จากกรณี นายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ และประธานกลุ่มวิทยาตลาดทุน กิจการเพื่อสังคม(วตท.) รุ่นที่ 20 เสียชีวิต ขณะอยู่ในรถยนต์ยี่ห้อเลกซัส สีดำ ทะเบียน ภฉ 1889 กรุงเทพมหานคร ที่มี พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต สส.นครสวรรค์ และอดีตรมช.พาณิชย์
เป็นผู้ขับไปส่ง ต่อมาญาติได้เข้าร้องเรียนกับ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.ให้รื้อฟื้นคดีขึ้นมาใหม่ เนื่องจากยังติดใจการเสียชีวิตในหลายประเด็น ก่อนที่ต่อมาจะมาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อขอให้ตรวจสอบกรณีพบพิรุธที่นายชูวงษ์โอนหุ้นกว่า 300 ล้านบาทให้กับบุคคลอื่น
ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.ท.บรรยิน เดินทางเข้าพบ พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก.และ พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี ผบก.ป. เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม กรณีการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ โดยระบุว่า หลังจากคดีคลี่คลายแล้วจะเดินทางไปพูดคุยปรับความเข้าใจกับครอบครัวของนายชูวงษ์ และยืนยันไม่มีการทะเลาะกับครอบครัวของนายชูวงษ์
จากนั้นเวลา 16.45 น. หลังสอบปากคำนานกว่า 7ชม.พ.ต.ท.บรรยิน ได้ออกจากห้องสอบปากคำด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม พร้อมเปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนได้เชิญตนมาสอบปากคำในฐานะพยาน ส่วนจะสอบปากคำในประเด็นใดบ้างนั้น ไม่สามารถเปิดเผยได้เพราะอยู่ในสำนวนการสอบสวนของพนักงานสอบสวน ซึ่งตนได้ให้การในทุกเรื่องที่เจ้าหน้าที่ต้องการจะทราบ อย่างไรก็ดี ไม่ได้มีเอกสารหลักฐานใดๆ มามอบให้พนักงานสอบสวน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนหน้านี้เคยบอกว่า รู้เรื่องของ นายชูวงษ์ ทุกเรื่อง รวมทั้งรู้จัก น.ส.กัญฐณา ศิวาธนพล แคดดี้สาวและน.ส.อุรชา วชิรกุลฑล เจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด บริษัท หลักทรัพย์เออีซี จำกัด (มหาชน) สองสาวที่ได้รับโอนหุ้นจากนายชูวงษ์ ซึ่งทั้งคู่ยอมรับว่ามีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับนายชูวงษ์ ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร พ.ต.ท.บรรยิน กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่อยากจะพูดอะไร เป็นห่วงก็แต่ลูกและเมียเพื่อน แต่ตนจำเป็นที่ต้องปกป้องศักดิ์ศรี เพราะว่ามีคนวางแผนเรื่องนี้ ทนายความไม่เท่าไร แต่หลังทนาย ซึ่งเป็นถึงข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ให้ไปตรวจสอบดูแล้วกัน
“คนที่เดินตามผู้หญิงคนนี้ เป็นคนที่สังคมรู้ดีว่าเป็นใคร มีครอบครัวอยู่แล้วยังมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับคนที่มาร้องทุกข์ทั้งหลาย เขาก็คงวางแผนเพื่อจะใช้ตำรวจเป็นเครื่องมือในการจะอายัดหุ้นไว้ เพราะรู้ว่าหากรอให้แต่งตั้งผู้จัดการมรดก คงไม่เหลืออะไรแล้ว ผมเห็นใจตำรวจที่ต้องทำหน้าที่ในสิ่งที่ไม่ควรจะต้องมาทำ” พ.ต.ท.บรรยิน กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าคนที่มาเดินเรื่องเป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของทางครอบครัว มากกว่าต้องการจะทราบว่านายชูวงษ์ เสียชีวิตอย่างไรใช่หรือไม่ พ.ต.ท.บรรยิน กล่าวว่า ใช่ ผลประโยชน์นี้ไม่ได้ตกกับภรรยาและลูกนายชูวงษ์ แต่มันจะตกกับบริษัทของคนๆ หนึ่ง ตนเป็นห่วงว่าหลังจากนี้ภรรยาและลูกของเพื่อนจะสู้ไหวหรือไม่ เพราะต้องสู้เรื่องมรดกและการที่หญิงคนนั้นมีที่ปรึกษาเก่งขนาดนี้ ภรรยาและลูกของเพื่อนตนคงจะสู้ไม่ไหว ตนอยากเรียนตรงๆ ว่าไม่เคยรู้สึกโกรธเคืองภรรยาและลูกของนายชูวงษ์ เลย แต่ตนห่วงว่าหลังจากนี้คนที่เข้ามาในครอบครัวนายชูวงษ์ นานแล้วคนนี้ต่างหาก ไปถามคนในแวดวงสังคม หรือคนในบริษัทก็จะรู้เองว่าเป็นใคร
ขณะที่ พล.ต.ท.ประวุฒิ ว่า การซักถามวันนี้ไม่ได้เน้นประเด็นอะไรเป็นพิเศษ โดย พ.ต.ท.บรรยิน อ้างว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการโอนหุ้นต่างๆ ของนายชูวงษ์ รู้เพียงว่ามีการโอนหุ้นไปให้ใครบ้าง โดยทำหน้าที่เพียงแค่ให้คำปรึกษาเรื่องหุ้นเท่านั้น อย่างไรก็ตาม พ.ต.ท.บรรยิน ยอมรับว่า รู้จักกับ น.ส.อุรชา และ น.ส.กัญฐณา แต่ไม่ได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งตามที่เป็นข่าว
ด้าน พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ ว่า เบื้องต้นยังไม่ได้รับรายงานผลการตรวจจากกองพิสูจน์หลักฐานกลางถึงเรื่องที่สั่งให้ไปตรวจสอบเพิ่มเติม ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นอุบัติเหตุหรือการฆาตกรรม อย่างไรก็ตามจะมีการประชุมร่วมกับ กองปราบปราม และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยจะนำข้อมูลที่แต่ละหน่วยงานไปตรวจสอบมาประมวลเพื่อสรุปผลอีกครั้งภายในสัปดาห์หน้า
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
