สาวแคดดี้ได้หุ้น ‘ชูวงษ์’ 228 ล้านบาท ยื่นขอถอนอายัด หลังเสียหาย 16 ล้าน

 จากกรณีการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง อายุ 50 ปี นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งญาติเข้าร้องเรียน เพื่อให้สอบสวนรื้อฟื้นคดีขึ้นมาใหม่ เนื่องจากยังติดใจการเสียชีวิตในหลายประเด็น รวมทั้งยังขอให้ตรวจสอบข้อพิรุธที่นายชูวงษ์โอนหุ้นกว่า 300 ล้านบาท ไปให้กับบุคคลอื่นด้วย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

 

ซึ่งได้รับการโอนหุ้นอีเอในกลุ่มธุรกิจพลังงานจากนายชูวงษ์ จำนวน 9.5 ล้านหุ้น รวมมูลค่ากว่า 228 ล้านบาท เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี ผบก.ป.เพื่อยื่นหนังสือขอถอนการอายัดหุ้นดังกล่าว หลังจากได้รับผลกระทบ ส่งผลให้หุ้นดังกล่าวรวมถึงหุ้นที่ น.ส.กัญฐณา ลงทุนซื้อเข้ามาใหม่นั้นมีราคาตกลง เกิดความเสียหายเป็นมูลค่ากว่า 16 ล้านบาท

 ซึ่งเดิมมีหุ้นอีเอในกลุ่มธุรกิจพลังงาน จำนวน 9.5 ล้านหุ้น มูลค่ากว่า 228 ล้านบาท ก่อนจะแบ่งขายไปกว่า 3.6 ล้านหุ้น แล้วนำเงินที่ขายได้ส่วนหนึ่งไปซื้อหุ้น วิน (win) ซึ่งเป็นหุ้นพลังงานเช่นกัน กว่า 10 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 1.05 บาท ต่อมายอดรวมการปิดตลาดหุ้นเมื่อวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา พบว่าหุ้นอีเอ มีราคาตกลงมาอยู่ที่ 21.40 บาท ส่วนหุ้นกลุ่มวิน ตกลงมาอยู่ที่ 0.85 สตางค์ จนเกิดความเสียหายกับ น.ส.กัญฐนา เป็นมูลค่ากว่า 16 ล้านบาท เนื่องจากไม่สามารถทำธุรกรรมใดๆ ได้

 

 นายเสกสรร กล่าวต่อถึงกรณีข้อพิรุธในเอกสารที่มีรายงานว่า พบร่องรอยการแก้ไขหลายจุด เช่นการแก้ไขจุดประสงค์การโอนหุ้นจากการจำนำเปลี่ยนมาเป็นการโอนหุ้น รวมถึงจำนวนหุ้น โดยใช้น้ำยาพิเศษว่า เบื้องต้นตนยังไม่เห็นเอกสารดังกล่าว แต่ได้สอบถามข้อเท็จจริงกับ น.ส.กัญฐณา ก็พอทราบว่าเอกสารดังกล่าวมีร่องรอยการแก้ไขมาก่อนแล้ว

 

ซึ่งการการแก้ไขรายละเอียดต่างๆ หากได้รับความยินยอมจากนายชูวงษ์หรือผู้โอนหุ้นก็ไม่น่าไม่ผิดแปลกอะไร แต่มันสำคัญอยู่ที่ว่าลายเซ็นนั้นเป็นของนายชูวงษ์จริงหรือไม่ เรื่องนี้ก็อยากให้ไปสอบกับทางโบรกเกอร์เองจะดีกว่า ส่วน พล.ต.ต.อัคราเดช กล่าวว่า การยื่นเรื่องขอถอนอายัดหุ้นของ น.ส.กัญฐณา นั้น คงจะรับรับเรื่องไว้พิจารณาก่อน ซึ่งในส่วนของการตรวจสอบหลักฐานเอกสารการโอนหุ้นนั้น ได้รับรายงานจากทางพนักงานสอบสวนว่าหากไม่มีอะไรติดขัดก็จะได้รับรายละเอียดข้อมูลจากการตรวจสอบจากกองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ในวันเดียวกันนี้