เณรทุบหัวเจ้าอาวาสแตก ฉุนห้ามเล่นเฟซบุ๊ก-ไลน์

สามเณรบุกขึ้นกุฏิเจ้าอาวาส คว้าค้อนทุบหัวแตกเย็บ 20 เข็ม ไม่สบอารมณ์ตักเตือนไม่สนใจกิจของสงฆ์เอาแต่เล่นไลน์-เฟซบุ๊กหามรุ่งหามค่ำ ผูกใจเจ็บย้ายไปวัดอื่นก่อนย้อนรอยมาแก้แค้น

จากกรณีคนร้ายวัยรุ่น บุกเข้าไปในกุฏิวัดวังสำโรง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ใช้ค้อนทุบ และทำร้ายร่างกายพระครูพิศาลธรรมรังสี อายุ 59 ปี เจ้าอาวาส

 จนได้รับบาดเจ็บสาหัส หัวแตกเลือดไหลอาบเปรอะเปื้อนจีวร เนื้อตัวฟกช้ำหลายแห่ง ภายหลังลูกศิษย์ช่วยเหลือนำตัวส่ง รพ.พุทธชินราช เหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 ก.ค. ที่ผ่านมา ตามที่ปรากฏเป็นข่าวมาแล้วนั้น ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 5 ก.ค. ที่วัดวังสำโรง หมู่ที่ 8 ต.วังพิกุล อ.วังทอง จ.พิษณุโลก นายยาม ทองเชื้อ อายุ 60 ปี ผู้ใหญ่บ้านได้ไปรับพระครูพิศาลธรรมรังสี ออกจาก รพ.กลับมาจำวัดตามปกติ หลังจากแพทย์รักษาเย็บบาดแผลที่ศีรษะกว่า 20 เข็ม ส่วนผลเอกซเรย์สมองที่ถูกของแข็งทุบตีไม่มีผลกระทบกระเทือนทางสมองแต่อย่างใด โดยพระครูพิศาลธรรม เปิดเผยว่า คืนเกิดเหตุอยู่ด้านหน้ากุฏิกำลังเดินปิดไฟก่อนเข้าจำวัด จู่ ๆ มีคนร้ายบุกขึ้นมาใช้ค้อนทุบตีอย่างบ้าคลั่งจนน่วมไปทั้งตัว สุดท้ายจึงพยายามกัดฟันต่อสู้

 กระทั่งค้อนของคนร้ายหลุดจากมือ ก่อนคนร้ายจะรีบวิ่งหนีหายไปในความมืด

อย่างไรก็อาตมาสามารถจำใบหน้าคนร้ายได้อย่างแม่นยำนั่นก็คือ นายเอ (นามสมุติ) อายุ 18 ปี อดีตสามเณรที่เคยมาบวชอยู่ที่วัดนี่เอง สำหรับพฤติการณ์กล่าวคือช่วงเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา สามเณรดังกล่าวมีโอกาสมาบวชเรียนที่วัดวังสำโรงเป็นเวลา 15 วัน แต่ระหว่างบวชกลับไม่มีใจฝักใฝ่ศึกษา นำเอาจานดาวเทียมทีวี คอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์มือมาต่ออินเทอร์เน็ตเล่นโปรแกรมเฟซบุ๊ก และโปรแกรมแชตไลน์จนหามรุ่งหามค่ำ ไม่ยอมลุกบิณฑบาตในตอนเช้า ซึ่งเป็นกิจของพระ และเณรที่พึงกระทำ ด้วยความเป็นห่วงและปรารถนาดี อามตมาจึงเอ่ยปากตักเตือนไปบ่อยครั้ง ซึ่งเณรเอไม่ได้โต้เถียงแต่อย่างใด แต่มีอาการไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด สุดท้ายเณรเอขอไปอยู่ที่วัดอื่น ก่อนจะย้อนกลับมาลงมือทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัสดังกล่าว

ทั้งนี้หลังเกิดเหตุก็ไม่ทราบว่าเณรเอไปอยู่ซ่อนตัวที่วัดใด แต่อาตมาคงต้องให้ลูกศิษย์มานอนที่วัด เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยไปก่อน

 ป้องกันเณรเอย้อนรอยมาก่อเหตุอีก ด้านคดี ร.ต.ท.กิตติณัฏฐ์ บุญแท้ ร้อยเวร สภ.วังทอง เจ้าของคดี กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้เรียกผู้ใดมาสอบปากคำเพิ่มเติม แต่ได้ติดต่อผ่านลูกศิษย์ของพระครูพิศาลธรรมรังสี เจ้าอาวาสวัดวังสำโรง ผู้เสียหายเพื่อเข้ามาให้ปากคำสอบสวนในคดี แต่ช่วงนี้ต้องให้พระครูพิศาลธรรมรังสีรักษาตัวให้หายจากอาการบาดเจ็บเสียก่อน ซึ่งจะได้ออกหมายเรียกติดตามเณรเอมาสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.