แถลงการณ์ 5 สมาคมสื่อ ต่อสถานการณ์การคุกคามสื่อในปัจจุบัน

วันพุธ ที่ 5 เมษายน ปี 2549
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

5 องค์กรวิชาชีพสื่อ ประกอบด้วย 1.สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย 2.สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ 3.สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย 4.สมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ และ5.เครือข่ายนักวิชาการด้านสื่อสารมวลชน ได้ประชุมกำหนดท่าทีต่อสถานการณ์การคุกคามสื่อในปัจจุบัน

โดยนายภัทระ คำพิทักษ์ นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย แถลงว่าทั้ง 5 สมาคมและเครือข่ายวิชาการได้ข้อสรุปร่วมกันว่าขณะนี้สื่อกำลังถูกคุกคามอย่างโจ่งแจ้งทำให้กระทบต่อผู้ปฏิบัติหน้าที่สื่อสารมวลชน ทางองค์กรวิชาชีพจึงเห็นร่วมกันที่จะดำเนินการ 10 ประการ ดังนี้

1.ขอประกาศจุดยืนการทำหน้าที่ของผู้ประกอบวิชาชีพสื่อว่าเป็นอาชีพอิสระ แต่สภาพการณ์ในปัจจุบันมีฝ่ายไม่ประสงค์ดีต่อบ้านเมืองกระทำการบีบบังคับให้สื่อสังกัดต่าง ๆ เลือกข้าง ซึ่งจุดยืนของสื่อมวลชนในภาวะวิกฤตจะต้องยืนข้างความถูกต้อง และนำเสนอข่าวอย่างรอบด้านเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลไปประกอบการตัดสินใจมากที่สุด แต่กรณีที่เกิดการคุกคามด้วยการปิดล้อมอาคารสำนักงานหนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก ถือเป็นการลดทอนและปิดกั้นเสรีภถาพการทำหน้าที่ของสื่อ ทาง 4 องค์กรวิชีพเห็นร่วมกันว่าสื่อจะปฏิบัติหน้าที่โดยยึดประโยชน์ประชาชนเป็นหลักไม่อาจเลือกข้างทางการเมืองได้ แต่จะยืนข้างความถูกต้อง

2.จะเขียนจดหมายเปิดผนึกเพื่อสื่อสารกับสาธารณะต่อสถานการณ์การคุกคามสื่อในปัจจุบันและจะนัดชุมนุมใหญ่ของสื่อมวลชนทุกแขนงเพื่อแสดงพลังในวันที่ 5 เมษายน เวลา 13.00 น.ที่สมาคมนักข่าวฯ ถนนสามเสนตรงข้ามโรงพยาบาลวชิระ

3.จะจัดทีมชี้แจงต่อสาธารณะในกรณีเกิดเหตุการณ์คุกคาม ประกอบด้วย นายกฯสมาคมแต่ละองค์กรและตัวแทนองค์กรๆ ละ 2 คน รวมทั้งหมดประมาณ 10 คน โดยจะทำหน้าที่ชี้แจงทำความเข้าใจกรณีเกิดการบิดเบือนหรือฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดมีทัศนคติคับแคบต่อการปฏิบัติหน้าที่ของสื่อ เช่น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กล่าวหาว่าสื่อคุกคามตัวเองมาหลายปี นี่คือความคิดการปฏิเสธการตรวจสอบ แต่พยายามบิดเบือนความจริงให้เกิดการเข้าใจผิดต่อคนในสังคม

4.จัดทำรายงานสภาพการณ์การคุกคามสื่อในประเทศไทยและสื่อสารไปยังองค์กรสมาชิก 70 ประเทศทั่วโลก

5.นัดประชุมบรรณาธิการทั้งจากหนังสือพิมพ์ วิทยุ และโทรทัศน์ เพื่อขอความร่วมมือในการเคลื่อนไหวต่อสู้ให้เป็นเอกภาพ

