มือปืนนั่งรวมอยู่กับผู้ชมอื่นๆ ในโรงภาพยนตร์ ก่อนก่อเหตุในช่วงเวลา 20.30 น. วันที่ 23 ก.ค. จังหวะที่หนังตลก Trainwreck (เทรนเร็ก) ฉายไปได้ 20 นาที ก็ลุกขึ้นกราดยิง 13 นัด กระสุนถูกผู้ชมที่นั่งข้างหน้า 2 ราย อายุ 21 และ 33 ปีเป็นผู้หญิงทั้งคู่เสียชีวิต และมีเหยื่ออีก 9 รายบาดเจ็บ จากนั้นพยายามจะหลบหนี แต่เมื่อเห็นตำรวจปิดล้อม จึงปลิดชีพยิงตัวตายในจุดเกิดเหตุ
เหตุเกิดในช่วงเวลาเดียวกับที่ประธานาธิบดีบารัก โอบามา ผู้นำสหรัฐอเมริกา เพิ่งให้สัมภาษณ์สำนักข่าวบีบีซีว่า รู้สึกแย่มากที่ไม่สามารถผลักดันให้ร่างควบคุมการครอบครองอาวุธปืนเป็นกฎหมายได้ ทั้งที่เกิดโศกนาฏกรรมสังหารหมู่ด้วยอาวุธปืนซ้ำแล้วซ้ำอีก เรื่องนี้เป็นเรื่องอึดอัดใจที่สุดตั้งแต่รับตำแหน่งผู้นำประเทศมา
การสอบสวนเบื้องต้น พบว่านายเฮาเซอร์มีประวัติอาชญากรรม รวมถึงลอบวางเพลิงและขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้ผู้เยาว์ เพิ่งเดินทางมาจากรัฐแอละแบมา มาพักที่โรงแรมขนาดเล็ก ตำรวจบุกพบแว่นตาและวิกผมหลายชุด คาดไว้ว่าสำหรับปลอมตัว
ทีมสอบสวนเชื่อว่า มีความเป็นไปได้ที่นายเฮาเซอร์ได้แรงกระตุ้นก่อเหตุมาจากคดีสังหารหมู่ในโรงภาพยนตร์ที่รัฐโคโลราโด เมื่อปี 2555 ขณะกำลังฉายหนังแบ๊ตแมนภาคใหม่ The Dark Knight Rises ที่มีเหยื่อเสียชีวิต 12 ราย บาดเจ็บ 70 ราย มืปืนในคดีนี้ชื่อนายเจมส์ โฮล์มส์ วัย 27 ปี ฉายามือยิงโจ๊กเกอร์ จากการแต่งตัวเลียนแบบตัวละครวายร้ายในหนังแบ๊ตแมน ถูกจับดำเนินคดี โดยเมื่อ 6 วันก่อน เพิ่มถูกตัดสินว่ามีความผิดในข้อหาจงใจฆาตกรรมและพยายามฆ่า รวม 165 กระทง
นายบ็อบบี้ จินดอล ผู้ว่าการรัฐหลุยเซียนา กล่าวว่าทุกครั้งที่ได้ยินข่าวความรุนแรง ทำให้โกรธและเศร้าในเวลาเดียวกัน เหตุการณ์นี้เลวร้ายที่สุดสำหรับเมืองลาฟาเยตต์ หลุยเซียนา และประเทศ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งสอบสวนหาสาเหตุ รวมถึงแรงจูงใจในการก่อเหตุของคนร้าย