ขณะที่ ส่วนของลายเซ็น พนักงานสอบสวนกองปราบ ระบุว่า เบื้องต้น จากการตรวจสอบลายเซ็นของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง เป็นของจริง แต่มีการปรับแก้ข้อความในเอกสารหลายอย่าง อาทิ จากการโอนเพื่อจดจำนองปรับแก้เป็นการโอนเพื่อจำหน่าย รวมถึงเอกสารใบคำถอน หรือ โอนหลักทรัพย์ ที่นายชูวงษ์โอนหุ้นให้ น.ส.ศรีธรา พรหมา แม่ของ น.ส.อุรชา วชิรกุลฑล โบรกเกอร์สาว มีการแก้ไขขีดฆ่าเนื้อหาต่างๆ อาทิ วันที่มีการแก้ไขจากวันที่ 5 มิถุนายน 2558 เป็นวันที่ 8 มิถุนายน 2558 นอกจากนี้ ด้านท้ายเอกสาร ที่ระบุชื่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด ชื่อ น.ส.อุรชา ก็ลงวันที่ 5 มิถุนายน 2558 เช่นกัน
ทั้งนี้ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ เนื่องจากพบพิรุธและมีการแก้ไขข้อความ โดยอยู่ระหว่างการสืบสวน และจะส่งตรวจพิสูจน์ ในวันที่ 3 สิงหาคมนี้
พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ช่วงบ่ายวันที่ 5 สิงหาคมนี้ จะเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก บช.น. และกองปราบ มาประชุมที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพื่อความชัดเจนในการทำคดี และยอมรับว่า มีประเด็นที่ยังสงสัย ต้องเรียก น.ส.กัญฐณา ศิวาธนพล พริตตี้สาว และ น.ส.อุรชา โบรกเกอร์ มาสอบปากคำเพิ่มเติม
ส่วนกรณีที่ พ.ต.ท.บรรยิน ออกมาเปิดเผยว่า มีผู้อยู่เบื้องหลังครอบครัวนายชูวงษ์นั้น พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวว่า หากพบมีตัวตนจริง ก็จะเรียกมาให้ปากคำ แต่จนถึงขณะนี้ ยังไม่สามารถออกหมายจับผู้ต้องสงสัยได้ ส่วนกรณีที่ครอบครัวนายชูวงษ์จะนำหลักฐานกล้องวงจรปิดในวันเกิดเหตุมาแสดง หากเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ก็จะนำมาประกอบในสำนวน