6.จะใช้ศูนย์ข่าวอิศรา ของสมาคมนักข่าวฯ ทำหน้าที่เป็นศุนย์กลางแลกเปลี่ยรนข้อมูลข่าวสารระหว่างสมาคมต่างๆ ในวิชาชีพเพื่อช่วยกันสื่อสารความจริงไปยังประชาชนให้รับรู้ข่าวสารอย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น รวมทั้งจะช่วยกันเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นหลักฐาน เช่น ภาพถ่ายผู้บงการ เป็นต้น

7.จัดทำสติกเกอร์ต่อต้านการคุกคามสื่อเพื่อนำไปติดไมโครโฟน ขณะสัมภาษณ์ ติดเทปบันทึกเสียง หรือขอความร่วมมือตีพิมพ์ในหน้าหนังสือพิมพ์แต่ละฉบับทุกวัน จัดทำเสื้อยืดรณรงค์ คุกคามสื่อคุกคามประชาชน เพื่อเป็นสัญญลักษณ์ในการรวมพลัง

8.จัดสัมมนารูปแบบการคุกคามในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาของรัฐบาลทักษิณ ซึ่งขณะนี้เห็นว่าได้กลายพันธุ์รุนแรงมากขึ้นเป็นการคุกคามซึ่งหน้าให้กำลังความรุนแรง รวมทั้งผู้นำรัฐบาลยังท้าทายและให้ท้ายให้มีการใช้ความรุนแรงด้วย

9.จะร่วมมือกันทำข่าวเปิดโปงความไม่ชอบมาพาพากลของกลุ่มเคลื่อนไหวต่าง ๆหรือถึงขั้นปฏิเสธหรือบอยคอตการนำเสนอข่าวบุคคลบางกลุ่มที่ไม่มีเจตนาดีต่อบ้านเมือง

10.ประสานความร่วมมือกับเครือข่าววิชาการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ศาล อัยการ สภาทนายความ ฯลฯ เพื่อให้องค์กรเหล่านี้ให้ความช่วยเหลือในกรณีเกิดเหตุการณ์ขึ้น ยิ่งในกรณีที่เกิดเหตุในต่างจังหวัด

น.ส.วิมล ตัน นายกสมาคมผุ้สื่อข่าวเศรษฐกิจ กล่าวว่าการนัดชุมนุมในวันที่ 5 เมษายนก็เพื่อส่งสัญญาณให้สังคมได้รับรู้ถึงการคุกคามสื่อที่มีความรุนแรง จึงขอเชิญสื่อทุกแขนงไม่ว่านักข่าววิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ และช่างภาพเข้าร่วมในวันดังกล่าวเพื่อใส่เสื่อรณรงค์ร่วมกัน

นางสุวรรณา อุยานนท์ กรรมการบริหารสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย กล่าวว่านักข่าวโทรทัศน์จะเสี่ยงอันตรายเพราะมีทีมงานหลายคน โดยเฉพาะช่วงการเลือกตั้ง ในบางพื้นที่ล่อแหลมต่อการถูกคุกคา เนื่องจากในจังหวัดเชียงใหม่มีกนักข่างวทั้งผู้จัดการและเนชั่นถูกทำร้ายร่างกาย จึงได้ประสานกับนักวิชาการมหาวิทยาลัยเที่ยงคืนและสำนักข่าวประชาธรรมในการประสานความร่วมมือและเฝ้าระวังและช่วยเหลือสื่อหากมีการคุกคามด้วย

นายสุรัตน์ เมธีกุล ประธานสภาสถาบัน นักวิชาการ สื่อสารมวลชน แห่งประเทศไทย(ส.ส.ม.ท.) กล่าวว่า การร่วมมือกัน จะทำให้มีการสื่อสารกันได้เร็วมากขึ้น ทางเครือข่ายวิชาการ จะไปรณรงค์ ให้เกิด Friends of Press ขึ้น