โหดผิดมนุษย์ฆ่าย่างสด4ศพเหยื่อผู้บริสุทธิ์

สุดโหดผิดมนุษย์ แนวร่วมป่วนใต้เหิมเกริมหนัก


ตามฆ่า-เผา เหยื่อผู้บริสุทธิ์วันเดียว 4 ศพ สองทหารผู้กล้า ส.อ.-อส.ทพ. ถูกซุ่มถล่มยิงขณะกำลังจะออกไปหาข่าวดิ้นกลางถนน โจรใต้กรูออกจากป่าตามซัลโวซ้ำหัวกระจุย ก่อนจุดไฟเผา อีกรายสองผู้เฒ่าพี่น้องตระกูล อนุบุตร ซ้อนท้ายกลับจากทำธุระถูกตามประกบยิงบาดเจ็บ สุดเหี้ยมเดินมาราดน้ำมันจุดไฟเผาทั้งเป็น ยังเหิมไม่เลิกพาพวกบุกเผาโรงเรียน-ฟาร์มไก่ย่างสด 4 พันตัว นักวิชาการเผย 3 ปีไฟใต้ลามสังเวยตายเจ็บแล้ว 6,854 คน ระบุรัฐทุมงบแก้ปัยหากว่า 3 หมื่นล้านแต่ไร้ผล ชี้นโยบายสมานฉันท์ยังไม่มีอะไรที่เป็นรูปธรรม

สถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเมื่อเวลา 04.30 น. วันที่ 24 มิ.ย. ร.ต.ต.ครรชิตพล กึนอ ร้อยเวร สภ.อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายลอบวางเพลิงอาคารเรียน โรงเรียนบ้านซือเลาะ หมู่ 4 ต.เรียง หลังรับแจ้งจึงระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง รวมทั้งหน่วยบรรเทาสาธารณ ภัยเทศบาลตำบลรือเสาะ ร่วมเดินทางไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงระหว่างทางเขตพื้นที่ ต.เรียง พบคนร้ายโปรยตะปูเรือใบและวางระเบิดเพื่อสกัดกั้นเจ้าหน้าที่ตลอดเส้นทาง จึงต้องเสียเวลาเคลียร์พื้นที่

เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบว่า เพลิงกำลังลุกไหม้ 2 จุด


จุดแรกคือบริเวณอาคารเรียนไม้ชั้นเดียวได้รับความเสียหายทั้งหลังรวม 6 ห้อง คือ ห้องอนุบาล 1 และอนุบาล 2 ห้องพยาบาล ห้องละหมาด ห้องสหกรณ์และห้องสมุด ส่วนจุดที่ 2 เป็นอาคารเรียน 2 ชั้นครึ่งตึกครึ่งไม้ซึ่งอยู่ข้างประตูทางเข้า

โดยเพลิงกำลังลุกไหม้ห้องสื่อการเรียนการสอน

เจ้าหน้าที่และชาวบ้านจึง ได้กระจายกำลังกันขนย้ายอุปกรณ์สื่อการเรียนการสอน ควบคู่กับการฉีดน้ำสกัดกั้นต้นเพลิง โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที เพลิงจึงสงบลง ทำให้ห้องสื่อการเรียนการสอนได้รับความเสียหายเพียงห้องเดียว

จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ

เจ้าหน้าที่พบแกลลอนน้ำมันพลาสติกขนาด 5 ลิตร จำนวน 1 ลูก สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุพยานระบุว่า ได้มีคนร้ายจำนวน 4-5 คน แฝงตัวเข้าไปในโรงเรียน แบ่งกำลังเป็น 2 จุด ทำการงัดประตูและหน้าต่างของอาคารเรียนทั้ง 2 หลัง แล้วใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่เตรียมมา ทำการราดที่กองหนังสือแล้วจุดไฟเผาก่อนที่จะหลบหนีไป

ต่อมาเวลา 09.00 น.


ร.ต.ต.วรพงศ์ กล่อมสกุล ร้อยเวร สภ.อ.รือเสาะ ได้รับแจ้งมีคนร้ายดักซุ่มยิงและจุดไฟเผาเจ้าหน้าที่ทหารพราน สังกัดกองร้อยที่ 4404 กรมทหารพรานที่ 44 เสียชีวิต 2 นาย บนถนนในหมู่บ้านปูโป หมู่ 1 ต.สามัคคี จึงรีบนำกำลังไปตรวจสอบ พบศพ ส.อ.จักรพงศ์ พลเงิน ซึ่งถูกเผาแล้วยังมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนสงครามอาก้าที่บริเวณแผ่นหลัง,หน้าอกและศีรษะ รวม 3 นัด และ อส. ทหารพรานธวัชชัย มณีแสง ซึ่งถูกเผาแล้วยังมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนชนิดเดียวกันที่บริเวณชายโครง หน้าอกและศีรษะ รวม 3 นัด นอก

จากนี้ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืน อาก้าตกอยู่ที่บริเวณพงหญ้ารกทึบ ริมทางและบนถนน จำนวนกว่า 10 ปลอก จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน พร้อมทั้งนำศพผู้เสียชีวิตทั้ง 2 นาย ส่งให้แพทย์โรงพยาบาลรือเสาะ ทำการชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้ง

สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ

อส. ทหารพรานธวัชชัย ได้ขี่รถจักรยานยนต์โดยมี ส.อ.จักรพงศ์ นั่งซ้อนท้าย ทั้งคู่แต่งกายเป็นพลเรือนออกจากฐานในพื้นที่ อ.รือเสาะ เพื่อออกไปสืบเสาะหาข่าวความเคลื่อนไหวของ กลุ่มผู้ไม่หวังดี ที่แฝงตัวเคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ ต.สามัคคี มาถึงที่เกิดเหตุ

ได้มีคนร้าย จำนวน 2-3 คน ดักซุ่มอยู่ในป่ารกทึบริมทาง

ใช้อาวุธปืน อาก้าดักซุ่มยิง อส.ทหารพรานธวัชชัยและ ส.อ.จักรพงศ์ กว่า 10 นัดซ้อน เมื่อรถเสียหลักล้มคว่ำ คนร้ายได้วิ่งกรูออกจากป่าและใช้อาวุธปืนอาก้ายิงซ้ำที่ศีรษะทหารทั้ง 2 นายคนละ นัด เพื่อให้มั่นใจว่าเสียชีวิต แล้วคนร้ายได้รื้อค้นตัวทหารทั้ง 2 นาย หยิบเอาอาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9 มม.ของ อส.ทหารพรานธวัชชัย และอาวุธปืนพกสั้น ขนาด 11 มม. ของ ส.อ.จักรพงศ์ ไป 2 กระบอก แล้วก่อนหลบหนีคนร้ายจึงได้นำน้ำมันเชื้อเพลิงที่เตรียมมาราดไปยังศพทหารทั้ง 2 นายแล้วจุดไฟเผา

วันเดียวกัน น.ท.บุญเกิด มูลกัน

ฝ่ายตำรวจทหารและฝ่ายปกครอง 300 นาย ใช้กฎอัยการศึกกระจายกำลังกันบุกจู่โจมตรวจค้นเป้าหมาย 20 จุดในพื้นที่ 2 หมู่บ้านของตำบลซากอ อ.ศรีสาคร และตำบลรือเสาะ อ.รือเสาะ เพื่อจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยก่อคดีความมั่นคงที่แฝงตัวเคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ หลังสอบสวนนายอารีเพ็ง เจ๊ะและ อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาที่ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ขี่รถจักรยานยนต์พามือปืนมาบุกยิงนางทิพย์ภาพร ทรรศนโนภาส และน.ส.ยุพา เซ่งวัส 2 ครูสาว โรงเรียนบ้านซากอ อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส เสียชีวิตเมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 50 ที่ผ่านมา ภายในห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา

จากการตรวจค้นนานกว่า 4 ชั่วโมง


และสามารถจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 3 ราย คือ นายสุภินันท์ เจ๊ะซิตะ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 118 หมู่ 1 บ้านซากอ ต.ซากอ อ.ศรีสาคร นักจัดรายการประจำสถานีวิทยุ ร้อย ปจว. ซึ่งตั้งอยู่ภายในด้านหลังเขตบริเวณโรงเรียนบ้านซากอ และ

