เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 30 ก.ค. พ.ต.ต.ภาณุพงศ์ ภาวะบุตร สารวัตรเวร สภ.บางโทรัด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร รับแจ้งจากนายอภิชาต วงศ์รังรอง พนักงานเติมน้ำมันของสถานีบริการน้ำมันบางจาก (นาโคก) ตั้งอยู่เลขที่ 84/7 หมู่ที่ 2 ต.นาโคก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร กม.ที่ 52+800 ถ.พระราม 2 ว่า มีรถยนต์ยี่ห้อ มาสด้า ทริบิว สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน ษจ 8350 กรุงเทพมหานคร มาจอดอยู่ภายในปั๊มน้ำมัน 2 วันแล้ว
ที่เกิดเหตุพบรถคันดังกล่าวจอดอยู่ในลักษณะปกติ ประตูรถทั้งสี่ด้านสามารถเปิดออกได้ ภายในรถพบศพผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นผู้ชายอยู่ตรงที่นั่งคนขับ ลักษณะศีรษะพิงกับขอบประตู สวมเสื้อยืดสีขาว นุ่งกางเกงขาสั้นสีน้ำเงินดำ มีเลือดไหลทะลักออกมาทางปากและจมูก เนื้อตัวแดงเกรียม ทราบชื่อผู้ตายต่อมาคือ นายกรปภพ มณีผ่อง อายุประมาณ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 199/130 ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี
ส่วนอีกศพเป็นเด็กชายอายุประมาณ 5 ขวบ ศีรษะหันไปทางขอบประตูหนุนอยู่บนหมอน มีผ้าผืนเล็กคลุมที่หน้าผาก ปลายเท้าพาดกับตักของนายกรปภพ ทราบชื่อเด็กที่เสียชีวิตในเวลาต่อมาคือด.ช.พิพัฒน์ มณีผ่อง ตรวจสอบตามร่างกายไม่พบร่องรอยของการถูกทำร้ายแต่อย่างใด ขณะที่ในรถของผู้ตายพบที่รูกุญแจมีกุญแจรถเสียบคาอยู่ ส่วนทางด้านหลังของรถมีข้าวของวางอยู่เต็มลักษณะคล้ายกับการย้ายบ้านหรือนำไปเก็บไว้ที่อื่น และยังพบถุงยา 1 ถุง ภายในมียาแก้ไข้หวัด ระบุชื่อ ด.ช.พิพัฒน์ มณีผ่อง เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเพชรเกษม 2 อีกทั้งยังมีถุงยารักษาโรคหัวใจและความดันโลหิตสูง ระบุชื่อนายกรปภพ มณีผ่อง เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลหัวเฉียวฯ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
จากการโทรติดต่อกับทางญาติของผู้เสียชีวิตเบื้องต้นทราบว่า นายกรปภพพาหลานชายคือด.ช.พิพัฒน์ ออกจากบ้านเมื่อช่วงสายของวันที่ 28 ก.ค. เพื่อที่จะไปบ้านในจังหวัดเพชรบุรี ซึ่งทางครอบครัวก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะคาดว่าน่าจะถึงบ้านพักที่เพชรบุรีแล้ว แต่ก็รู้สึกสงสัยที่ไม่มีการติดต่อกลับมาเลย จนกระทั่งมาทราบว่าเสียชีวิต โดยญาติๆ ก็รีบเดินทางมาดูศพในที่เกิดเหตุ
ด้าน นายอภิชาต กล่าวว่า เห็นรถยนต์คันนี้เข้ามาจอดภายในปั๊ม 2-3 วันแล้ว โดยเมื่อเข้ามาก็จอดติดเครื่องยนต์อยู่คล้ายกับการจอดนอนพัก จึงไม่มีใครสนใจ ประกอบกับระยะนี้มีรถเข้ามาใช้บริการจำนวนมาก เพราะเป็นวันหยุดยาว จึงไม่ได้มีการสังเกตอะไรอีก กระทั่งเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ เห็นว่ารถยนต์คันดังกล่าวยังคงจอดอยู่เหมือนเดิมแต่เครื่องยนต์ดับลงไปแล้ว เมื่อไปชะโงกหน้าดูใกล้ๆ ผ่านทางกระจกหน้ารถก็เห็นว่า มีคนนอนอยู่ 2 คน ในลักษณะคอตกไปแล้วและคาดว่าน่าจะเสียชีวิต จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดภายในปั๊มน้ำมัน เห็นว่ารถยนต์คันดังกล่าวได้เข้ามาที่ปั๊มตอนเวลาประมาณ 12.10 น. ของวันที่ 28 ก.ค. โดยเมื่อมาถึงก็ได้จอดรถและไม่มีใครลงมา จึงคาดว่านายกรปภพน่าจะขับรถมาจอดนอนพักและติดเครื่องยนต์ไว้ โดยไม่มีการเปิดกระจก ทำให้นายกรปภพและด.ช.พิพัฒน์ ขาดอากาศหายใจจนเสียชีวิตในที่สุด หรือส่วนหนึ่งอาจจะมาจากโรคหัวใจกำเริบเฉียบพลัน ขณะที่กำลังนอนหลับก็เป็นไปได้ ส่วนรถยนต์ที่ติดเครื่องไว้ได้ดับไปเองเพราะน้ำมันหมด โดยจะได้ส่งศพให้สถาบันนิติเวชชันสูตรถึงสาเหตุของการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป