เมื่อเวลา 03.30 น. วันที่ 30 มิ.ย. ร.ต.ท.ชัยณรงค์ พูนดี พนักงานสอบสวน สน.บางเขน รับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจถูกยิงได้รับบาดเจ็บ 2 นาย
หน้าบ้านเลขที่ 216 ซอยรามอินทรา 23 แยก 18 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นรุดไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น รอง ผบช.น. พ.ต.อ.พัฒนา เภสยนาวิน ผกก. พ.ต.ต.ชโลธร วัฒนโชติ สวป. และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน
ในที่เกิดเหตุพบกองเลือดกองใหญ่ และรถ จยย.สายตรวจตราโล่ ทะเบียน 58767 ล้มอยู่
นอกจากนี้ ยังพบหลักฐานหัวกระสุนปืนลูกซองจำนวน 2 หัว ส่วนเจ้า-หน้าที่ตำรวจเหยื่อกระสุนถูกนำส่ง รพ.เซ็นทรัลเยนเนอรัล ไปแล้ว ทราบชื่อต่อมา
• จ.ส.ต.วิมล เวชกุล อายุ 37 ปี ผบ. หมู่งานป้องกันและปราบปราม สน.บางเขน ปฏิบัติหน้าที่สายตรวจ จยย. รหัส 1242 ถูกยิงด้วยปืนลูกซอง กระสุนเจาะทะลวงเป็นกลุ่มเข้าที่ท้องตรงใต้ชายโครงซ้าย เสียเลือดมาก สิ้นใจหลังถึง รพ.ได้ไม่นาน อีกคนคือ
• จ.ส.ต.สุริยันต์ พุทธขันธ์ อายุ 37 ปี มีบาดแผลถูกกระสุนปืนทะลุศีรษะ 1 แห่ง แพทย์พยายามช่วยชีวิตอย่างสุดความสามารถ แต่กระสุนทำลายสมอง เสียชีวิตในเวลาต่อมาเป็นศพที่ 2
โจรกรุงสุดเหี้ยม ยิงดับ2สายตรวจ
นายสุทิน คงสัตย์ อายุ 58 ปี พยานที่เห็นเหตุการณ์ ให้การว่า
ช่วงเกิดเหตุนั่งดื่มเหล้าอยู่กับเพื่อน ได้ยินเสียงปืนดังติดต่อกัน 3 นัด จากนั้นเห็นวัยรุ่นชาย 2 คน สวม เสื้อดำทั้งคู่ขี่รถ จยย.แบบผู้หญิง ไม่ทราบสียี่ห้อและหมายเลขทะเบียน บึ่งผ่านไปอย่างรวดเร็ว มุ่งหน้าซอย รามอินทรา 5 ซึ่งเชื่อมทะลุออกได้หลายเส้นทาง เมื่อหันไปมองที่ถนนเห็นรถ จยย.ของตำรวจล้มอยู่ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจถูกกระสุนปืนหมดสติฟุบคร่อมรถ จยย. ส่วนคนซ้อนท้ายเลือดโชก มือขวากำปืนพก ร้องให้ช่วยนำส่ง รพ.ด้วย จึงรีบแจ้งตำรวจ
เบื้องต้นตำรวจประมวลเหตุการณ์แล้วทราบว่า
จ.ส.ต.สุริยันต์ และ จ.ส.ต.วิมล เข้าเวรปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่ เที่ยงคืน ต่อมาได้รับแจ้งจาก อปพร.ของ สน.บางเขนคนหนึ่งซึ่งขับรถแท็กซี่รับผู้โดยสารว่าพบเห็นวัยรุ่นต้องสงสัย 2 คน ท่าทางมีพิรุธ ขี่รถ จยย.แบบผู้หญิง คนขี่ สวมเสื้อแขนยาวสีดำ สวมหมวกกันน็อกดำ ส่วนคนซ้อนท้ายถือหมวกกันน็อกไว้ในมือซ้าย ไว้ผมซอยรากไทร
พยายามจะก่อเหตุชิงทรัพย์เหยื่อสาวรายหนึ่งที่ป้ายรถ เมล์หน้าห้างบิ๊กซี สะพานใหม่
แต่ยังไม่ทันลงมือ เหยื่อสาวที่หมายตาไว้ได้เรียกรถแท็กซี่ขึ้นไปเสียก่อน โดยวัยรุ่นต้องสงสัยทั้งสองคนนี้กำลังขี่รถ จยย.มุ่งหน้า สน. บางเขน เมื่อ จ.ส.ต.สุริยันต์และ จ.ส.ต.วิมลทราบเหตุได้ รีบดักสกัดจับ กระทั่งพบผู้ต้องสงสัยขี่รถ จยย.เข้าไปในซอยรามอินทรา 23 แยก 18 ซึ่งเป็นซอยตัน จึงจอดรถขวางถนนเพื่อรอเรียกตรวจค้น ปรากฏว่าเมื่อคนร้ายขี่รถย้อนกลับออกมา เห็นตำรวจได้ชักปืนลูกซองยิงใส่ 1 นัด แล้วบึ่งรถหนี กระสุนทะลวงเจ้าหน้าที่สายตรวจทั้งคู่ล้มฟุบ จ.ส.ต.วิมลยังมีสติชักปืนลูกโม่ .38 ยิงไล่หลังไป 2 นัด แต่กระสุนไม่ถูกคนร้าย กระทั่งผู้เห็นเหตุการณ์มาช่วยเหลือนำร่างส่ง รพ.
ต่อมาเวลา 10.00 น. นางพนิดา เวชกุล อายุ 36 ปี ภรรยา จ.ส.ต.วิมล
เดินทางไปที่สถาบันนิติเวชฯ ติดต่อรับศพสามี เพื่อนำไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน โดยเปิดเผยว่า แต่งงานอยู่กินกับสามีมา 15 ปี พักอยู่แฟลตส่วนกลาง ย่านรามอินทรา ไม่มีบุตรด้วยกัน
ถัดมานางวรรณา พุทธขันธ์ อายุ 32 ปี ภรรยา จ.ส.ต.สุริยันต์
ตั้งครรภ์ 8 เดือนเศษ จูงลูกชาย ด.ช.ทวิวัฒน์ หรือน้องไอซ์ อายุ 10 ขวบ นักเรียนชั้น ป.4 โรงเรียนเอี่ยมพานิชวิทยา เดินทางไปติดต่อขอรับศพสามี เพื่อนำไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดพระศรีฯเช่นกัน
โดยเปิดเผยทั้งน้ำตาว่า
อยู่กินกันมา 10 ปี มีลูกชาย 1 คน และอยู่ ในครรภ์กำหนดคลอดอาทิตย์หน้า ยังไม่ทราบเพศ อีก 1 คน เมื่อคืนก่อนที่สามีจะออกไปปฏิบัติหน้าที่ ตนได้ เอ่ยปากชวนไปทำสังฆทานในตอนเช้า เนื่องจากไม่สบายใจที่ไปตรวจครรภ์แล้วพบว่าลูกซึ่งใกล้กำหนดคลอดยังไม่กลับหัว แต่สามีพูดเหมือนเป็นลางสังหรณ์ว่าให้ผ่านคืนนี้ไปก่อนเถอะ ซึ่งทำให้ติดใจคำพูดนี้ของสามีจนนอน ไม่หลับ
กระทั่งตอนตี 3 ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายที่ท้ายแฟลต
แต่ก็ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุร้ายกับสามี จนมีเพื่อนตำรวจโทรศัพท์มาบอกว่า จ.ส.ต.สุริยันต์ประสบอุบัติเหตุรถคว่ำ ให้ทำใจดีๆไว้ สุดท้ายมาทราบว่าสามีถูกยิงเสียชีวิต ไม่มีโอกาสได้ทำสังฆทานร่วมกันตามที่ตั้งใจไว้ นอกจากนี้ ยังวางแผนว่าภายหลังคลอดลูกจะลาออกจากงานเจียระไนเพชร ในซอยวิภาวดี 60 ไปอยู่บ้านหลังใหม่ที่ ผ่อนไว้ที่หมู่บ้านพฤกษา ย่านลำลูกกา ปทุมธานี แต่ก็มาเกิดเหตุร้ายสูญเสียสามีอย่างไม่คาดฝัน ทำให้ตอนนี้ ยังคิดอะไรไม่ถูก
ทางด้านผลการผ่าชันสูตรศพ พ.ต.อ.นพ.สมชัย ตรีมธุรกุล แพทย์ผู้ผ่าพิสูจน์ระบุว่า
