เผยเบื้องหลังที่มา-ที่ไป “ปืนในกระเป๋าบิ๊กแจ๊ด” ก่อนถูกรวบคาสนามบินญี่ปุ่น
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอาชญากรรม เผยเบื้องหลังที่มา-ที่ไป “ปืนในกระเป๋าบิ๊กแจ๊ด” ก่อนถูกรวบคาสนามบินญี่ปุ่น
ทว่าขัดแย้งกับหลักฐานของ ทอท. สุวรรณภูมิที่ยืนยันว่าตรวจไม่เจอปืนขาออก
ความคืบหน้ากรณี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ถูกจับกุมตัวที่สนามบินนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น ข้อหาครอบครองอาวุธและเครื่องกระสุนที่สนามบินนาริตะ ประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2558 วันนี้ (25 มิ.ย.) พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เปิดเผยกับคลื่นเอฟเอ็ม 100.5 ว่า ช่วงเช้าวันนี้ทนายได้พบกับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ก่อนที่ช่วงบ่ายทางทนายได้เข้าพบกับอัยการของประเทศญี่ปุ่น
“ความคืบหน้าช่วงนี้ก็คือ ทางทนายก็ได้พบกับพี่แจ๊ดตอนเช้า แล้วก็ได้พบกับพนักงานอัยการตอนบ่าย เพื่อให้ข้อมูลในเชิงแก้ต่างบอกว่าเหตุที่เราเอาปืนมา มายังไงนะครับ เป็นเรื่องของการอธิบายว่าเราลืมยังไง อะไรยังไง ไม่ได้มีเจตนาที่จะเอาไปใช้ ก็อยู่ในกระเป๋าที่โหลดมาตั้งแต่แรก ... ที่ท่านไปนี่ก็ไปตามคำเชิญของประเทศญี่ปุ่น ไม่ได้ไปเอง ไปตามคำเชิญของส่วนจังหวัด จังหวัดใดจังหวัดหนึ่งที่เชิญไปดูงาน” โฆษก ตร.กล่าวแก้ต่างให้ อดีต ผบช.น.
โฆษก ตร.ยังเปิดเผยถึงที่มาที่ไปของปืนที่อยู่ในกระเป๋าของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์จนกระทั่งถูกจับด้วยว่า “จากคำบอกเล่าของท่านคำรณวิทย์ ทั้งสองวันที่ไปคุยมานี่ ปืนเนี่ยอยู่ในกระเป๋าเล็กๆ เป็นปืนเล็กๆ อยู่ในกระเป๋าของท่าน กระเป๋าที่เรียกว่าเป็นกระเป๋าให้การรักษาเรื่องฝังเข็ม ท่านมีกิจกรรม หรืองานอดิเรกอย่างหนึ่งเป็นแพทย์ทางเลือก คือ ฝังเข็ม ท่านก็มีอุปกรณ์ของท่านในการฝังเข็ม แล้วก็ปืนเนี่ยไปอยู่ในกระเป๋าซึ่งเป็นกระเป๋ารวม แล้วปืนที่ว่านี่ขนาดเล็กนะครับ (ปืนรุ่น North American Arms .22 Magnums) เล็กกว่าฝ่ามือ เพราะฉะนั้นก็เวลาพับแล้วก็ใหญ่กว่ากุญแจรถเบนซ์นิดเดียวนะ
“ปืนนี้ก็จะไปอยู่กระเป๋านานแล้ว ใช่ไหมครับ ผมก็ให้ข้อมูลไปว่าก็ลองไปดูรอยกดทับของกระเป๋า เพราะปืนมันอยู่นานก็มีรอยกดทับของวัสดุที่เป็นด้านข้างของกระเป๋า จะเห็นได้ว่าปืนอยู่ในกระเป๋านานแล้ว แล้วก็เป็นไปได้ว่าขามาก็โหลดมา ขากลับก็โหลดกลับ แสดงว่าปืนนี่ก็ไม่ได้เปิดเข้าไปเจอ”
ทั้งนี้ พล.ต.ท.ประวุฒิยืนยันว่าคำให้สัมภาษณ์ดังกล่าวไม่ได้เป็นการสันนิษฐาน แต่เป็นคำบอกเล่าจริงๆ จากปากของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ พร้อมกล่าวว่า
ก็เป็นไปได้ที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์จะลืมจริง เพราะคนทั่วไปก็ลืมของเอาไว้ในกระเป๋าบ้าง แม้แต่ตนเองก็เคยลืมมีดพกไว้ในกระเป๋าลาก
เมื่อถามว่าหาก พล.ต.ท.คำรณวิทย์ลืมปืนและเครื่องกระสุนเอาไว้ในกระเป๋าเดินทางจริงๆ เหตุใดจึงสามารถผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยของสนามบินสุวรรณภูมิไปได้ โฆษก ตร.ระบุว่า ก็เพราะเป็นการโหลดกระเป๋าสัมภาระลงใต้ท้องเครื่องบิน ซึ่งเท่าที่ตนทราบกระเป๋าที่โหลดลงใต้ท้องเครื่องบินจากสนามบินสุวรรณภูมิก็จะต้องผ่านเครื่องเอ็กซเรย์ซีทีเอ็กซ์ทุกชิ้น ซึ่งประเด็นนี้ต้องคุยกันในรายละเอียด โดยทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีการมอบหมายให้ผู้บัญชาการตำรวจภาค 1 ลงไปดูรายละเอียดตรงนี้เพิ่มเติมด้วย อย่างไรก็ตามทางการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทยยืนยันว่าไม่มีปืนผ่านเครื่องไป ซึ่งขัดกับคำบอกเล่าของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์
“ไม่ทราบแต่ปืนบางประเภทเนี่ยเล็กมาก อาจจะหลุดรอดไปได้ เพราะวันนึงของเป็นแสนชิ้น เพราะฉะนั้นก็มีโอกาสที่จะหลุดรอดไปได้ มันเล็กมาก แล้วก็ถ้ามองในแนวตั้งจะมีปัญหาทันที” พล.ต.ท.ประวุฒิระบุ ซึ่งก็ต้องนำสำเนาภาพถ่ายเอ็กซเรย์กระเป๋าเดินทางของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์มาดู
สำหรับความแตกต่างของกรณีการถูกจับที่ประเทศญี่ปุ่นของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ และนักศึกษาไทย 5 คนในปากีสถาน โฆษก ตร.อธิบายว่าในกรณีของ 5 นักศึกษาไทยนั้นอาวุธที่ถูกจับเป็นอาวุธปืนที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งยังรับมาจากประเทศปลายทาง
ฝังเข็ม งานอดิเรกที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์โปรดปราน
ที่มา ASTV ผู้จัดการ
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!