าไปอยู่และให้สามีลาออกมาดูแลลูกด้วยกัน เพราะลูกไม่ค่อยแข็งแรง

เมื่อคืนนี้ตอนเวลา 22.00 น.ได้คุยกับสามีว่าจะให้พาไปหาหมอและจะไปถวายสังฆทาน

แต่สามีบอกเป็นลางว่าขอให้รอดพ้นคืนนี้ก่อนแล้วค่อยว่ากันจะไปไหนแล้วประมาณตีห้าเพื่อนตร.มาบอกว่าสามีประสบอุบัติเหตุรถล้ม แต่ตนไม่เชื่อมั่นใจว่าต้องมีเหตุรุนแรงมากกว่านั้น เพราะได้ยินเสียงปืนช่วงตีสามจนกระทั่งเดินทางไปรพ.พบว่าสามีเป็นศพไปแล้ว และไม่คิดว่าจะเกิดเหตุลักษณะแบบนี้กับครอบครัว จากนี้ไปยังไม่รู้จะทำอย่างไรเพราะสามีเป็นคนดูแลครอบครัวทั้งหมด

ด้านน้องไอซ์ กล่าวสั้น ๆว่า อยากเป็นตำรวจอย่างพ่อ

พ่อใจดีไม่ดุ จะตีบ้างตอนที่ตัวเองซุกซน ไปเล่นข้างนอก ก่อนออกจากบ้านเมื่อคืนพ่อไม่ได้บอกอะไรและไม่ได้คุย เพราะหลับไปก่อน จนมารู้เมื่อเช้าว่าพ่อตายไปแล้วรู้สึกเสียใจมาก