มือปืนยอมเปิดปาก ใบสั่งฆ่า เมีย´เสี่ย´โรงค้าไม้

อายุ 50 ปี ภรรยานายสมชาติ ยงพิศาลภพ เสี่ย เจ้าของโรงไม้ทวีกิจพาณิชย์ เลขที่ 180/8 ถนนราชวิถี อ.เมืองนครปฐม เสียชีวิตคาโรงไม้ เมื่อเย็นวันที่ 23 มิ.ย. ที่ผ่านมา หลังก่อเหตุตำรวจตามล่าจับกุม 2 คนร้ายได้ ทันควันคือ นายคณิต สังข์ทอง อายุ 20 ปี คนขี่รถ จยย. และนายสมบัติ ภมรวงศ์ อายุ 42 ปี มือปืนที่ลั่นไก สอบสวน นายคณิตอ้างว่า ถูกนายสมบัติหลอกให้ขี่รถ จยย.มาส่ง

โดยไม่รู้ว่าจะมายิงคนตาย

ส่วนนายสมบัติยังให้การปฏิเสธ เบื้องต้นตำรวจพุ่งปมชู้สาว เนื่องจากผู้ตายและญาติเพิ่ง ส่งนายสมชาติ ยงพิศาลภพ สามี ไปรักษาอาการป่วยทางจิต ที่สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ เพราะเชื่อว่าถูกหญิงอื่นทำคุณไสยปอกลอกเอาทรัพย์สิน

แต่กลุ่มเพื่อนของนายสมชาติ

ยื่นหนังสือต่อ รมช.สาธารณสุข ให้ตรวจสอบเรื่อง ดังกล่าว เพราะเชื่อว่านายสมชาติไม่ได้ป่วยทางจิต จน เป็นข่าวดังเช่นเดียวกับกรณี นพ.ประกิตเผ่า ทมชิตชงค์ กับอีกประเด็นเรื่องขัดผลประโยชน์ธุรกิจค้าไม้นั้น

. พ.ต.อ.ภาสกร กลั่นหวาน ผกก.สภ.อ.เมืองนครปฐม กล่าวว่า หลังจากตำรวจเค้นสอบสวนตลอดทั้งคืน ในที่สุดนายสมบัติ ภมรวงศ์ มือปืน ก็ยอมเปิดปากรับสารภาพแล้วว่าได้รับว่าจ้างจากลูกพี่คนหนึ่งให้ลงมือสังหารผู้ตาย โดยเข้าพักที่โรงแรม ม่านรูดฟอลโล่อินน์ ถนนต้นโพธิ์ เขตเทศบาลนครนครปฐม กับนายคณิต สังข์ทอง หลานชาย ที่รับหน้าที่ขี่รถ จยย. จากนั้นผู้จ้างวานได้พาตระเวนดูเป้าหมายก่อนลงมือโหด 1 วัน

แสดงว่าที่นายคณิตให้การในตอนแรกไม่เป็นความจริง

หลังผู้ต้องหารับสารภาพแล้ว ตำรวจได้นำตัวนายสมบัติ ไปตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 225 ถนนชัยชุมพล ต.บ้านใต้ อ.เมืองกาญจนบุรี เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม อาทิ จดหมาย สมุดบันทึก หรือเอกสารอื่นๆในการติดต่อกับผู้จ้างวาน ขณะเดียวกันได้พานายคณิตไปตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 171 หมู่ 11 ต.ดอนแฉลบ อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี เพื่อตรวจ หาหลักฐานเพิ่มเติมเช่นกัน

ด้าน พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.ภ.7 เผยว่า

คดีที่เกิดขึ้นถือเป็นคดีที่โหดเหี้ยมมาก ได้สั่งการให้ พ.ต.อ. เรวัช กลิ่นเกสร รอง ผบก.หน.ศสส.ภ.7 และ พ.ต.อ.สมชาย รักเสนาะ ผกก.ศสส.ภ.7 นำกำลังลงไปช่วยคลี่คลายคดีพร้อมรายงานให้ทราบทุกระยะ

ล่าสุด ทราบว่าผู้ต้องหาที่ตอนแรกปฏิเสธ

ขณะนี้รับสารภาพแล้วว่าเป็นมือปืนสังหาร โดยรับงานจากลูกพี่ที่เป็นอดีตมือปืน แต่ไม่กล้าทำงานเอง กลัวว่าจะถูกตำรวจสาวถึงตัว จึงจ้างวานนายสมบัติมาทำงานอีกทอดหนึ่ง นอกจากนี้ นายสมบัติยังเปิดเผยด้วยว่า ตัวเองเป็นโรคร้ายรักษาไม่หาย รู้ตัวว่าจะต้องตายใน ไม่ช้านี้ จึงคิดหาเงินสักก้อนหนึ่งไว้เที่ยวกินให้หนำใจก่อนตาย ใครจะมาจ้างทำอะไรก็รับหมด โดยไม่คำนึงถึงชีวิตตัวเอง เพราะอย่างไรก็ต้องตายแน่

ในส่วนของผู้จ้างวาน ขณะนี้เตรียมขออนุมัติศาลออกหมายจับกุมแล้ว พร้อมทั้งสั่งการ ให้ชุดสืบสวนภาค 7 ตามประกบตัวไว้ตลอดเวลา หากศาลอนุมัติหมายจับเมื่อไหร่ก็จะจับกุมตัวได้ทันที สำหรับประเด็นสังหารยังไม่สามารถเปิดเผยได้ นอกจากนี้ บรรดาญาติของผู้ตายได้นำเอกสารลับฉบับหนึ่งที่ผู้ตายเขียนบันทึกเรื่องราวเกี่ยวกับนายสมชาติ สามี ตั้งแต่ปี 2549

จนกระทั่งถูกส่งตัวเข้ารักษา

อาการทางจิตที่สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ เมื่อวันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา มีการบันทึกเหตุการณ์ต่อเนื่องเรื่อยมา แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยบันทึกเล่มดังกล่าวได้ อาจจะมีการโยงไปถึงผู้จ้างวานตัว จริง เพราะมีการสูญเสียผลประโยชน์ เนื่องจากนายสมชาติ มีฐานะดีอยู่ในขั้นเศรษฐีคนหนึ่ง คาดว่า หากศาลออกหมายจับกุมคนติดต่อมือปืนก็จะสาวไปถึงผู้จ้างวานได้ อย่างไรก็ตาม ตำรวจยังไม่สามารถเข้าสอบปากคำนายสมชาติได้ เพราะอยู่ระหว่างการรักษาอาการทางจิต และแพทย์ห้ามเข้าเยี่ยมเด็ดขาด

บ่ายวันเดียวกัน

ญาติเดินทางไปรับศพนางสุกัญญา ยงพิศาลภพ ที่สถาบันนิติเวช นำกลับไปบำเพ็ญกุศลที่ ศาลา 5 วัดพระปฐมเจดีย์ ก่อนจัดพิธีรดน้ำศพในเวลา 16.00 น. โดยมีแขกเหรื่อมาร่วมงานจำนวนมาก ต่างจับ กลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ถึงความโหดเหี้ยมอำมหิตของแก๊งมือปืน รวมทั้งผู้จ้างวานเบื้องหลังที่วางแผนฆ่าโหดได้ทั้งที่เหยื่อ เป็นผู้หญิงไม่มีทางต่อสู้

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