สลดกลางกรุง-ลูกคลั่งบีบคอฆ่าแม่แท้ๆ ตร.สอบ มีอาการ ประสาท จู่ๆลงมือ

เหตุสลดกลางกรุง ลูกชายวัย 50 ปี มีอาการทางประสาทคลุ้มคลั่งกระทืบแม่วัย 77 ปี แล้วบีบคอซ้ำจนเสียชีวิตคาบ้านพัก

เพื่อนบ้านเห็นเหตุการณ์ ตะโกนให้คนมาช่วยเหลือแต่ไม่ทันการณ์ น้องสาวรุดมาที่เกิดเหตุ ระบุพี่ชายป่วยมานาน ต้องรักษาตัวที่ร.พ.สมเด็จเจ้าพระยา พักอยู่กับแม่ 2 คน พ่อเพิ่งเสียชีวิต ก่อนเกิดเหตุมีอาการเดินเกร็ง แม่ถามกินยาหรือยัง บอกว่ากินแล้ว จู่ๆ ก็ก่อเหตุ

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 1 ก.ค. พ.ต.ท.หญิง ชุติมา ยิ่งสังข์ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการ สน.ทุ่งครุ

 รับแจ้งเหตุลูกทำร้ายร่างกายแม่ถึงแก่ความตาย เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 69 ซอยประชาอุทิศ 54 แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กทม. หลังรับแจ้งจึงรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พล.ต.ต.ฤชากร จรเจวุฒิ ผบก.น.8 พ.ต.อ. ชูศักดิ์ เตชะรักษ์พงษ์ รองผบก.น.8 พ.ต.อ. อนุวัตร สุวรรณภูมิ ผกก.สน.ทุ่งครุ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และแพทย์เวร ร.พ.ศิริราช ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยวสูง 2 ชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ ติดริมคลองราชพฤกษ์ ตรวจสอบภายในห้องโถงชั้นล่างพบศพนางตลับ ม่วงเผือก อายุ 77 ปี เจ้าของบ้าน สภาพศพมีร่องรอยฟกช้ำบนใบหน้าและลำคอ และพบนายมานพ  อายุ 50 ปี เป็นลูกของผู้ตาย นั่งเหม่อลอย ตาขวาง เป็นผู้ทำร้ายร่างกายแม่บังเกิดเกล้า เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวส่ง สน. ทุ่งครุ พร้อมส่งศพไปที่ร.พ.ศิริราช


จากการสอบสวนนางอุไร  อายุ 52 ปี เพื่อนบ้านให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงคนร้องตะโกนโวยวายจากบ้านหลังดังกล่าว จึงรีบไปดูพบนายมานพกำลังทำร้ายร่างกายแม่ โดยกระทืบอยู่หลายครั้งก่อนใช้มือบีบคอจนหมดสติไป จึงตะโกน ให้ชาวบ้านละแวกใกล้เคียงเข้าช่วยเหลือ แต่ก็ไม่ทัน ก่อนโทรศัพท์แจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบ


ต่อมานางสำเนียง  อายุ 46 ปี ลูกสาวคนที่ 5 ของผู้ตาย เดินทางมาที่เกิดเหตุ และให้การว่าแม่มีลูก 10 คน นายมานพเป็นลูกคนที่ 3 แม่รักนายมานพมาก

เพราะมีอาการทางประสาท เข้ารักษาตัวที่ ร.พ.สมเด็จ เจ้าพระยา มาเป็นเวลานาน และพักอาศัยอยู่กับแม่กัน 2 คน พ่อเพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อปีก่อน ก่อนหน้านี้พี่ชายมีอาการป่วย และเพิ่งออกมาจาก ร.พ.สมเด็จเจ้าพระยา ได้ 2 วัน เพื่อนบ้านเล่าให้ฟังว่าพี่ชายมีอาการเดินเกร็ง แม่จึงถามว่ากินยาหรือยัง ก่อนบอกว่ากินแล้ว และก่อเหตุสลดฆ่าแม่ตัวเอง


พล.ต.ต.ฤชากรกล่าวว่าจากการพูดคุยทางผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าทำไปเพราะอาการเครียด จากอาการทางประสาท รับรู้เรื่องทุกอย่าง

 แต่ระงับอารมณ์ไว้ไม่ได้ เนื่องจากไม่ได้กินยาเป็นเวลานาน ส่วนตัวแล้วผู้ต้องหารักแม่มาก แล้วยังฝากขอโทษกับสิ่งที่ทำไปอีกด้วย ทางพนักงานสอบสวนจะนำตัวนายมานพไปตรวจร่างกาย พร้อมทั้งตรวจสอบประวัติการรักษาตัว หากผู้ต้องหามีอาการทางประสาทจริง ต้องให้แพทย์รักษาอย่างใกล้ชิดต่อไป