จ.ส.ต.สุริยันต์มีบาดแผลกระสุนเข้าหน้าผากทะลุด้านหลัง 1 แห่ง คมกระสุนทำลายเยื่อสมอง ส่วน จ.ส.ต.วิมลพบบาดแผลร่องรอยกระสุนเข้าทั้งหมด 5 แห่ง ทะลุ 4 แห่ง กระสุนทำลายตับ ตับอ่อน ลำไส้ เส้นเลือดใหญ่และช่องท้อง
สำหรับประวัติของ จ.ส.ต.สุริยันต์ พุทธขันธ์ เป็นชาว จ.อำนาจเจริญ
จบโรงเรียนตำรวจภูธร ภาค 7 รุ่น 45 ถือเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจที่มีผลงานยอดเยี่ยมของ สน.บางเขน มีผลการจับกุมประจำเดือนอยู่ในระดับแนวหน้าของโรงพัก นอกจากนี้ เมื่อปี 48 ยังได้รับรางวัลตำรวจดีเด่น หรือท็อปคอปพีเพิล จากผลงานการสกัดจับกุมคนร้ายลักทรัพย์ในซอยพหลโยธิน 47 ได้ทันควัน พร้อมของกลางรถ จยย. ที่หน้ามหาวิทยาลัยศรีปทุม เมื่อวันที่ 5 เม.ย.48 เวลา 04.00 น.
ส่วน จ.ส.ต.วิมลเป็นชาวอุบลราชธานี จบโรงเรียนตำรวจนครบาล รุ่น 67
เมื่อปี 48 ได้รับรางวัลตำรวจดีเด่นเช่นกัน โดยสกัดจับคนร้ายก่อเหตุชิงทรัพย์ได้พร้อมอาวุธปืน 9 มม. ที่ปากซอยพหลโยธิน 34 เหตุเกิดเมื่อ 7 ก.ค. 48 เวลาประมาณ 23.30 น.
ต่อมาเวลา 17.00 น. ที่ศาลา 4 วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน
พล.ต.ท.อดิศร นนทรีย์ ผบช.น. เป็นประธานพิธีรดน้ำศพเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจทั้ง 2 นายที่เสียชีวิต ท่ามกลางผู้บังคับบัญชาและเพื่อนร่วมงานประมาณ 500 คน หลังจากนั้นเปิดเผยว่าทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะมอบเงินช่วยเหลืออย่างเป็นทางการ ประกอบด้วยเงินฌาปนกิจศพ และเงินสวัสดิการของ บช.น. รวมแล้วศพละ 5 แสนกว่าบาท แต่ในเบื้องต้นได้จัดสรรเงินช่วยเหลือบางส่วนก่อน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน
นอกจากนี้ จะปูนบำเหน็จความดีความชอบให้ทั้งคู่
เพราะถือเป็นการเสียชีวิตระหว่างปฏิบัติหน้าที่ เป็นจำนวน 7 ขั้น 5 ชั้นยศ จาก จ.ส.ต. เป็น พ.ต.ต. ส่วนทายาทที่เป็นผู้ชายสามารถบรรจุเข้ารับราชการเป็นตำรวจได้ ในส่วนการติดตามตัวคนร้าย ทราบจาก พล.ต.ต. อำนวย นิ่มมะโน ผบก.น.2 ว่า พยานเห็นหน้าคนร้าย 1 คน ขณะนี้สามารถสเกตช์ภาพโฉมหน้าได้แล้วคือมือปืนที่นั่งซ้อนท้าย อายุประมาณ 18-20 ปี ไว้ผมแสกกลาง ซอยรากไทร คาดว่าภายใน 1-2 วันจะสามารถออกหมายจับได้ ในข้อหาฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ สำหรับศพเจ้าหน้าที่ตำรวจเหยื่อโจรกรุงทั้ง 2 นาย จะตั้งสวดไปถึงวันที่ 3 ก.ค.นี้ จากนั้นเวลา 14.00 น. จะมีพิธีฌาปนกิจ