ตร.โอ่คดี‘สมยศ’คืบ จ่อเรียกสอบ2คนสนิท
เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บช.น. เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีมือปืนจ่อยิง นายสมยศ สุธางค์กูร อายุ 62 ปี อดีตเจ้าของพระราม 9 คาเฟ่ เสียชีวิต เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน ที่บริเวณร้านเฮงหูฉลามว่า ขณะนี้การสืบสวนมีความคืบหน้าไปมาก โดยอยู่ระหว่างการทยอยเรียกผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาสอบปากคำ รวมถึงจะมีการเรียกตัว นางรัศมี สุธางค์กูร ภรรยานายสมยศ เข้ามาเพื่อสอบปากคำเพิ่มเติมด้วยเช่นกัน ส่วนที่มีรายงานว่า ในไดอารี่ของนายสมยศ มีชื่อของ นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม อดีตนายก อบจ.สมุทรปราการ เป็นผู้ว่าจ้างให้นายสมยศ ช่วยเหลือคดีที่ถูกกล่าวหาว่ามีการทุจริตการเลือกตั้งเมื่อปี 2542 เป็นเงิน 5 ล้านบาท นั้น จากการตรวจสอบของฝ่ายสืบสวนไม่พบว่ามีชื่อของนายชนม์สวัสดิ์ ตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด และไม่ได้มีการเรียกตัวนายชนม์สวัสดิ์ มาสอบปากคำ
ด้าน พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช รอง ผบช.น.กล่าวว่า คดีนี้มีความคืบหน้าไปมาก มีการตรวจสอบความเชื่อมโยงของกลุ่มคนร้ายที่เริ่มชัดเจนมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเบาะแสจักรยานยนต์ของคนร้าย ที่มีความสัมพันธ์กับบุคคลอื่น ส่วนกรณี เสธ.ณุ หรือ พ.อ.ภาณุ จันทร์ศรี นายทหารนอกราชการ ที่เป็นตัวแทนเจรจาทวงหนี้นั้น ได้เรียกมาสอบแล้วหนึ่งครั้งก็ให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี โดยความสัมพันธ์ของ เสธ.ณุ กับนายสมยศ เป็นลักษณะของการแนะนำกันมาจากบุคคลอีกคนหนึ่ง สำหรับประเด็นของการรับเคลียร์คดีมีมากกว่า 10 เรื่อง และได้หาความเชื่อมโยงกันของแต่ละเรื่องซึ่งจะมีการสรุปความเกี่ยวข้องในวันที่ 10 กรกฎาคมนี้ อีกครั้ง
ด้าน พล.ต.อ.เรืองศักดิ์ จริตเอก รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากชุดคลี่คลายคดีว่านายสมยศ รับว่าความให้กับนายชนม์สวัสดิ์ ส่วนจะมีการเรียกนายชนม์สวัสดิ์ มาให้ปากคำหรือไม่นั้น ตนได้กำชับพนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ว่าหากมีความจำเป็นก็ให้ดำเนินการให้เสร็จสิ้น
รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า สำหรับ แนวทางการสืบสวนยังคงให้น้ำหนักในแต่ละประเด็นเท่าๆ กัน คือ เรื่องหนี้สินการเล่นพนันกับกลุ่มของ นางศุภนิดา หรือก้อย นรรัตน์ อายุ 48 ปี คนสนิทของนายสมยศ และนายสมชัย นิตยา หรือเล็ก ชุมพร อายุ 51 ปี สามีของนางศุภนิดา ข้อพิพาทฟ้องร้องเรื่องที่ดินย่านพระราม 9 เรื่องอ้างวิ่งเต้นช่วยเหลือคดียาเสพติด ความขัดแย้งกันในครอบครัว และปมธุรกิจ สำหรับการรับเคลียร์คดีสำคัญต่างๆ ได้ประสานให้ทางกองปราบปรามทำการเรียงลำดับความสำคัญของคดีที่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้มีการจ้างวานฆ่าดังกล่าว
พล.ต.อ.เรืองศักดิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนการติดตามจับกุมคนร้ายที่ลงมือยิงนายสมยศ และหลบหนีมาจนถึงบริเวณถนนเสรีไทย11 จากนั้นมีรถเก๋งมารับไปหลังเกิดเหตุ ถามว่าเป็นรถคันสีขาวหรือไม่ ตนไม่ยืนยัน เนื่องจากหากมีการจับกุมคนร้ายได้ แล้วพบว่ารถที่พาหลบหนีไม่ใช่สีขาวอาจเป็นเหตุให้คนร้ายนำไปแก้ต่างในชั้นศาลได้ สำหรับการติดตาม รถจักรยานยนต์ของคนร้ายที่ใช้ในการก่อเหตุ มีรายงานแจ้งว่าน่าจะนำไปซุกซ่อนไว้บริเวณสนามราชมังคลากีฬาสถาน แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม.เบื้องต้นได้สั่งการให้ บก.สส.บก.น.5 นำกำลังไปตรวจสอบแล้ว หากเจอให้ตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน และประสานทั้ง 88 สน.ทั่วนครบาล เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนีของคนร้ายให้ได้ พร้อมได้กำชับให้ชุดคลี่คลายคดีเร่งสืบสวนสอบสวนให้สิ้นกระแสความ และให้แต่ละหน่วยงานประสานข้อมูลกัน อย่างรอบด้านและรายงานความคืบหน้ามาที่ตนทุก 24ชม.
รายงานข่าวจากชุดคลี่คลายคดี เปิดเผยว่า ได้เตรียมเชิญตัวคนสนิทของนายสมยศมาสอบปากคำอีก 2ราย คือ “จ่ามวล” ทหารนอกราชการ คนสนิทนายสมยศ ซึ่งเป็นคนโทรศัพท์ไปหานางศุภนิดา ในวันเกิดเหตุว่านายเสียแล้ว รวมถึงนายณรงค์ ซึ่งเป็นคนที่นายสมยศไว้วางใจเล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟัง รวมถึงเรื่องการฟ้องร้องนายสมชัย, นางมุกรินทร์ หรือ เรียม นิตยา น้องสาวนายสมชัย และนายปริญญา หรือปีเตอร์ ปิยะภาค ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงและยักยอกทรัพย์ ในความผิดต่างกรรมต่างวาระกับตำรวจ 6 สน.และเป็นคนติดต่อ เสธ.ณุ รู้จักกับนายสมยศ ซึ่งต่อมานายสมยศได้วางใจให้เป็นตัวแทนเจรจาทวงหนี้ 25ล้านบาท จากกลุ่มของนายสมชัย หรือเล็ก