จากการสอบสวนในเบื้องต้นนายสุภินันท์ ให้การรับสารภาพ

ว่าเป็นผู้ทำหน้าที่ดูต้นทางและชี้เบาะแสให้กลุ่มคนร้าย แต่ปฏิเสธไม่ใช่เป็นมือปืนยิง 2 ครูสาว และเข้าเป็นสมาชิกขบวนการกลุ่ม อาร์.เค.เค.มาแล้ว 6 ปี รวมทั้งลักลอบก่อคดีความมั่นคงในพื้นที่มาแล้วหลายคดี

ส่วนรายที่ 2 คือนายอับดุลอาซิก ยูโซ๊ะ อายุ 22 ปี

อยู่บ้านเลขที่ 240 หมู่ 10 บ้านบาเร๊ะ ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ ซึ่งเจ้าหน้าที่มีบัญชีรายชื่ออยู่ในหมาย พ.ร.ก. ก่อคดีความมั่นคงอย่างโชกโชน เช่น ยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บที่ร้านน้ำชา ใน อ.รือเสาะ เมื่อปี 2548, วางระเบิดเจ้าหน้าที่กำลังผสมที่ปฏิบัติหน้าที่ รปภ.ครูในพื้นที่ อ.รือเสาะ เมื่อ ปี 2549, ยิงรถเก็บขยะเทศบาลตำบลรือเสาะ เมื่อต้นปี 2550 และลอบยิงพนักงานพีอาร์.เซาว์เทิร์น เสียชีวิต 2 ศพในพื้นที่ อ.รือเสาะ เมื่อต้นปี 2550

รายที่ 3 คือ นายมะสุกรี สามะยีแซ อายุ 22 ปี

อยู่บ้านเลขที่ 248/1 หมู่ 10 บ้านบาเดร๊ะ ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ ซึ่งมีบัญชีรายชื่อ อยู่ในหมาย พ.ร.ก. ก่อคดีความมั่นคงในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมก่อเหตุวางระเบิดเจ้าหน้าที่กองกำลังผสม ขณะปฏิบัติหน้าที่ รปภ.ครู ในพื้นที่ อ.รือเสาะ เมื่อปี 2549 และร่วมก่อเหตุวางระเบิดในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ทั้ง 2 ครั้งที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้นำตัวบุคคลทั้ง 3 ราย ไปทำการสอบสวนขยายผลตามกระบวนการที่ศูนย์ซักถาม ค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานีแล้ว

ที่ จ.ยะลา เวลา 09.45 น.

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ.เมืองยะลา ได้รับแจ้งมีคนร้ายขึงแผ่นป้ายผ้าสีขาว มีข้อความเขียนโจมตีการทำงานของ กอ.รมน. อยู่ริมถนนสายโกตาบารู-ยะลา บ้านบูเกะคละ หมู่ 6 ต.บุดี อ.เมือง จ.ยะลา จึงประสานไปยังทหารชุด ฉก.15 เข้าไป

ตรวจสอบพบป้ายผ้าดังกล่าวสีขาวมีข้อความว่า "กอ.รมน. หาโจรไม่เจอเลยหันมาเล่นงานประชาชน" จำนวน 3 ผืน ขึงอยู่กับต้นมะขามและใต้ต้นไม้มีกล่องต้องสงสัยวางอยู่ เมื่อยิงทำลายพบเป็นถังน้ำมันบรรจุทราย แต่ระหว่างที่เจ้าหน้าที่เข้าไปปลดกลับถูกน้ำกรดที่ซ่อนไว้ไหลถูกตัวได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

ถัดมาเวลา 11.00 น.

เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนย่องเข้าไปเผาฟาร์มเลี้ยงไก่ ตั้งอยู่ที่หมู่ 4 ริมถนนสายเนินงาม-เนินหุกวาง ต.บุดี ซึ่งเป็นของนายสุนิตย์ หิรัญกุล อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46/63 หมู่ 9 ต.สะเตงนอก อ.เมือง ทำให้ไก่ที่เลี้ยงอยู่ 4,000 ตัว เสียหายทั้งหมด

นายสุนิตย์ กล่าวว่า ตนทำฟาร์มไก่เนื้อส่งขายในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มานาน ซึ่งหลังเกิดเหตุทำให้หมดตัว ไม่มีเงินจะจ้างลูกน้อง จึงอยากให้ภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือ

ด้าน จ.ปัตตานี เวลา 14.00 น.

พ.ต.อ. มนัส ศิกษมัต ผกก.สภ.อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งมีคนถูกฆ่าแล้วเผาบนถนนสายยามู-ตาแกะ หมู่ 5 บ้านดินแดง ต.ยามู จึงนำกำลังไปตรวจสอบพบศพผู้เสียชีวิต 2 ศพถูกเผาพร้อมรถจักรยานยนต์ ทราบชื่อ นายสุจิน อนุบุตร อายุ 75 ปี

สภาพถูกยิงด้วยอาวุธปืนพกสั้นไม่ทราบชนิดที่ศีรษะและท่อนล่างตั้งแต่ตะโพกลงไปถูกเผาจนไหม้เกรียม และ นายอำพันธ์ อนุบุตร อายุ 60 ปี สภาพถูกเผาไหม้เกรียมตั้งแต่ศีรษะจนถึงตะโพก ทั้งคู่อยู่บ้านเลขที่ 336 หมู่ 2 ต.ยามู อ.ยะหริ่ง ในที่เกิดเหตุพบหัวกระสุนและหมวกกันน็อกสีขาวของผู้ตายมีรูถูกยิง จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

สอบสวนทราบว่าผู้ตายเป็นพี่น้องกัน

ก่อนเกิดเหตุขณะกำลังขี่รถจักรยานยนต์จะเข้าไปในหมู่บ้านเพื่อชมมวยตู้ มาถึงที่เกิดเหตุมีคน ร้าย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบยิงได้รับบาดเจ็บ จากนั้นคนร้ายได้ตามมายิงซ้ำก่อนราด น้ำมันเบนซินจุดไฟเผาอย่างโหดเหี้ยม แล้วหลบหนีไป

เวลาไล่เลี่ยกัน

นายสการียา เจ๊ะแต อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 71/4 หมู่ 4 ต.เมาะมาวี อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ขับรถปิกอัพกลับมาจากทำธุระและกำลังมุ่งหน้าจะกลับบ้านพัก มาถึง บนถนนสาย 410 ปัตตานี-ยะลา หมู่ 5 ต.เมาะมาวีถูกคนร้าย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ตามมาใช้ปืนอาก้าถล่มยิง แต่นายสการียา ไหวตัวทันจึงขับรถหลบหนีโดยไม่ได้รับบาดเจ็บ กระสุนถูกเพียงตัวรถยนต์

ที่ จ.สงขลา เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงเรียนบ้านมุณี

หมู่ 4 ต.จะแหน อ.สะบ้าย้อย ภายหลังจาก พ.ต.อ.ธัมมศักดิ์ วาสะศิริ ผกก. สภ.อ.สะบ้าย้อย นำกำลังตำรวจและฝ่ายปกครองรวมทั้งรถดับเพลิงเข้าไปตรวจสอบ

พบว่าไฟได้ลุกไหม้อาคารเรียนชั้นอนุบาล ซึ่งมี 3 ห้องเรียนแต่ถูกไฟไหม้เสียหายไป 2 ห้องโชคดีที่ขณะเกิดเหตุ ชรบ.และชาวบ้านรวมทั้งรถดับเพลิงได้ช่วยกันดับไฟไว้ได้ก่อนที่จะลุกไหม้เสียหายหมดทั้งหลัง จากการตรวจสอบพบว่าเป็นการลอบวางเพลิง เนื่องจากพบเศษกระสอบป่านชุบน้ำมันเบนซินอยู่ในซากกองเพลิง โดยคาดว่าเป็นฝีมือของกลุ่มแนวร่วมในพื้นที่

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์