รับน้อง จันเกษม เขม่นกันเองยกพวกตลุมบอนดับ1เจ็บ1

หลังเลิกเรียนมานั่งดวดเหล้าหลังมหาวิทยาลัย ยกพวกตลุมบอนสุดท้ายรุ่นพี่ชักมีดแทงรุ่นน้องคณะวิทย์ปี 2 ดับ 1 ราย เจ็บอีก 1 ราย ตร.รวบสองมืดมีดทันควัน

เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 27 มิถุนายน

พ.ต.ท.แบ็งค์ บัวนวล พนักงานสอบสวน (สบ.2) สน.พหลโยธิน รับแจ้งมีเหตุทะเลาะวิวาทมีผู้ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณด้านหลังมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม.จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ท.สุรจิตร เปลี่ยนประเสริฐ สว.สส.สน.พหลโยธิน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน

และอาวุธมีดเดินป่ายาว 5 นิ้วตกหล่นอยู่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้บาดเจ็บทราบว่ามีจำนวน 2 รายโดยรายแรกถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเปาโลสยาม ทราบชื่อต่อมาคือ นายศิวณัฐ คัญชิง อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม มีบาดแผลถูกแทงเข้าที่ลิ้นปี่ตัดขั้วหัวใจจำนวน 1 แผล แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตขณะนำตัวส่งโรงพยาบาล

ส่วนอีกรายถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลราชวิถี ทราบชื่อคือ นายชาตรี จงสวัสดิ์ อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะเดียวกันกับผู้ตาย มีบาดแผลถูกฟันเข้าที่กลางหลังจำนวน 2 แผล แพทย์ช่วยเหลือจนอาการปลอดภัยแล้ว

คือนายชนาวุธ นาศร อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23/2 หมู่ 1 ต.ท่าพญา อ.ปะเหลียน จ.ตรัง นักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์ เอกการผลิต ชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม และนายชัชนันท์ นาศร อายุ 23 ปี น้องชายนายชนาวุธ และเป็นนักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์ เอกการผลิต ชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม ก่อนควบคุมตัวมาสอบปากคำที่ สน.พหลโยธิน

สอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองคนโดยนายชัชนันท์ ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนลงมือแทงนายศิวณัฐ จนเสียชีวิต ซึ่งก่อนเกิดเหตุที่คณะมีการรับน้องตั้งแต่ช่วงเที่ยงจนถึงช่วงเย็น จากนั้นตนกับเพื่อนก็มานั่งดื่มเหล้ากับเพื่อนที่ร้านด้านหลังมหาวิทยาลัย จนกระทั่งเลิกดื่มก็แยกย้ายกันกลับ โดยตนกำลังจะกลับเข้าหอพัก เมื่อเดินออกมาหน้าร้านก็พบกลุ่มผู้ตายซึ่งเป็นอริกัน เนื่องจากเคยเขม่นกันมาตั้งแต่ช่วงรับน้องปีที่แล้ว จากนั้นกลุ่มผู้ตายก็เข้ามาหาเรื่องจนเกิดทะเละวิวาทตะลุมบอนกัน แต่เนื่องจากกลุ่มผู้ตายมีมากกว่า ตนจึงชักมีดขึ้นมาแทงเข้าที่ลิ้นปี่ของนายศิวณัฐ ส่วนนายชนาวุธ พี่ชายตนใช้มีดฟันนายชาตรี ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายถึงชีวิต ก่อนควบคุมตัวทั้งสองคนไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก