บุกรวบแก๊งตีนแมว งัดรร.ทั่วอีสานล่าง เน้นฉกคอมพิวเตอร์

เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. พร้อมด้วยพ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รักษาการ ผบก.ป. ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายณัฐวุฒิ สุทธิประภา อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 91/114 หมู่ 3 ต.หนองปลาไหล อ.เมือง จ.สระบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ จ.131/2558 ลงวันที่ 16 มิถุนายน พร้อมของกลางอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และโสตทัศน์ศึกษา อุปกรณ์ทำลายสิ่งกีดกั้น อาทิ แชลง คีม ที่ตัดกระจก ไขควง มีดคัตเตอร์ เครื่องถอดสกรูไฟฟ้า และอื่นๆอีกหลายรายการ โดยสามารถทำการจับกุมได้ที่บ้านพักเลขที่ 91/114 ม.3 ต.หนองปลาไหล อ.เมือง จ.สระบุรี

พ.ต.อ.อัคราเดช กล่าวว่า สืบเนื่องจากช่วง 1-2 ปี ที่ผ่านมา มีมิจฉาชีพออกตระเวนลักทรัพย์คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์โสตทัศน์ศึกษาตามโรงเรียนชนบทหลายแห่งในพื้นที่ภาคอีสานตอนล่าง สร้างความเดือดร้อนให้แก่นักเรียนเป็นอย่างมาก จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ป. ลงพื้นที่สืบสวนหาข่าว จนทราบว่าหัวขโมยดังกล่าวมีการร่วมมือทำกันเป็นขบวนการ โดยมี นายณัฐวุฒิ เป็นตัวการสำคัญทำหน้าที่คอยสั่งการและร่วมกระทำผิด ตลอดจนการนำของกลางไปขายในแหล่งรับซื้อต่างๆ จึงตามแกะรอยจนทราบว่า ได้หลบหนีกลบดานอยู่ภายในบ้านเลขที่ 91/114 หมู่ 3 ต.หนองปลาไหล อ.เมือง จ.สระบุรี จึงนำกำลังพร้อมหมายจับเข้าจับกุม ก่อนขยายผลตรวจค้นภายในบ้านพักจนพบของกลางดังกล่าว

จากการสอบสวน นายณัฐวุฒิ ให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้เคยมีอาชีพขายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ จึงมีความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าพอสมควร แต่เนื่องจากถูกดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์ของนายจ้างเมื่อปี 2556 ทำให้ตกงาน จากนั้นจึงได้รับการชักชวนจากเพื่อนอีก 3 คน ให้ร่วมกันขับรถออกตระเวนลักทรัพย์อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ตามโรงเรียนชนบทต่างๆ ในเขตพื้นที่ภาคอีสานตอนล่าง เนื่องจากโรงเรียนเหล่านี้จะมีการระวังป้องกันค่อนข้างต่ำ จึงง่ายต่อการลงมือ โดยตนมีหน้าที่ดูต้นทาง ส่วนทรัพย์สินที่ได้มาจะนำไปขายต่อให้กับร้านรับซื้อ หรือร้านจำหน่ายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ตามห้างสรพสินค้า อาทิ ห้างสรรพสินค้าเซียร์รังสิต ห้างพันธ์ทิพย์งามวงศ์วาน และขายกลางผ่านอินเตอร์เน็ต โดยเงินที่ได้มาก็จะนำไปใช้จ่ายเลี้ยงชีพและเล่นการพนันที่ประเทศเพื่อนบ้าน

พ.ต.อ.อัคราเดช กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบอย่างละเอียดทราบว่า นายณัฐวุฒิ กับพวก ลงมือก่อเหตุโจรกรรมอุปกรณ์การศึกษาโรงเรียนต่างๆ ใน จ.บุรีรัมย์ และ จ.สุรินทร์ กว่า 20 แห่ง คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 4 ล้านบาท โดยเบื้องต้นจะนำตัวส่งให้กับพนักงานสอบสวน สภ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมขยายผลติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการที่เหลือต่อไป

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์แนวหน้า


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์