กะซวกคอแท็กซี่ ดับสยองคาเบาะ สงสัยรปภ.ฆาตกร

พ.ต.ต.มนต์ชัย ไชยพงษ์ พงส. (สบ2) สน.ร่มเกล้า รับแจ้งเหตุพบศพโชเฟอร์แท็กซี่ถูกฆ่า ภายในซอยอิเล็คทรอนิค ชุมชนหลังคาแดง ถนนเคหะร่มเกล้า แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กทม. จึงพร้อมด้วยแพทย์จากโรงพยาบาลตำรวจ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานและอาสาสมัครมูลนิธิร่มไทร รุดไปตรวจสอบ

จุดเกิดเหตุอยู่ห่างจากปากซอยประมาณ 50 เมตร

เจ้าหน้าที่ตำรวจพบรถแท็กซี่โตโยต้า ลิโม สีส้ม ทะเบียน ทย 2049 กรุงเทพมหานคร ของบริษัทสหกรณ์บวรแท็กซี่ จำกัด จอดติดเครื่องอยู่กลางถนน ในลักษณะหัวรถหัน ออกทางปากซอย

ภายในรถพบศพนายอัมไพรวรรณ แสนธรศิลป์

อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1 หมู่ 9 ต.บึงแก อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร อยู่บนเบาะที่นั่งคนขับซึ่งถูกปรับเอนนอนไปทางเบาะหลัง เบื้องต้นพบบาดแผลถูกแทงเข้าที่บริเวณใต้คาง เป็นแผลฉกรรจ์ 2 แผล เลือดทะลักออกปาก ออกจมูก กระเป๋าสตางค์ของผู้ตายยังอยู่ในกระเป๋าเสื้อด้านซ้าย

บนเบาะด้านหลังพบกุญแจมือตกอยู่ 1 คู่

กระบองเหล็กแบบยืดได้ยาวฟุตเศษ 1 ท่อน บนพื้นวางเท้าพบด้ามมีดเปื้อนเลือด 1 อัน พร้อมเชือกไนลอนสีเขียวยาว 3 ฟุต 1 เส้น ภายในรถมีร่องรอยการต่อสู้ เลือดเปรอะเต็มไปหมด นอกจากนั้นยังพบกระเป๋าสะพายสีขาว ภายในมีเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีฟ้าคล้ายเสื้อของ รปภ. และเสื้อยืดคอกลมลายดำขาว ตกอยู่บนพื้นที่นั่งข้างคนขับ จึงเก็บรวบรวมทั้งหมดส่งไปตรวจพิสูจน์

ขณะเตรียมของไปขาย เห็นรถแท็กซี่ขับออกมาจากชุมชน หลังคาแดง จากนั้นผู้ตายเปิดประตูลงมาในสภาพเสื้อผ้าเต็มไปด้วยเลือด ทำท่าโบกมือเหมือนขอความช่วยเหลือแต่ไม่ได้ยินเสียง สักพักผู้ตายก็กลับเข้าไปในรถแล้วเงียบหายไป เมื่อออกไปดูก็พบเป็นศพนอนอยู่บนเบาะจึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจ

ต่อมาในตอนสายวันเดียวกัน

พ.ต.อ.เสนาะ อ่อนศรี รอง ผบก.น.3 เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.นิมิตร จาละ รอง ผกก.สส.สน.ร่มเกล้า พร้อมด้วย พ.ต.ต.มนต์ชัย ไชยพงษ์ พงส.(สบ2) เจ้าของคดี นำรถแท็กซี่พร้อมด้วยกุญแจมือ กระบอง ส่งกองพิสูจน์หลักฐานเพื่อตรวจหาลายนิ้วมือ และเรียกญาติของนายอัมไพรวรรณ ผู้ตาย มาสอบสวนว่าเคยมีเรื่องโกรธเคืองกับผู้ใดหรือไม่

น้องชายผู้ตายทราบเพียงว่า ก่อนหน้าเกิดเหตุนายอัมไพรวรรณไปรับรถแท็กซี่ที่อู่ย่านฉลองกรุงเพื่อไปรับนักท่องเที่ยวเดินทางไป อ.ชะอำ เวลา 10.00 น. วันนี้ทั้งวันจึงไม่เจอกัน แต่มั่นใจว่าพี่ชายไม่เคยมีเรื่องโกรธเคืองกับใคร

พ.ต.อ.เสนาะกล่าวต่อว่า

จากการตรวจสอบพบทรัพย์สินของผู้ตายในกระเป๋าเงิน มีเงินสดอยู่ 1,500 บาท สอบถามพยานแวดล้อมในชุมชนในคืนที่เกิดเหตุพบว่า มีพยานเห็นคนร้ายชกต่อยกับคนขับแท็กซี่ด้านหลังรถแต่สู้ไม่ได้จึงใช้อาวุธมีดแทงเข้าที่คอก่อนวิ่งหลบหนีไป ส่วนผู้ตายคงจะวิ่งขึ้นรถเพื่อไปโรงพยาบาลแต่ทนไม่ไหว

ขณะนี้ได้ให้ฝ่ายสืบสวนนำเสื้อ รปภ.ไปตรวจสอบว่าเป็นของบริษัทใด คนร้ายรายนี้น่าจะเป็นคนในชุมชนละแวกใกล้เคียงที่เกิดเหตุ อาจจะเป็นเรื่องพยายามชิงทรัพย์ แต่ผู้ตายฮึดสู้คนร้ายเลยเอาทรัพย์สินไปไม่ได้หรืออาจเป็นเหตุทะเลาะวิวาทก็ได้

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